เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าขึ้นอีกครั้ง เมื่อพ่อกับแม่ของ "สามเณรปลื้ม" มีการแย่งศพของลูกชายกัน หลังฝ่ายพ่อนำศพลูกย้อนกลับมาทำพิธีเรียกวิญญาณกลับบ้านที่จุดเกิดเหตุ

นี่เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่ นางกัลยา มินกระโทก แม่ของสามเณรปลื้ม และชายอีก 1 คน ช่วยกันดึงโลงศพของลูกชายลงมาจากท้ายรถเจ้าหน้าที่กู้ภัย ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านจำนวนมาก ที่มาดูพิธีเชิญวิญญาณที่จุดฝังศพ ภายในวัดวังตะวันตก

หลังจากนายชวน เอกเกียรติกุล พ่อของสามเณรปลื้ม ได้รับศพลูกชายจากศูนย์นิติเวชสุราษฎร์ธานี มาทำพิธีเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาในอำเภอหัวไทร

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สร้างความตกใจและเศร้าสลดให้กับพระสงฆ์ภายในวัด รวมถึงชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก จนพระครูพรหมเขตคณารักษ์ รักษาการเจ้าอาวาส ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย โดยระบุว่า จะรับศพของสามเณรปลื้ม ไว้ประกอบพิธีทางศาสนาภายในวัด เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้การกระทบกระทั่งกันระหว่างนายชวน และนางกัลยา ก็ได้ลุกลามไปถึงญาติของทั้งสองฝ่ายด้วย แต่ก่อนจะเกิดเรื่องรุนแรงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าขัดขวางไว้ได้ทัน ก่อนเชิญตัวทั้งสองฝ่ายไปสงบสติอารมณ์ และไกล่เกลี่ยกันที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อจะได้หาข้อสรุปกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นายชวนเอก พ่อของสามเณรปลื้ม ได้เปิดเผยถึงสาเหตุการตายของลูกชาย ที่ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาระบุว่า สาเหตุเกิดจากการที่สามเณรปลื้ม ขโมยเงินไป ว่า ตนเองไม่เชื่อว่าลูกชายจะขโมยเงิน เพราะรู้จักนิสัยของลูกชายดี และก่อนที่ลูกชายจะหายตัวไปนั้น ตนเองก็ได้โอนเงินมาให้เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งแล้ว ตนจึงไม่รู้ว่า ลูกชายจะต้องไปขโมยเงินใครอีกทำไม 

ส่วนการดำเนินคดีกับทางผู้ต้องหานั้น เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) ทางพนักงานสอบสวน ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คือ นายเด่นชัย ภูมินิยม นางสาวปิยฉัตร อรุณสกุล และนายสุริยา กุศลสุข เข้าทำการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อทำการฝากขังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

ส่วนในการบริหารวัดของคณะสงฆ์นั้น พระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีคำสั่งแต่งตั้งพระครูพรหมเขตคณารักษ์ เจ้าคณะอำเภอพระพรหม และเจ้าอาวาสวัดสระเรียง มาเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก เป็นการชั่วคราวแล้ว

สำหรับการเข้าตรวจสอบเอกสารทางการเงินของวัดนั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระบุว่า ไม่พบบัญชีการเงิน หรือบัญชีเงินฝากของธนาคารหลงเหลืออยู่แม้แต่บัญชีเดียว และก็ไม่มีใครรู้ว่าบัญชีนั้นหายไปไหนบ้าง รวมถึงมียอดเงินคงเหลือมากน้อยแค่ไหน จึงเป็นไปได้ว่าทุกบัญชีถูกยักย้ายถ่ายโอนเงินออกไปหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม พระครูพรหมเขตคณารักษ์ ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ระบุว่า จะเร่งทำหนังสือประสานไปยังธนาคารต่างๆ เพื่อสอบถามสถานะทางบัญชีของวัด

ส่วนการจัดการภายในวัดนั้นจะร่วมกับพุทธศาสนิกชนรอบวัดจัดการทำความสะอาดวัดครั้งใหญ่ และมาร่วมกันทำนุบำรุงวัด โดยเริ่มจากภายในเพื่อจัดการสะสางปัญหาต่างๆ ไปทีละเรื่อง

คืบหน้าคดีฆ่าโบกปูนสามเณรปลื้ม