สาววัย 18 บุกโรงพักแจ้งความดำเนินคดี หลังถูกแฟนเพื่อนทำร้ายร่างกายทั้งเตะใบหน้า เอาตะหลิวฟาด คางแตก แขนช้ำ หน้าอกช้ำ กักขังหน่วงเหนี่ยวข้ามคืน บังคับดูดยาบ้า เพราะโมโหหาว่าพาแฟนตนไปมีอะไรกับช่างสักลาย

 

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร นางสาววี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพันตำรวจโทนิกร ใบเนียม พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ให้ดำเนินคดีกับนายเอ้ ซึ่งเป็นแฟนกับเพื่อน โดยเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 นายเอ้ ได้ทำร้ายร่างกาย โดยการเตะที่ใบหน้าจนคางแตก และบริเวณหน้าอกมีรอยช้ำ อีกทั้งยังใช้ตะหลิวตีที่แขนจนบวมช้ำเป็นรอยยาว

 

นอกจากนี้ยังบังคับให้เสพยาบ้า ก่อนจะพูดจาขมขู่บังคับหน่วงเหนี่ยวกักขังที่บ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 6 ต.นครชุมอ.เมือง จ.กำแพงเพชร จนกระทั่งรุ่งเช้านางสาววีได้หลบหนีออกมาได้ และยังอยู่ในอาการบาดเจ็บ ก่อนจะเข้ารักษา ตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร หลังเกิดเหตุได้เล่าให้ญาติฟังก่อนจะพานางสาววี จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

นางสาววี ชี้ให้ดูร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย ก่อนจะเล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2-3 วันหญิงสาวที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของตนได้ชักชวนตนให้ไปเป็นเพื่อสักลายในพื้นที่ตำบลสระแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นจึงพากันกลับมา กระทั่งวันเกิดเหตุเพื่อนสาวได้โทรมาร้องไห้และให้มาหาที่บ้านพัก เมื่อตนมาถึงก็พบนายเอ้อยู่ด้วย นายเอ้ได้ถามตนว่าพาแฟนนายเอ้ไปมีอะไรกับช่างสักมาใช่หรือไม่ ตนตอบปฏิเสธไปว่าไม่ใช่ นายเอ้ก็บอกว่าถ้าไม่ใช่ช่างสักจะแชตมาบอกได้อย่างไรว่ามีอะไรกับแฟนนายเอ้พร้อมบรรยายลีลาท่วงท่าต่างทำให้นายเอ้โมโห ตนก็ปฏิเสธว่าไม่ได้มีอะไรไปสักปกติ

 

จากนั้นนายเอ้ก็ได้เข้าทำร้ายตน และทำร้ายแม่ของแฟนนายเอ้ด้วย แต่ไม่ยอมทำร้ายแฟนสาวเพราะอ้างว่าจะไม่ยอมทำร้านแฟนสาว แต่กลับมาลงที่ตนจนได้รับบาดเจ็บ ตนพยายามอ้อนวอนขอร้องแต่นายเอ้ไม่ฟัง จากนั้นตนจะขอกลับบ้านนายเอ้ก็ไม่ยอมให้ตนกลับบอกหากหนีออกไปจะเอาคัตเตอร์กรีดที่ใบหน้าด้วยความกลัวตนจึงไม่กล้าหนีออกมา และถูกกักขังดังกล่าว นอกจากนั้นนายเอ้ยังบังคับให้ตนเสพยาบ้าอีกด้วย ตนได้ปฏิเสธแต่นายเอ้จะทำร้ายร่างกายตน สุดท้ายตนจึงเสพยาบ้าไปครึ่งเม็ด จนกระทั่งเช้าอีกวันจึงได้หนีออกจากบ้านหลังดังกล่าวออกมา ก่อนที่ญาติๆจะพาตนมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอ้ให้ถึงที่สุด

 

หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายและรับแจ้งความร้องทุกข์แล้ว พนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ออกติดตามตัวนายเอ้มาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งสองฝ่ายก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีต่อไป

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยไปพบกับ “น.ส.วี” อายุ 18 ปี (ผู้เสียหาย) โดยได้เปิดบริเวณบาดแผลตามร่างกายหลายจุดให้ดู ทั้งต้นแขนด้านซ้าย บริเวณปลายคางซ้าย บริเวณศีรษะเหนือหัวคิวด้านซ้าย และบริเวณหน้าอกซ้าย ที่ถูก “นายเอ้ อายุ 40 ปี” แฟนของเพื่อนรุ่นพี่ ใช้เท้าและตะหลิวตีจนได้รับบาดเจ็บแถมยังขังไม่ให้กลับบ้าน และหนีออกมาได้และไปแจ้งความกับตำรวจ โดยเล่าให้ฟังว่า “ก่อนเกิดเหตุเพื่อนรุ่นพี่ (แฟนนายเอ้) ได้โทรตามให้ตนไปหาที่บ้านญาติ เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องที่ ”ช่างสักลาย“ ทักแชตมาหานายเอ้ว่าไปมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งหลายครั้ง ได้กันหลายท่ากับเมียตนเอง ตนยืนยีนกับนายเอ้ว่ามันไม่ใช้เรื่องจริง พอพูดจบตนก็ถูกนายเอ้เตะที่บริเวณใบหน้า และใช้ตะหลิวฟาดหลายครั้งตามร่างกาย ซึ่งนายเอ้ไม่เชื่อ ตอนที่ตนไปสักลายกับ น.ส.มด อายุ 20 ปี (เมียนายเอ้) นั้น ก็ไม่มีอะไรเกินเลยกับช่างสักลายไปกว่าที่นายเอ้เข้าใจ หลังจากทำร้ายตนเสร็จก็บังคับให้ตนเสพยาบ้าไปครึ่งเม็ด หากไม่เสพตามที่สั่งก็จะทำร้ายอีก โดยปิดประตูรั้วบ้านไม่ให้ตนกลับบ้าน หากคิดหนีจะเอาคัตเตอร์กรีดหน้าคนละแผล โดยขณะนั้น “น.ส.มด” แฟนนายเอ้ ได้หลบหนีออกมาจากบ้านได้สำเร็จ เหลือเพียงตนเอง ซึ่งพอนายเอ้รู้ว่ามีคนแจ้งความก็พาตนไปแอบหลบอยู่บ้านหลังหนึ่งแถววัดสว่างอารมย์ (ใกล้ๆกันกับที่เกิดเหตุ) พอตอนเช้านายเอ้ก็ปล่อยตนออกมาตอน 9 โมงเช้า ระหว่างนั้นนายเอ้ไม่ได้ทำอะไรตนแต่อย่างใด ซึ่งนายเอ้ก็ยังไม่เชื่อว่าตนพูดความจริงว่าไม่ ได้พาเมียของนายเอ้ไปมีอะไรกับช่างสักลาย

 

ขณะที่เวลา 12.00 น. วันที่ 30 เม.ย.67 พ.ต.ท.นิกร ใบเนียม พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ โดยพบว่า “นายเอ้” ได้หลบหนีไปแล้ว พบแต่เพียง “นางจันทร” อายุ 44 ปี (ผู้เป็นอา) โดยตำรวจได้มาเชิญตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก ซึ่งขณะเกิดเหตุได้อยู่ในเหตุการณ์ตลอด และก็พยามห้าม นายเอ้ (หลานชาย) ว่าอย่าทำโดยได้พาไปชี้จุดที่เกิดเหตุภายในใต้ถุนบ้านให้ดู พร้อมเล่าให้ฟังว่า “เรื่องการกักขังนั้นไม่มีแน่นอน โดยหลานชายตนโมโหที่ “น.ส.มด และ น.ส.วี” หนีไปเที่ยว และไปหาช่างสักลาย แล้วไปมีอะไรกันและส่งรูปมาเย้ยหลานชายตนจนโมโห และลงมือทำร้ายทั้ง 2 ดังกล่าว แต่ตนก็ห้ามไว้ ส่วนภาพหรือแชตที่ไปนัดมีอะไรกันนั้น ตนไม่เห็นเพราะหลานชายทุบโทรศัพท์พังไปแล้ว โดยทั้งคู่ให้ข้อมูลนายเอ้ไม่ตรงกันเป็นเหตุชนวนที่ต้องทำร้ายทั้งคู่จนบาดเจ็บ ขณะเดียวกัน “ช่างสักลาย” ก็ขับรถจักรยานยนต์มารอรับ “น.ส.มด” แต่ทันใดนั้นนายเอ้จึงนำมีดทำครัวออกไปฟันทำร้ายช่างสักลายหน้าบ้านและยื้อกระชากมืดจนถูกฟันทั้งคู่ ส่วน “น.ส.มด” หลานสะไภ้พ่อแม่ก็รับไปแล้ว

 

ขณะที่ “น.ส.ครีโอพัตรา” อายุ 44 ปี เพื่อนบ้านที่ถูกนายเอ้ กระทืบทำร้ายจนบาดเจ็บ โดยได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าศีรษะและขา เพราะนายเอ้คิดว่าตนช่วย “น.ส.มด” หลบหนี โดยเข้ามาทำร้ายภายในบ้าน พร้อมเล่าว่า “ตนเห็นว่าบ้านของอานายเอ้ถูกตัดน้ำประปา จึงให้ “น.ส.มด” มาอาบน้ำที่บ้านหลังถูกทำร้าย แต่ “น.ส.มด” ไม่ได้มาแต่กลับสิ่งหนีผ่านหน้าบ้านตนไป หลังจากนั้นนายเอ้ก็เข้ามากระทืบทำร้ายจนบาดเจ็บดังกล่าว หลังเกิดเหตุตนก็ไปแจ้งความกับตำรวจ ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเรื่องนี้เลย

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ “ช่างสักลาย” ชื่อนายป๊อต (นามสมมุติ) ในพื้นที่ ม.3 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยได้นำมีดทำครัวที่นายเอ้ใช้ไล่ฟันตนเองจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณชายโครงเหนือนมด้านซ้าย ขณะที่ตนไปรอรับ น.ส.มด ที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยแชทหลอกให้ตนไปรับยังบ้านหลังเกิดเหตุ โดยอ้างว่าทะเลาะกับแม่ให้มารับหน่อยไม่คิดว่าจะมาเจอนายเอ้ที่เป็นเพื่อนกันวิ่งเข้ามาเอามีดมาฟันตนครั้งแรก โชคดีที่ตนใส่หมวกกันน๊อกไม่งั้นก็ถูกฟันไปที่หัว หลังจากนั้นก็ฉุดกระชากมีดกันจนตนผูกฟันที่ชายโครงเหนือนมด้านซ้าย โดยยืนยันว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ “น.ส.มด” ตามที่นายเอ้กล่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็มาลูกค้าสักอยู่หลายครั้ง

 

“นายป๊อต” (นามสมมติ) ช่างสักลาย เล่าว่า “ตนยอมรับว่า น.ส.มด เคยมาสักยันต์ที่นี่จริงๆ 2-3 ครั้งแล้ว และได้ส่งข้อความมาหาตนว่าทะเลาะกับผู้เป็นแม่และน้องยังได้บอกว่าตอนนี้อยู่บ้านคุณตาให้ตนไปรับหน่อยได้ไหมหนูไม่มีที่ไป ตนได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกสงสาร โดยน้องมดแจ้งว่าอยู่บ้านตำบลนครชุม ซึ่งตนก็ไม่รู้จักบ้านแต่ก็ได้ขับรถไปวนหาจนเจอ และได้พูดกับน้องว่าทำไมไม่ไปน้องว่าจะรอน้องอีกคนหนึ่ง ซึ่งสักครู่นายเอ้ได้ถือมีดทำครัววิ่งออกมาฟันตน บริเวณลำตัวมีบาดแผลยาวประมาณเกือบ 1 ฟุตโดยยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเลย ซึ่งตนเองรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เกิดการยื้อแย่งอาวุธมีดกันขึ้น ตนยอมรับว่าเอ้กับตนรู้จักกันมากว่า 20 ปี ถือว่าเป็นเพื่อนกันก็ว่าได้ สำหรับเรื่องการส่งข้อความ หรือภาพไปเยาะเย้ยนายเอ้ว่าตนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ น.ส.มด ซึ่งเป็นภรรยานายของนายเอ้นั้นก็ไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยส่งข้อความลักษณะเช่นนี้ไป เรื่องนี้ตนยืนยันและให้ตรวจสอบได้ ซึ่งทุกครั้งเขาก็จะมากับเพื่อนรุ่นน้องเขาโดยตลอด และจะอยู่ด้วยกันตลอด สำหรับการส่งข้อความนั้นไม่มีอย่างแน่นอนถ้าจะมีการส่งข้อความก็คือมีการพูดคุยแบบปกติ ไม่มีข้อความเยาะเย้ยใดๆ และอีกอย่างตนก็ไม่ทราบด้วยซ้ำไปว่า น.ส.มด เป็นแฟนกับนายเอ้ หากตนรู้จะไม่ยุ่งอยู่แล้ว ใครจะไปยุ่งกับเมียเพื่อน ซึ่งที่ผ่านมาทราบว่าน้องเขาเพิ่งเลิกกับแฟนเก่าเขาไป ซึ่งตนเหมือนกับถูกหลอกให้เดินทางไปหาจนถูกฟัน ส่วนตัวตนจะยังไม่แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกรณีที่ถูกทำร้าย เพราะเห็นว่าตนกับนายเอ้เป็นเพื่อนกัน และขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร กับ น.ส.มด ตามที่นายเอ้ได้กล่าวอ้างและเกิดเหตุคาดว่านายเอ้คงจะอยู่ในอาการมึนเมายาเสพติดก็ได้

ผัวเพื่อนจับขังซ้อมบังคับเสพยา โมโหแฟนแอบแซ่บกับช่างสัก