จากกรณีที่ ด.ช.เกรียงไกร อายุ 2 ขวบ 15 วัน หรือ น้องเสือ ได้หายตัวอย่างปริศนาออกไปจากบ้านในพื้นที่ บ้านผาสุข(อาดี่) ม.20 ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งได้หายไปในช่วงวันที่ 23 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. จนถึงในวันนี้เป็นระยะเวลากว่า 4 วันแล้ว ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังกันระดมลงพื้นที่หาตัวของน้องเสือ อย่างต่อเนื่อง




วันนี้ (27 มี.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ก็ได้ติดตามภารกิจการค้นหาตัวของน้องเสือ พบว่า บริเวณบ้านของหนองเสือได้มีการทำพิธีไหว้เจ้าที่เจ้าป่าเจ้าเขา เพื่อที่จะให้เจ้าที่และเจ้าป่าเจ้าขาเปิดทางให้พบกับน้องเสือ โดยในพิธีจะมีหมอธรรมมาทำพิธีสองคนในการทำพิธีนั้นหมอธรรมทั้งสองคน จะมีการสวดมนต์เป็นภาษาของชนเผ่า จากนั้นจะมีการโปรยข้าวสาร และใช้ธูปเทียนดอกไม้ วางไว้บนไม้ไผ่ที่สานเป็นทรงกรวย และจะมีไม้ไผ่ยื่นออกมาสีด้านก็เปรียบเสมือนบอกเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาทั้งสี่ทิศ เพื่อให้เปิดทางหรือให้เปิดให้เห็นว่าน้องเสืออยู่ที่ใด


หลังจากนั้นทีมข่าวจึงพบว่าในบรรดาญาติของน้องเสือยังมีเด็กซึ่งอายุอยู่ในวัยเดียวกันคือ 2 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิง คือ น้องณดา (นามสมมติ) ทีมข่าวจึงได้ขออนุญาตแม่ของน้องณดาเพื่อที่จะให้น้องณดา ไปยืนยืนยันบริเวณจุดที่น้องเสือหายตัวไปและให้น้องณดาสาธิตการเดินจากบริเวณจุดดังกล่าว ออกไปไปยังบริเวณด้านหน้าบ้านของนายอานนท์ ซึ่งเป็นถนนที่จะลงไปยังหมู่บ้านและออกจากหมู่บ้าน


โดยทางด้านแม่ของน้องณดาก็ยินดีและให้ความร่วมมือ และมาดูแลในการสาธิตการเดินของน้องณดาอย่างใกล้ชิดพร้อมกับผู้สื่อข่าว โดยในการเดินจากบริเวณจุดที่น้องเสือหายตัวนั้น ในช่วงแรกน้องณดาก็เดินอย่างคล่องแคล่ว แต่พอถึงบริเวณที่เป็นหินต่างระดับ ก็จะมีการชะงักและสะดุดเล็กน้อย แต่น้องณดาก็สามารถเดินลงได้ จากนั้นเมื่อไปถึงใต้ถุนบ้านของนายอานนท์ น้องณดาก็จะพะวงเพราะไม่เห็นแม่ของตัวเอง จึงจะมีการชะงักและหันหลังกลับมามองไปที่แม่ แต่เมื่อเห็นแม่แล้ว ก็สามารถเดินไปยังหน้าบ้านของนายอานนท์ได้ตามปกติ




ซึ่งจากการสาธิตการเดินของน้องณดาดังกล่าวนั้น จะเห็นได้ว่าเด็กวัยสองขวบก็สามารถเดินลงได้แต่ถ้าไม่มีผู้กองดูแลก็อาจจะสะดุดล้มตรงทางต่างระดับ และอาจจะไม่กล้าเดินมาคนเดียวจนถึงถนนก็ได้




จากนั้นทีมข่าวได้กลับไปยังบ้านของน้องเสือและให้นำมาอากาศยานไร้คนขับ ขึ้นบินเพื่อสำรวจบริเวณบ้านของน้องเสือจากภาพมุมสูง จึงได้พบว่าบริเวณโดยรอบของบ้าน้องเสือ จะมีเพื่อนบ้านอยู่ประมาณสี่หลัง โดยด้านบนจะเป็นบ้านของ อาจูปิ ส่วนบริเวณด้านล่างจะเป็นบ้านของไอรา บริเวณด้านขวาจะติดกับเชิงเขา และบริเวณบริเวณด้านซ้ายจะเป็นบ้านของ อานนท์ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นญาติญาติกันหมด โดยบริเวณด้านของอานนท์นั้นจะเป็นเส้นทาง ที่คนในบ้านของน้องเสือ ใช้เดินเข้าออกไปยังบริเวณบ้าน


ขณะที่ช่วงเช้าผู้ใหญ่บ้านได้พาชาวบ้าน เข้าไปช่วยหาบริเวณหุบเขาซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งในช่วงเช้าผู้ใหญ่บ้านได้พากำลังชาวบ้านเข้าไปบริเวณดังกล่าวหนึ่งรอบแล้ว และหลังจากนั้นก็ออกมาสรุปผล ซึ่งเมื่อทีมข่าวได้เข้าไปไปยังหมู่บ้านดังกล่าวก็พบว่า ทางผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกำลังฝ่ายปกครองอยู่ระหว่างการประชุมสรุปผล ที่บริเวณจุดรวมตัว โดยหลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายชินรัตน์ อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.20 บ.ผาสุข(อาดี่) โดยได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า




ในช่วงเช้าของวันนี้ตนได้นำชาวบ้านกว่า 20 คน เข้าไปค้นหาบริเวณหุบเขาซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร โดยได้ระดมการค้นหาในลักษณะการปูพรม จนกระทั่งตนและชาวบ้านอีกสามคนได้เดินไปถึงจุดบริเวณที่เป็นหุบเขา และมีบ่อน้ำขนาดเล็กอยู่ ในขณะนั้นตนก็ได้กลิ่นลักษณะกลิ่นเหมือนสิ่งมีชีวิตตายมาหลายวันหรือกลิ่นเน่า โชยมากับลม แต่มีลักษณะกลิ่นที่แรงมาก ซึ่งในตอนนั้นตนจึงได้ระดมชาวบ้านทั้งหมดมาค้นหาบริเวณจุดดังกล่าว ซึ่งในการค้นหาใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงกลิ่นนั้นก็หายไป ซึ่งตนเองก็แปลกใจ แต่น่าจะเป็นเพราะลมที่โชยมาบริเวณริมเขาซึ่งบริเวณดังกล่าวจะมีลมแรง กลิ่นดังกล่าวจึงหายไป ซึ่งทั้งนี้เดี๋ยวจะจะกลับไปพูดคุยกัน และหลังจากนั้นจะเข้ามาค้นบริเวณจุดนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง


ซึ่งในการมาค้นหาบริเวณจุดดังกล่าวในวันนี้นั้น ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านมาพบลุงของเด็ก อยู่แถวบริเวณดังกล่าวนี้ในช่วงเวลา 16.00 น. โดยมีการสอบลุงของเด็กก็ตอบว่า มาเข้าป่าหาผึ้งหานก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องน่าแปลกใจเพราะว่าก่อนหน้าหน้านั้น ตัวของน้องเสือซึ่งเป็นหลานของเขาเพิ่งจะหายตัวไปแต่ทำไมถึงไม่ยอมไปค้นหาว่าหลานหายไปไหนซึ่งในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็อยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะได้นำตัวลุงของเด็กไปตั้งแต่วัน ที่สองที่น้องเสือหายตัว เพราะว่าตรวจสารเสพติดในปัสสาวะได้ ทั้งนี้ทางชาวบ้านก็จะดำเนินการค้นหาตัวของน้องเสืออย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะพบตัวของน้องเสือ


ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับ น.ส.นาสิ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน้องเสือ โดยในวันนี้ น.ส.นาสิ ได้เดินทางไปที่ สภ.แม่ยาว เพื่อพบพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้พายายของน้องเสือไปให้ปากคำเพิ่มเติม โดย น.ส.นาสิ ได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า




ในช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปที่ สภ.แม่ยาว ซึ่งจากการที่เดินทางไปนั้นได้พาทางด้านยายของน้องเสือไปให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แจ้งว่ายังไม่มีความคืบหน้าอะไรเพิ่มเติมและไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม ซึ่งในวันนี้หลังจากที่ตนเดินทางกลับมาที่บ้านได้ทราบข่าวว่าเมื่อในช่วงกลางวันที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้เข้าไปค้นหาบริเวณจุดที่ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นจึงได้พบกลิ่นซึ่งเป็นลักษณะเหมือนกลิ่นของสิ่งมีชีวิตที่ตายเป็นเวลาหลายวัน ซึ่งจากการที่ตนได้ทราบข่าวตนก็ขอภาวนาว่าไม่ให้เป็นน้องเสือลูกของตน


ซึ่งในตอนนี้ตนก็ภาวนาว่าอยากให้พบกับน้องเสือในเร็ววันและขอให้น้องเสือปลอดภัย ทั้งนี้ตนก็อยู่จนกว่าจะพบว่าน้องเสืออยู่ที่ใด ซึ่งในตอนนี้ตนก็ยังเชื่อว่าน้องเสือยังมีชีวิตอยู่ และก็ขอให้น้องเสือปลอดภัยกลับมาหาตน

 

4 วันไร้ร่องรอย! "น้องเสือ" 2 ขวบหายตัวปริศนา กลิ่นเน่าโชยกลางหุบเขา