จากเพจอีซ้อขยี้ข่าว 3 โพสข้อความระบุว่า พระอาจารย์ดำอ้างว่าได้รับภารกิจลงมาช่วยปัดเป่าความทุกข์ให้มนุษย์เป็นบัญญัติจากสวรรค์โดยอ้างว่าเป็นหลวงปู่เทพอุดร โดยนำความเชื่อหลังความตายมาหว่านล้อมลูกศิษย์ว่ากำลังเจอเคราะห์หนัก ชะตาขาดต้องรีบต่อดวงชะตาคิดค่าทำพิธีครั้งละ 10,000 บาทและจะต้องทำพิธีหลายครั้งหากต่อดวงไม่สำเร็จ ขอฝากสำนักพุทธฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยค่ะ

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาที่วัดบ้านลาดเจริญ ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลฯ ตามข้อมูลที่ได้รับมาว่าพระอาจารย์องค์ดำ อยู่ที่วัดแห่งนี้ ทันทีที่ทีมข่าวเข้าไปถึง ปรากฏ วัดดังกล่าวไม่ใช่วัดที่พระอาจารย์องค์ดำจำวัดอยู่ โดยวัดนี้เป็นวัดบ้าน มีพระจำวัดอยู่ 2 รูป

 

จากการสอบถาม พระแสวง ชื่นชม รองเจ้าอาวาสวัดลาดเจริญ ทราบว่า วัดดังกล่าวไม่ใช่วัดที่พระอาจารย์องค์ดำมาจำวัด โดยพระองค์ดำ จำวัดเป็นพระวัดป่า ชื่อ วัดถ้ำพระ ส่วนพระอาจารย์องค์ดำ ตนก็พอทราบว่ามา เป็นพระสายวัดป่า จำวัดอยู่ที่วัดถ้ำพระเพียงรูปเดียวและจะออกมาบิณฑบาตตามหมู่บ้านทุกวันศุกร์ จะเห็นว่ามีชาวบ้านเพียงไม่กี่คนที่ใส่บาตร ส่วนเรื่องการทำพิธีสะเดาะเคราะห์หรือการดูดวงตนไม่ทราบเนื่องจากไม่ค่อยได้พูดคุยหรือสุงสิงกันอีกทั้งก็ไม่ค่อยเห็นพระรูปนี้ออกมาจากวัดเท่าไหร่ อีกทั้งพระอาจารย์องค์ดำเองก็ไม่เคยเข้าร่วมสังฆกรรมร่วมกับพระสงฆ์รูปอื่นๆ เพราะพระอาจารย์องค์ดำนิสัยชอบอยู่โดดเดี่ยว ไม่สุงสิงกับใคร

 

จากนั้นทีมข่าวจึงได้ เดินทางขึ้นไปที่ถ้ำพระ ในพื้นที่ตำบลนาแวง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบล ซึ่งพบว่าที่ดังกล่าวถูกสร้างเป็นที่พักสงฆ์ มีศาลาขนาดกลางหนึ่งมีพระพุทธรูปตั้งประดิษฐานกลางศาลา โดยที่ศาลาแห่งนี้มีสายสิญจน์โยงไปทั่วศาลา ส่วนที่บริเวณพระพุทธรูปมีร่องรอยน้ำตาเทียน ซึ่งยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นการทำพิธีสะเดาะเคราะห์หรือพิธีกรรมหรือไม่

 

ถัดมามีกุฏิไม้เก่าๆ 1 หลัง ด้านหน้ามีป้ายแขวนไว้ว่า ที่พักสงฆ์สันติธรรม คาดว่าเป็นกุฏิของพระอาจารย์องค์ดำ

 

ซึ่งการสำรวจของทีมข่าวไม่ปรากฏว่าพบเห็นพระอาจารย์องค์ดำอยู่ที่วัด อีกทั้งสภาพวัดที่เราตรวจสอบพบว่าค่อนข้างรกร้าง

 

ต่อมาไม่นาน พระครูศรีสุตา ลังการ เจ้าคณะอำเภอเขมราฐ พร้อมด้วยสำนักพระพุทธศาสนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่พักสงฆ์แห่งนี้ โดยในเบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่ปรากฏว่ามีการทำพิธีกรรมแต่อย่างใด ส่วนร่องรอยรวมทั้งสายสิญจน์ที่ถูกโยนก็จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

ขณะที่จากการตรวจสอบทราบว่าที่พักสงฆ์ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานหาดทรายสูงและยังไม่มีการขอขึ้นทะเบียนเป็นวัด โดยตามระเบียบหากจะขอขึ้นทะเบียนเป็นวัดก็จะจะต้องทำเป็นที่พักสงฆ์ก่อน แต่ในเบื้องต้นทราบว่าทางพระอาจารย์องค์ดำยังไม่ได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นวัดหรือที่พักสงฆ์แต่อย่างใด

 

ทราบว่าทางพระอาจารย์องค์ดำได้เดินทางออกจากพื้นที่ไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่ในเบื้องต้นหลังจากที่ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยสอบถามกับพระอาจารย์องค์การทราบว่าเป็นการเข้าใจผิดกันระหว่างผู้โพสต์ ซึ่งทาง พระอาจารย์องค์ดำเองยืนยันว่าไม่ได้มีการทำพิธีกรรมและเรียกรับเงินแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็จะมีการเรียกพระอาจารย์องค์ดำเข้าพบอีกครั้ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

ทีมข่าวได้ไปเจอกับนางโกสัน อายุ 62 ปี ชาวบ้านที่เคยพาลูกสาวไปทำพิธี เมื่อ 10 ปีก่อน เล่าว่า ตอนนั้นลูกสาวอายุเพียงแค่ 24 ปีย่าง 25 ปี ซึ่งกลัวว่าลูกสาวกำลังเข้าสู่วัยเบญจเพศจะมีเคราะห์ และหลังจากที่ได้ยินชาวบ้านเล่าลือกันว่าพระอาจารย์องค์ดำดูดวงแม่นและทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้

 

จากนั้นจึงได้พาลูกสาวเดินทางมาทำพิธีโดยให้อาจารย์โป่งดำดูดวงให้ซึ่งอาจารย์ก็ทักว่าลูกสาวมีเคราะห์หนักถึงชีวิต ให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ที่วัด เป็นจำนวนเงิน 3.000-4,000 บาท โดยอ้างว่าหากทำพิธีสะเดาะเคราะห์แล้วหลังจากนั้นชีวิตของลูกสาวจะเจริญรุ่งเรืองและร่ำรวย ส่วนจำนวนเงินที่ใช้ทำพิธีอ้างว่าจะนำไปซื้อธูปเทียนมาทำพิธี

 

สำหรับการทำพิธีกรรม พระอาจารย์องค์ดำจะให้เตรียมเสื้อผ้าเก่ามาร่วมพิธี จากนั้นก็ให้ลูกสาวนอนลงกับพื้นก่อนที่พระอาจารย์องค์ดำจะใช้ผ้าขาวดิบคลุมทั้งล่างพร้อมกับสวดบริกรรมคาถาซึ่งตนก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนจากนั้นก็ใช้ธูปเทียนมัดรวมกันและทำท่าสับลงไปที่ล่างของลูกสาว

 

นางโกสัน บอกว่า ในตอนนั้นตนก็ยังรู้สึกเอะใจที่ต้องเสียค่าทำพิธีสะเดาะเคราะห์สูง แต่ด้วยความที่พระทักว่าลูกสาวมีกรรมหนักถึงขั้นเสียชีวิต จึงได้จำยอมทำพิธีให้แล้วเสร็จ แต่หลังจากทำพิธีเสร็จลูกสาวตนก็ไม่ได้มีชีวิตที่เป็นไปตามที่พระอาจารย์องค์ดำทักท้วงในตอนแรก ตนจึงรู้สึกไม่ศรัทธาและไม่เชื่อในพิธีกรรมที่ทางพระอาจารย์องค์ดำทำ อีกทั้งตนมารู้ที่หลังว่าพระอาจารย์รูปนี้จะลงรับบิณฑบาตเพียงแค่เฉพาะวันศุกร์เท่านั้น ซึ่งตนยอมรับว่าหลังจากที่รู้ว่าพระอาจารย์เรียกรับเงินในการทำพิธีตนก็ไม่เคยใส่บาตรอีกเลย

 

อีกทั้งตนทราบมาว่าส่วนใหญ่พระอาจารย์องค์ดำจะรับบิณฑบาตเป็นเงินจะไม่ค่อยรับบิณฑบาตเป็นข้าวสารอาหารแห้ง และนอกจากนี้ตนยังทราบมาว่าพระอาจารย์รูปนี้ค่อนข้างจะเรียกทำพิธีแต่เฉพาะคนที่มีเงินเท่านั้น หลังจากนั้นตนก็ไม่ศรัทธาพระรูปนี้อีกเลย

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้โทรศัพท์พูดคุยกับทางพระอาจารย์องค์ดำและได้สอบถามข้อเท็จจริงทราบว่า เรื่องราวทั้งหมดที่ทางผู้เสียหายโพสต์ Facebook ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำเช่นนั้นและตนเองไม่เคยมีการทำพิธีกรรมหรือเรียกรับเงินกับทางผู้เสียหายแต่อย่างใด

 

โดยเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากทางลุงของผู้เสียหายได้มาปรึกษาตนเองว่าต้องการอยากจะถวายบ้านของน้องสาวที่เสียชีวิตไป เนื่องจากหากขายก็ไม่ได้ราคา ตนจึงได้แนะนำไปว่าให้นำไม้ไปถวายให้กับวัดเพื่อสร้างเป็นกุฏิพระ และหากต้องการทำบุญให้กับผู้ล่วงลับก็เพียงแค่ซื้อสังฆทานเครื่องทำบุญมาถวายเท่านั้นก็เป็นการทำบุญให้กับผู้ล่วงลับได้แล้ว

 

แต่ทางผู้เสียหายอาจจะเข้าใจผิดคิดไปเองว่าฝ่ายทางลุงจะเอาเงินประกันมาถวายตนเองหมด จึงได้มีการโพสต์ Facebook ขึ้นมา โดยยืนยันว่าผู้เสียหายที่โพสต์ Facebook ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลุงที่จะนำของมาถวายตน

 

พระอาจารย์องค์ดำยังบอกอีกว่าตนเองไม่ได้โกรธ ทางผู้เสียหายที่โพสต์ Facebook กล่าวหาตนเอง เพราะทางผู้เสียหายเองก็คงยังไม่ได้สอบถามความจริงกับทางลุง อีกทั้งตนยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะทำพิธีกรรมหรือสะเดาะเคราะห์แก้กรรมให้กับใครได้รวมทั้งตนก็ดูดวงไม่เป็นด้วย เป็นเพียงพระวัดป่าที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้น

"พระจีวรดำ" อ้างเป็นหลวงปู่เทพอุดร เรียกเงินหมื่นสะเดาะเคราะห์