ญาติเหยื่อสึนามิในปี 2547 ติดต่อขอรับศพเหยื่อสึนามิ จำนวนทั้งหมด 5 ศพ หลังผ่านมา 12 ปี โดยยังเหลืออีกกว่า 400 ร่าง ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้

พันตำรวจเอกสาธิต ก้อนแก้ว รองผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ตัวแทนผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมฆาตะกั่วป่า เดินทางมาที่สุสานผู้ประสบภัยสึนามิ ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พร้อมกับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เพื่อเดินทางมารับศพ หลังศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและส่งกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนแยกจังหวัดพังงา ได้ทำการตรวจพิสูจน์ยืนยันเปรียบเทียบดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิต และ ผู้สูญหายได้ จึงพิจารณาคืนร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ร่างให้ญาตินำกลับไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนา

พันตำรวจเอกสาธิต กล่าวว่า สุสานผู้ประสบภัยสึนามิ ยังมีศพที่ไม่สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลฝังอยู่อีก 412 ศพ ล่าสุดพิสูจน์ได้แล้ว 23 ศพ และ มีญาติมารับกลับเพียง 5 ศพ เหลืออีก 18 ศพอยู่ในระหว่างการติดต่อหาญาติ ส่วนศพที่เหลือก็ต้องรอการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เนื่องจากยังไม่มีญาตินำหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาขอเปรียบเทียบดีเอ็นเอ จึงจำเป็นต้องฝังไว้และไม่สามารถดำเนินการได้

ด้านนายชาติชาย คงเกลี้ยง ญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า แม้เหตุสึนามิจะผ่านมาแล้ว 12 ปี แต่ตนเองยังจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ โดยในครั้งนั้นต้องสูญเสียพ่อ แม่ และ ลูกชายวัย 7 ขวบ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองเจอเพียงร่างของพ่อและแม่ ส่วนลูกชายสูญหายไป จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล โดยเปรียบเทียบดีเอ็นเอระหว่างผู้สูญหาย ผู้เสียชีวิต และญาติ จนสามารถยื่นยันและมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ทั้งนี้ ตนเองรู้สึกดีใจมากที่ได้พบศพลูกชายแม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านไปแล้ว 12 ปีก็ตาม