ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย เผยรัฐพร้อมช่วยบ้านเสียหายต้องสร้างใหม่ทั้งหลังรายละกว่า 2 แสนบาท ขณะที่ทหารล่องเรือแจกถุงยังชีพช่วยชาวบ้านที่น้ำยังท่วม

นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยกล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัย จึงได้มอบหมายให้สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารจัดการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยประชาชนผู้ประสบอุทกภัยจนเสียชีวิต จะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 50,000 บาท

ส่วนที่สองคือการให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย หากได้รับความเสียหายทั้งหลังจะได้รับค่าวัสดุในการปลูกบ้านใหม่ในวงเงินหลังละ 220,000-230,000 บาท หากได้รับความเสียหายมากจะได้รับเงินช่วยเหลือ 50,000 บาท เสียหายบางส่วน ได้รับเงินช่วยเหลือ 15,000 บาท ส่วนที่ 3 คืออุปกรณ์ดำรงชีพ จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยรายละ 5,000 บาท ส่วนที่ 4 คือการจัดตั้งโรงครัวในการหุงหาอาหาร กรณีที่ประชาชนไม่สะดวกในการหุงหาอาหาร จะมีการดูแลพี่น้องประชาชนโดยการจัดทำอาหารให้ 3 มื้อต่อวัน

โดยให้จังหวัดอุบลราชธานีสำรวจความเสียหายและส่งข้อมูลให้สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยวันนี้ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบเงินจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 50,000 บาท แก่ทายาทของนางนงค์ ทองคำ อายุ 37 ปี ที่จมน้ำเสียชีวิตที่ลำน้ำห้วยสวาสดิ์ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. จากพายุเซินกา

ขณะที่พลเอกหัสพงศ์ ยุวนวรรธนะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย ได้ตรวจดูสถานการณ์น้ำในพื้นที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีประชาชนจำนวน 10 ชุมชน ถูกน้ำท่วม โดยส่วนหนึ่งได้อพยพหนีภัยน้ำท่วมไปพักพิงในศูนย์อพยพที่เทศบาลจัดให้ แต่อีกส่วนยังคงพักอาศัยอยู่ชั้นที่ 2 ของบ้าน เพื่อดูแลทรัพย์สินไม่ยอมอพยพออกมา

ซึ่งพลเอกหัสพงศ์ ยุวนวรรธนะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย ได้นำถุงยังชีพลงเรือท้องแบนตระเวนแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ยังพักอาศัยอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วมด้วย