ตำรวจภูเก็ต แถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหาชาวอินเดีย ที่ใช้พาสปอร์ตปลอมเป็นชาวโปรตุเกส หลังหลบหนีจากสถานีตำรวจภูธรสาคู เผย เป็นขบวนการปลอมพาสปอร์ตไปทำงานต่างประเทศ

ตำรวจท่องเที่ยว และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาคดีปลอมพาสปอร์ต กรณีปลอมพาสปอร์ตจากสัญชาติอินเดียเป็นสัญชาติโปรตุเกส และ หลบหนีออกจากสถานีตำรวจภูธรสาคู เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังถูกส่งกลับจากประเทศเกาหลีใต้

ในวันเกิดเหตุ หลังจากเจ้าหน้าที่รับตัวผู้ต้องหาทั้งสองกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อมาสอบสวนเพิ่มเติมก่อนส่งฟ้องศาล ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ทำทีขอออกไปสูบบุหรี่ที่หน้าโรงพัก โดยมีสิบเวรประจำวันคอยเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด แต่ช่วงที่เจ้าหน้าที่เผลอ ทั้งสองได้วิ่งหลบหนีออกจากไปอย่างรวดเร็ว

ทางเจ้าหน้าที่ ก็สามารถติดตามจับกุมตัวกลับได้ เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสอง กำลังเดินอยู่บริเวณตลาดโอทอป ในตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีตำรวจภูธรสาคู ไปประมาณ 35 กิโลเมตร โดยใช้เวลาในการติดตามตัวนานกว่า 15 ชั่วโมง

พลตำรวจตรี ธีรพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่า ได้ติดต่อเครือข่ายปลอมหนังสือเดินทาง จากเอเย่นในประเทศอินเดีย ซึ่งมีเครือข่ายอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ในราคาทั้งหมด กว่า 2,000,000 รูปี หรือประมาณ 1,200,000 บาท ไทย เพื่อให้ช่วยพาไปทำงานในประเทศแคนาดา

หลังจากตกลงจ่ายเงินกันแล้ว ทั้ง 2 คน ก็ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย ตามที่เอเย่นบอก โดยเดินทางเข้ามาเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม 2560 ทางสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งตอนนั้น ทั้งสองยังใช้หนังสือเดินทางตัวจริง ก่อนเดินทางต่อมาพักที่จังหวัดภูเก็ตตามที่เอเย่นจัดหาไว้

และหลังจากได้หนังสือเดินทางปลอมมาแล้ว ทั้งสองก็ได้เดินทางจากจังหวัดภูเก็ต ต่อไปยังประเทศมาเลเซีย โดยใช้หนังสือเดินทางตัวจริงออกไปก่อน เพื่อให้เห็นว่าทั้งสองได้ออกจากประเทศไทยไปแล้ว ก่อนที่จะย้อนกลับเข้ามาที่จังหวัดภูเก็ตอีกครั้งด้วยหนังสือเดินทางปลอม

จากนั้นทั้งสอง ได้เดินทางไปยังประเทศแคนาดา ซึ่งจะต้องเดินทางไปเปลี่ยนเครื่องบินที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่สุดท้ายผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก็ถูก ตม.ของทางเกาหลีใต้ ตรวจพบว่างใช้หนังสือเดินทางปลอม จึงถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทาง คือ ประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ต