คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติส่งปมจริยธรรม “ธีรวัฒน์” ให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สอบต่อ หลังรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 60 ประกาศ ใช้ ระบุชัดเป็นอำนาจ ป.ป.ช. ไม่ใช่หน้าที่ผู้ตรวจฯ

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งเรื่องการตรวจสอบจริยธรรมของ นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง จากกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัย ว่า นายธีรวัฒน์ มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการแทน เนื่องจากเห็นว่า รัฐธรรมนูญ ปัจจุบันมาตรา 234 (1) บัญญัติให้การตรวจสอบการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นอำนาจหน้าที่ ของป.ป.ช. ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินดังรัฐธรรมนูญ 50

ทั้งนี้ ก่อนการมีมติดังกล่าว นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามที่ที่ประชุม กกต. เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ซึ่งมีมติเห็นชอบ โดยมี นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นประธาน

แต่ต่อมามีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 และ คณะกรรมการที่มีการตั้งขึ้นยังไม่ได้มีการประชุม ทางสำนักกฎหมายของสำนักงาน กกต. จึงเสนอประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมาย ซึ่งก็มีความเห็นว่าการตรวจสอบจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญใหม่เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. กกต. จึงสามารถที่ส่งเรื่องดังกล่าวไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการได้

กรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2559 ผู้ตรวจการแผ่นดิน โดย นายศรีราชา วงศารยางค์กูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินในขณะนั้น ได้มีหนังสือแจ้งมติที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินที่เห็น ว่า นายธีรวัฒน์ มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อเนื่องจนดำรงตำแหน่ง กกต. จริง ตามที่ประธานสภาพัฒนาการเมืองได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบมายังประธาน กกต. ในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายธีรวัฒน์ เพื่อให้ดำเนินการตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ กกต. กกต.จังหวัด และ พนักงาน กกต. พ.ศ. 2551 แต่ติดขัดในเรื่องการหาบุคคลมาทำหน้าที่กรรมการสอบสวนที่ต้องมีคุณสมบัติสูงกว่า หรือ เทียบเท่ากับผู้ถูกกล่าวหา

รวมทั้งต้องได้รับอนุญาตจากองค์กรต้นสังกัด จึงทำให้การแต่งตั้งล่าช้า และ เมื่อได้ตัวบุคคลมาทำหน้าที่ก็มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ที่บัญญัติให้อำนาจในการไต่สวนเรื่องมาตรฐานจริยธรรมเป็นของป.ป.ช. โดยตรง กกต. จึงมีมติส่งเรื่องดังกล่าวไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ

มติ กกต.ชงปมจริยธรรม “ธีรวัฒน์” ให้ ป.ป.ช.สอบต่อตามที่ รธน. 60 ระบุ