ชาวบ้าน หมู่ที่ 6 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ร้องเรียนว่า โรงงานแปรรูปไข่ปล่อยน้ำเสีย ทำให้พืชไร่เสียหายและยังส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ทำให้ได้รับความเดือนร้อน

ชาวบ้าน ป่าเย้อ หมู่ที่ 6 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ร้องเรียนผ่านนักข่าวช่อง 8 ให้ช่วยประสานหน่วยงาน หลังได้รับความเดือดร้อนจาก โรงงานทำไข่เค็ม ปล่อยน้ำเสียไหลท่วมขังตามบ้านเรือน และ ลงพื้นที่ทำเกษตรทำให้พืชไร่เสียหายจากความเค็ม

โดยน้ำดังกล่าวมีสีดำเข็ม หากถูกผิวหนังก็จะเกิดอาการคัน และมีกลิ่นเหม็น เบื้องต้นแจ้งไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องไม่ได้รับการเหลียวแล

นางณัฐพัชร์ โคกแก้ว อายุ 32 ปี เปิดเผยว่า ตนย้ายมาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อสิงหาคม2559 ก็อยู่ตามปกติ แต่พอเข้าช่วงหน้าฝน มีน้ำขังตามถนนเข้าออกบ้านพัก ทำให้เป็นแผลที่ข้อเท้า และ อาการอักเสบ

เบื้องต้น ได้พูดคุยกับเจ้าของโรงงาน ซึ่งเจ้าของโรงงาน บอกว่า น้ำสีดำเป็นเพราะเจือปนกับใบมะขาม ไม่ใช่น้ำเสีย ตนเองจึงอยากเรียกร้องให้ ทางโรงงานแก้ไขโดยการ ปล่อยน้ำที่ออกมาจากโรงงานไปทางอื่น เพื่อไม่ให้ท่วมในพื้นที่ ที่อยู่อาศัย

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ประสาน นายจรัญ เอี่ยมสำอาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ที่ 6 เจ้าของพื้นที่ พร้อมทั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าว มี นายโชคชัย สงวนทรัพย์ แสดงเป็นเจ้าของ พาเข้าไปตรวจสอบบริเวณบ้านที่ใช้เป็นโรงงานขนาดย่อม พบเป็นพื้นคอนกรีต บริเวณกำแพงรั้วปูนที่มีคราบสีแดงของน้ำที่ใช้ล้างไข่เยี่ยวม้า และ พบว่าความลาดชันของพื้นคอนกรีต ทำให้นำ้ภายในไหลออกมา ผ่านทางช่องประตูปิด-เปิด ทางเข้าออกโรงงาน (บ้านทำเป็นโรงงาน)

นายโชคชัย เปิดเผยว่า ช่วงนี้ฝนตกหนักน้ำฝนก็จะไหลออกไปนอกบ้านตามปกติ ซึ่งน้ำที่ไหลออกมาจะเป็นน้ำผสมกับดอกมะขาม จึงเกิดสีดำขุ่น ในอดีตเคยมีชาวบ้านร้องเรียนเช่นนี้ หน่วยงานทั้งจังหวัดรวมทั้งที่เกี่ยวกับสาธารณสุขมาตรวจแล้ว ผลปรากฎว่า น้ำดังกล่าวไม่ได้มีปัญหาอะไร หากมีผลกระทบจะมาตรวจสอบอีก

ตนมั่นใจว่า ไม่มีผลต่อพืชผลทางการเกษตรอย่างแน่นอน แต่เพื่อความสบายใจ และ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน พร้อมที่จะแก้ไขให้

ขณะที่ ผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่า ทางเจ้าของโรงงานรับปากว่าจะแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ด้วยการเปลี่ยนจุดปล่อยน้ำออกจากโรงงานไปในทางอื่น แต่ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ระบุว่า ยังไม่พอใจเนื่องจากประสบปัญหานี้มานาน และ เมื่อมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ตัวเอง

ชาวบ้านพยายามสูบข้ามไปอีกฝั่ง ก็จะโดนฝ่ายตรงข้ามขู่ว่าถ้าพืชไร่ตาย จะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ทำให้ชาวบ้านเกิดอาการเครียด และ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า หากครั้งนี้ยังไม่ดำเนินการใดๆให้ชัดเจน จะต้องเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมต่อไป