ยายวัย 65 ปี สุดช้ำไฟไหม้โรงเก็บฟางกว่า 3,000 ก้อน วอดทั้งหลัง พร้อมสาปแช่งคนที่ทำ ให้เวรกรรมย้อนกลับโดยเร็ว

วันที่ 20 เมษายน 2567 ศูนย์วิทยุมูลนิธิขุนรัตนาวุธ รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้โรงเก็บฟาง ในพื้นที่หมู่บ้านราจิกพัฒนา หมู่ 13 ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้รีบประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลทุ่งทอง และรถดับเพลิงจากเทศบาล เทศบาลตำบลหนองหญ้าดอกขาว เข้าระงับเหตุทันที โดยที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่โล่งกว้าง พบเพลิงกำลังลุกไหม้โรงเก็บฟางจนเสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง ไม่ให้ลุกลามไปยังโรงเก็บฟางอีกหลังที่อยู่ห่างกันไม่ไกลนัก โดยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าเพิ่งจะสงบลง






จากการสอบถามนางอำพร อายุ 65 ปี เจ้าของโรงเก็บฟาง เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ลุงได้ขึ้นไปกินข้าวบนบ้านหลังจากให้น้ำให้หญ้าวัวเสร็จ พอสักพักก็ได้ยินเสียงคล้ายกับอะไรลั่นดังเป๊าะแป๊ะ ๆ จึงได้เดินลงมาดูก็พบว่าไฟกำลังลุกไหม้โรงเก็บฟาง ซึ่งด้านในเป็นฟางที่ซื้อมาเพื่อเลี้ยงวัวในช่วงหน้าแล้ง จำนวน 3,000 ก้อน โดยซื้อมาก้อนละ 30 บาท และโรงเก็บฟางก็เพิ่งจะทำใหม่ มูลค่าความเสียหายก็แสนกว่าบาท ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะฟางก้อนช่วงหน้าแล้งหาซื้อยากมาก จะหาหญ้าจากไหนมาเลี้ยงวัวที่มี 100 กว่าตัว ให้ผ่านหน้าแล้งไปได้ ที่เหลืออยู่ก็มีไม่กี่สิบก้อนที่ยังไม่ถูกไฟไหม้






นางอำพร บอกต่อว่า ตนได้ถามกับลุงว่าเห็นใครผ่านมาแถวนี้ก่อนเกินไฟไหม้ ลุงบอกว่าเห็นรถบรรทุกวิ่งผ่านไปผ่านมา 2 เที่ยว หลังจากนั้นก็เกิดเพลิงไหม้ทันที ซึ่งก็โชคดีที่ไฟไหม้ตอนเช้ามีคนเห็น ถ้าเกิดไฟไหม้ตอนกลางคืนจะมีลุงมานอนเฝ้าตรงโรงเก็บฟาง ก็อาจจะถูกไฟคลอกไปด้วย ตนก็อยากจะบอกไปกับคนที่ทำ ว่าใครทำอะไรไว้ก็รอให้รับผลกรรมนั้นกลับคืนไป