เสวนา 2 ปี สปท. พรรคการเมือง และ นักวิชาการ เห็นตรงกัน ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้รัฐราชการเข้าครอบงำ ทำให้การปฏิรูปเดินอยู่ในวังวนเดิม จึงไม่ได้คาดหวังการทำงานของ สปท.ตั้งแต่ต้น

 

เสวนา 2 ปี สปท.ไร้ผลงาน ถูกวางตัวเป็นแค่ที่ปรึกษานายกฯ

วานนี้ (23 ก.ค.) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเวทีราชดำเนินเสวนาในหัวข้อ 2 ปี สปท. สังคมได้อะไรจากการปฏิรูป ซึ่งมีสมาชิกพรรคการเมือง นักวิชาการ และ อดีต สปท. ร่วมเสวนา ช่วงหนึ่งของการเสวนา

นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้พยายามชี้แจงทำความเข้าใจถึงข้อจำกัดในการทำงานของ สปท. ที่โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ และผลงานส่วนใหญ่จะเป็นรายงานทั้งหมด ไม่มีอำนาจดำเนินการในรูปแบบอื่นได้ เพราะถูกแต่งตั้งเป็นเพียงที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ไม่นับเป็นสมาชิกรัฐสภา ดังนั้น จึงคาดหวังไม่ได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และเหมือนมี สปท.ไว้เป็นกันชนเท่านั้น

ด้าน นายชวลิตร วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปฏิรูปของรัฐบาลที่ผ่านมา ขาดการจัดลำดับความสำคัญรัฐบาลไม่ได้ค้นหาหัวใจของปัญหาบ้านเมือง และทุกครั้งที่เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร จะเกิดรัฐราชการ ครอบคลุมทุกอย่างทันที ทำให้ประเทศไทยก้าวไม่ทันนานาชาติ เศรษฐกิจตกต่ำ เพราะนักลงทุนไม่กล้าเสี่ยง ทำให้รัฐลงทุนเพียงฝ่ายเดียว

ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต มองว่า 2 ปี สปท.อำนาจการปฏิรูปอยู่ที่รัฐราชการเป็นหลัก ทำให้การปฏิรูปที่ผ่านมาไม่เห็นผล แต่หากรัฐจะเริ่มในตอนนี้ ควรเริ่มที่คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคี ปรองดอง (ป.ย.ป.) น่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และเรื่องแรกที่ต้องปฏิรูป คือ ระบบราชการ

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ทุกคนยอมรับว่า ประเทศไทยเหมาะสมกับรัฐกึ่งประชาธิปไตยมากกว่ารัฐประชาธิปไตย และในอนาคตข้างหน้าจะไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างที่เราเห็น เพราะทุกอย่างถูกกำหนดโดยรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งต้องยอมรับกติกานั้น ส่วนความขัดแย้งของคนยังมีอยู่ เพียงแต่ตอนนี้ถูกปิดไว้เท่านั้น

 

"สปท."ผ่านรายงานปฎิรูป 190 เรื่อง

ขณะที่ ในวันที่ 31 กรกฎาคม เวลา 10.00น. จะเป็นการประชุม สปท.ครั้งสุดท้าย ก่อนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.จะเดินทางมาเพื่อแสดงความขอบคุณ และจะมีการรับมอบผลการศึกษาและข้อเสนอแนะในการปฏิรูปด้านต่างๆจากสปท. ในวันที่ 31 กรกฎาคม เวลา 10.00 น.

โดยจะมีผู้ร่วมเข้าร่วมงานทั้ง คสช.  คณะรัฐมนตรี(ครม.)  สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)  สปท. กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ) และหัวหน้าส่วนราชการ และนายกรัฐมนตรี จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองให้ผู้เข้าร่วมงาน ที่รัฐสภาด้วย

สำหรับการทำงานของสปท.ที่ผ่านมา มีการสรุปผลให้ความเห็นชอบรายงานการปฏิรูปของคณะกรรมาธิการทั้ง 12 คณะ คณะกรรมการและกมธ.วิสามัญ รวม 190 เรื่อง

เสวนา 2 ปี สปท.ไร้ผลงาน ถูกวางตัวเป็นแค่ที่ปรึกษานายกฯ