เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 มี.ค. ที่ โรงพยาบาล ซีจีเอช สายไหม บรรยากาศรับศพของ เมฆ วินัย ไกรบุตร นักแสดงชื่อดังที่ได้เสียชีวิตจากโรคตุ่มน้ำพอง และต้องรักษาตัวเองมานาน กว่า 5 ปี เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

 

คุณ เอ๋ อรชัญญาช์ ภรรยา ของ เมฆ วินัย ไกรบุตร และญาติๆ เดินทางมารับร่างของคุณเมฆ หลังเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร

 

โดยทางครอบครัวได้รถขนร่าง พร้อมกับพระสงฆ์ มาทำพิธีเคลื่อนร่าง ออกจากโรงพยาบาล ขณะที่เคลื่อนร่างของคุณเมฆ มาขึ้นรถบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ภรรยาและญาติๆ ต่างร้องไห้ พร้อมกับพูดเรียกคุณเมฆ รวมถึงระหว่างทางได้กำชับญาติๆว่า ให้เรียกคุณเมฆไปตลอดทางด้วย

 

และทางภรรยาของคุณเมฆ ยังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่โรงพยาบาล เพราะอยากจะนำร่างของคุณเมฆ ไปที่วัดให้เรียบร้อยก่อน และจะไปให้สัมภาษณ์อีกครั้งที่วัด จากนั้นก็เดินทางออกจากโรงพยาบาลทันที

 

สำหรับกำหนดการสวดอภิธรรมศพร่างของคุณเมฆ วันนี้ เวลา 16.00 น.จะมีพิธีรดน้ำศพ และสวดอภิธรรมในเวลา 18.00 น. โดยจะมีพิธีสวดอภิธรรมจะไปจนถึง 24 มี.ค. และมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 25 มี.ค.

 

ต่อมานางอรชัญญาช์ หรือ เอ๋ ภรรยาของนายวินัย ไกรบุตร หรือ เปิดใจทั้งน้ำตาถึงการจากไปของ พี่เมฆ บอกว่า ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันกะทันหัน แต่ก็จะตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อส่งพี่เมฆเป็นครั้งสุดท้าย

 

โดย คุณเอ๋ บอกว่า พี่เมฆเข้าโรงพยาบาลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา และระหว่างนั้นมีการหยุดหายใจไปแป๊บหนึ่ง ก่อนจะกระตุ้นให้ฟื้นกลับมา และหลังจากที่ฟื้นมาอีกครั้งพี่เมฆก็จะเรียกตนให้ไปหอมแก้ม ไปกอดบ่อยจนผิดสังเกต ทำแบบนั้นอยู่ประมาณ 2-3 วัน ก่อนจะบอกว่าตัวเองเหนื่อย เหนื่อยมาก ตอนนั้นเธอนึกว่าอาจจะเพลียจากอาการของโรค จึงบอกให้นอนพัก จนกระทั่ง วันที่ 18 มีนาคม พี่เมฆมีอาการเกร็งตามร่างกาย และเข้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นเธอก็ไม่ได้พูดคุยกับพี่เมฆอีกเลย

 

คุณเอ๋ บอกอีกว่า ช่วงที่พี่เมฆบ่นว่าเหนื่อย ยอมรับว่าสังหรณ์ใจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะไปเร็วขนาดนี้ และยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ช่วงหนึ่งพี่เมฆอาการดีขึ้น แต่พี่เมฆก็ไปแกะสะเก็ดแผลตามร่างกายออกจนหมด จนเลือดไหลอาบท่วม ซึ่งเมื่อเธอถามว่าแกะทำไม พี่เมฆบอกว่า ตนเองฝัน ฝันว่ามีคนบอกให้แกะออกให้หมด ทำให้เธอคิดว่าสาเหตุนี้อาจจะทำให้แผลติดเชื้อ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ พี่เมฆมีอาการความดันตก หัวใจเต้นช้าลง และน้ำเริ่มท่วมปอด ซึ่งเธอกำลังทำเรื่องย้ายตัวพี่เมฆไปรักษาโรงพยาบาลจุฬาฯ แต่ด้วยอาการแย่ลงเรื่อยๆทำให้ย้ายไม่ทัน

 

และวันสุดท้ายคุณเอ๋ ก็บอกว่าเธออยู่กับพี่เมฆจนวินาทีสุดท้าย อยู่จนเค้าไป คุณเอ๋ ยังบอกอีกว่า พี่เมฆสู้มาตลอด 5 ปี คอยบอกกันตลอดให้สู้ สู้จนถึงที่สุดถ้าเหนื่อยก็พัก เมื่อวานเธอก็บอกว่า “ถ้าไม่ไหวก็พอแล้ว”

 

คุณเอ๋ ยังบอกทั้งน้ำตาอีกว่า รักพี่เมฆมาก ทำให้เขาได้ทุกอย่าง รู้มาตลอดว่าพี่เมฆเป็นห่วงเรา คอยถามเธอตลอดว่า ไหวไหม และทุกครั้งเธอก็จะบอกว่าไหว บอกตลอดทั้งผ่านสื่อและบอกกับเค้ามาตลอด สิ่งที่เธออยากจะบอกพี่เมฆเป็นครั้งสุดท้าย คืออยากบอกว่า ไม่ต้องห่วงแล้ว ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี อดทนมาเยอะ ทำเพื่อครอบครัวมาตลอด สร้างเป้าหมายให้ลูกมาดีที่สุดแล้ว อะไรที่พี่เมฆทำไว้ เอ๋จะสานต่อเอง จะทำต่อให้ดีที่สุด ในฐานะแม่ของลูกและภรรยาของพี่ ทั้งบริษัทที่วางแผนจะเปิดกันก่อนหน้านี้ด้วยเธอก็จะทำต่อ

 

ส่วนเมื่อถามถึงคอนเสิร์ตที่เพื่อนๆนักแสดงศิลปินจะจัดให้ เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวทั้งค่าหมอ ค่ายา ในคอนเสิร์ต “เพื่อนมีไว้ทำไม เพื่อหารายได้ช่วยเหลือ เมฆ วินัย ไกรบุตร” จะจัดในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงเลียบด่วนรามอินทรา โดยภายในงานมาเหล่าเพื่อนในวงการบันเทิงอาทิ หนุ่ม คงกระพัน, แท่ง ศักดิ์สิทธิ์, บอย พิษณุ, มอส ปฎิภาณ, กบ ทรงสิทธิ์ และเพื่อนศิลปินอีกเกือบ 30 คน โดยคุณเอ๋ บอกว่า คอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้นในอีก 6 วัน ก็จะยังคงเกิดขึ้น ไม่ยกเลิกแน่นอน และตั้งแต่ที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต พี่เมฆก็ตั้งใจจะไปมาตลอดและคอยถามหมอว่าไปได้ไหม

 

คุณเอ๋ได้ขอบคุณเพื่อนๆศิลปินนักแสดงทุกคนที่รักพี่เมฆ “ถ้าพี่เมฆไม่ป่วยก็ไม่รู้ว่าเพื่อนรักเค้าขนาดไหน” ขอบคุณทุกคนมากๆ และ ขอเป็นตัวแทนพี่เมฆขออโหสิกรรมแฟนคลับทุกคนที่รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดพี่เมฆที่ผ่านมา พี่เมฆเป็นคนพูดไม่ทันคิดแต่พี่เมฆเป็นคนจริงใจและไม่ได้คิดอะไรขอให้แฟนคลับและคนที่ไม่พอใจได้โปรดอโหสิกรรมให้พี่เมฆด้วย และยังได้ฝากไปถึงคู่รักสมัยใหม่ที่รักแบบฉาบฉวย อยากมองคู่ของตนเองที่ดูแลกันทั้งยามทุกข์และยามสุข อยากให้มองครอบครัวเธอยามที่มีปัญหาที่ไม่ได้ทอดทิ้งกัน

 

ส่วนลูกทั้ง 3 คนของพี่เมฆ เธอบอกว่าจะทำอย่างเต็มที่ จะเลี้ยงให้ดีกว่าเดิม จะเป็นทั้งพ่อและแม่ยอมรับลูกมีถามหาถึงตัวพี่เมฆ ว่าทำไมอาการพ่อถึงแย่ลงแต่ฉันเชื่อว่าลูกได้เห็นและเข้าใจ

 

ก่อนจะจบการสัมภาษณ์ คุณเอ๋ ได้พูดระบายและร้องไห้ออกมาว่า ตัวเธอไม่ได้เก่งอยากจะร้องไห้ปล่อยโฮแต่รู้ว่าถ้าทำไปจะทำให้คนรอบข้างทั้งครอบครัวเธอและครอบครัวพี่เมฆไม่สบายใจและเครียดเพราะทุกคนรู้ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เธอดูแลพี่เมฆมาตลอดไม่เคยห่างพอเกิดเหตุการณ์นี้ทุกคนกลัวว่าเธอจะไปตามพี่เมฆไป ซึ่งเธอยืนยันว่าเธอจะไม่ไปเพราะเธอต้องดูแลลูกให้ถึงฝั่งฝันให้ดีที่สุด

ปิดตำนานพระเอกร้อยล้าน "วินัย ไกรบุตร" เสียชีวิตแล้ว