ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองลงพื้นที่ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของด่านตรวจคนเข้าเมืองใน อ.สะเดา หลังมีข่าวว่า เจ้าหน้าที่มีการเรียกเก็บเงิน "ค่าสินน้ำใจ" ในการจ๊อบหนังสือเดินทาง

พลตำรวจโทณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของด่านตรวจคนเข้าเมือง อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา หลังมีข่าวอื้อฉาวจากการสื่อในแระเทศมาเลเซีย ตีพิมพ์ข่าวการจ่ายเงินจำนวน 2 เหรียญริงกิต หรือประมาณ 20 บาทไทยต่อ 1 คน ในการจ๊อบหนังสือเดินทาง โดยอ้างว่าเป็นค่าล่วงเวลา แต่สื่อมาเลเซียเรียกว่าค่าสินน้ำใจ

โดย พลตำรวจโทณัฐธร เปิดเผยว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อเรียกประชุมหารือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ในการปรับปรุงระบบการทำงานให้รัดกุม บริการด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเตรียมจะนำระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติมาติดตั้ง เพื่อการเผชิญหน้าและเรียกสินบน พร้อมทั้งมีการหารือกับผู้บริหารด่านตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย เพื่อทำงานในเชิงบูรณาการ

ส่วนเรื่องที่หนังสือพิมพ์ในมาเลเซีย ตีพิมพ์ข่าวเรื่องเรียกสินบน หรือค่าล่วงเวลานั้น ก่อนหน้านี้ได้มีการ้องเรียนมาแล้ว และมีการตั้งกรรมการสอบสวน มีการย้ายนายตำรวจผู้ที่ทำผิดไปแล้วจำนวน 4 นายด้วยกัน ซึ่งในการเดินทางมาวันนี้ ได้ทำการกำชับเจ้าหน้าที่อย่าให้เกิดเหตุการณ์ร้องเรียนขึ้นอีก หากยังเกิดขึ้นและตรวจพบจะดำเนินการตามมาตรการของ คสช. คือเอาผิดทั้งวินัยและอาญา

สำหรับแนวทางในการปรับปรุงระบบการทำงานของด่าน ตม.สะเดา ได้มีการย้ายช่องตรวจขาเข้าทั้งหมดขึ้นไปบนอาคารผู้โดยสาร ซึ่งมีระบบกล้องวงจรปิดตรวจสอบการทำงานตลอดเวลา ทำให้เกิดความโปร่งใส และได้ดำเนินการให้มีการติดตั้งระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ

ส่วนประเด็นการเก็บค่าธรรมเนียมล่วงเวลา เป็นการปฏิบัติตามกฎกระทรวงฯ รายได้ในส่วนนี้ สตม. ได้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติเป็นไปตามระเบียบของทางราชการทุกประการ เพราะตามระเบียบจะเรียกเก็บเฉพาะคนโดยสารพาหนะ ที่เดินทางผ่านด่านนอกเวลาทำการ

ดังนั้นเพื่อความเข้าใจของพี่ประชาชน ตนได้สั่งการให้จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์และสติกเกอร์ขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดเจน ติดตั้งที่ช่องตรวจ ระบุชัดเจนว่าการเดินทางผ่านในเวลาราชการไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเข้าใจตรงกันของทุกฝ่าย

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีสื่อ หนังสือพิมพ์ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ ประเทศมาเลเซีย ไม่ต่ำกว่า 10 ฉบับพากันพาดหัวข่าวการเก็บเงิน "สินน้ำใจ" ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา คนละ 2 ริงกิต หรือ 20 บาทไทย หรือมากกว่านั้น แนบหนังสือเดินทางแลกกับตราประทับเข้าประเทศ ว่า สำหรับกรณีนี้ได้รับรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เบื้องต้น ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดย ตม.6 ได้ชี้แจงขั้นตอนการข้ามแดนเข้าออกประเทศว่า ในการเดินทางข้ามแดนจะมีเวลาในการดำเนินการ เช่น ข้ามแดนเวลาปกติหรือนอกเหนือจากเวลาปกติ

ซึ่งอัตราการเก็บก็จะแตกต่างกันออกไป ถ้าข้ามแดนในช่วงเวลาไม่ปกติก็จะมีการเก็บค่าล่วงเวลา มีการออกใบเสร็จรับเงินให้ตามระเบียบที่ สตม.กำหนด แต่ในประเด็นที่ปรากฏตามโลกโซเชียลก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งทาง ตม.6 มีความพยายามติดต่อกับบุคคลที่กล่าวอ้างถึงตำรวจที่เรียกรับเงินมาให้ถ้อยคำว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าในส่วนค่าสินน้ำใจ ที่ปรากฏตามข่าว ทราบว่าไม่มีด่านตม.ไหนเก็บ เมื่อมีการร้องเรียนก็ต้องตรวจสอบ ในส่วนประเด็นอื่นๆ ถ้าหากมีหลักฐานว่ามีเก็บเงินจริงก็ต้องว่ากันไป โดยเฉพาะช่วงนี้อยู่ในช่วงผ่อนปรน พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวฯ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งเด็ดขาดห้ามเรียกรับเงินไม่ว่ากรณีใดก็ตาม

คืบหน้าเจ้าหน้ที่ ตม.สะเดา เรียกรับเงินสินน้ำใจ