"อัจฉริยะ" ขึ้นศาลไต่สวนฟ้อง "ทนายตั้ม" แจ้งความเท็จปมกล่าวหาดักฟังโทรศัพท์ นัดฟังคำสั่ง 8 พ.ค.67

วันนี้ (3 เม.ย.67) ที่ศาลแขวงปทุมวัน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายัง ศาลแขวงปทุมวัน ตามกำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในคดีหมายเลขดำที่ อ.33/2567 ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหา แจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา”

จากกรณีที่ ทนายตั้มกับเจ้าของร้านอาหารทะเลได้มีการสนทนาทางโทรศัพท์และเจ้าของร้านอาหารทะเลได้มีการบันทึกเสียงเอาไว้ แล้วนำมามอบให้กับตนเอง ไม่ใช่เป็นการที่ตนเอง ไปดีกฟังโทรศัพท์ของทนายตั้มแต่อย่างใด ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามและพนักงานอัยการมีความเห็นเป็นที่สุดแล้วว่าสั่งไม่ฟ้อง ทั้ง 4 คดี

ตนเองอยากบอกว่า พนักงานอัยการมีคำวินิจฉัยอย่างชัดเจนว่าการกระทำของตนเองที่ทนายตั้มไปแจ้งความเท็จไว้ 4 จังหวัดไม่เป็นความผิดฐานดักฟังโทรศัพท์เพราะพิสูจน์แล้วว่าตัวเจ้าของร้านอาหารทะเลนำคลิปเสียงมาให้ตนเองเปิดและหลังจากที่ตนเองเปิดแล้วเมื่อไม่เป็นการดักฟังจึงไม่มีความผิดฐานเปิดคลิปเสียง ต่อมาทนายตั้มได้เปิดคลิปเสียงของรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และของนายชูวิทย์กมลวิศิษฎ์และล่าสุดมีการเปิดคลิปเสียง การเก็บส่วย ที่อ้างว่า เป็นตำรวจ ปคม.และคอมมานโด ทำให้เห็นชัดเจนว่าทนายตั้มรู้มาโดยตลอดว่าสิ่งที่ไปแจ้งความเท็จไม่เป็นความจริงเป็นความเซตทั้งสิ้นและไม่มีความผิดตามกฎหมายวันนี้จึงได้มาฟ้องศาลแขวงปทุมวันเป็นคดีที่ 2

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ไปยื่นฟ้องทนายตั้มไว้ที่ศาลจังหวัดพิจิตร โดยศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 29 เม.ย. 2567 วันนี้ เป็นคดีที่ 2 ที่ฟ้องศาลแขวงปทุมวัน และวันพรุ่งนี้ จะไปยื่นฟ้อง ทนายตั้ม ที่ศาลจังหวัดราชบุรี และในวันที่ 29 เมษายนจะไปยื่นฟ้องทนายตั้มที่ศาลจังหวัดสุโขทัย ทั้งหมด 4 คดีที่จะมีการฟ้องทนายตั้มในข้อหาแจ้งความเท็จกันแกล้งผู้อื่นรับโทษทางอาญา

นายอัจฉริยะยังบอกได้ว่าก่อนหน้านี้ทนายตั้มเคยพูดไว้ว่าชนะตนเองถึง 6 คดีแต่เหตุใดไม่พูดถึงคดีที่ทนายตั้ม แพ้คดีตนเอง เกี่ยวกับ แจ้งความเท็จ และยังมีคดีที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาว่าทนายตั้ม กับพวกได้มีการสร้างหลักฐานเท็จและยืมมือศาลเป็นอีกหนึ่งคดีที่รอศาลฎีกามีคำวินิจฉัยออกมาหากศาลฎีกา มีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว ก็จะมีฟ้องกลับทนายตั้ม ในข้อหาฟ้องเท็จเบิกความเท็จ และสร้างพยานหลักฐานเท็จ เป็นอีก 1 คดี

อย่างไรก็ตามภายหลังไต่สวนมูลฟ้องแล้วเสร็จศาลแขวงปทุมวัน ได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 8 พ.ค.2567 เวลา 13.30 น.