เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ก.พ.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พาผู้เสียหายนายภมร อายุ 34 ปี ช่างรับเหมาก่อสร้าง และ นางถาวร อายุ 59 ปี มารดา ชาว จ.อุดรธานี เข้าพบ พ.ต.ท.เอกรัตน์ ขวัญฤกษ์ สว.(สอบสวน)กก.3.บก.ป. แจ้งความกรณีโดน ปลัดสายโหด ชักปืนจ่อหัว กระหน่ำยิงรถ เนื่องจากมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับคนข้างบ้าน แจ้งความนานร่วมปี ปลัดกร่างยังลอยนวลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

นายภมร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนได้ไปขับรถเที่ยวดูหมอลำตามหมู่บ้านเป็นปกติแต่วันนั้น เป็นวันที่เกิดเหตุ ตนเมา และกลุ่มของปลัดคนดังกล่าวกับพวกก็เมา ก็เลยเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน โดยทางตนโดนเอาขวดเหล้าตีหัวตนแตก ตนได้ไปเย็บแผล และได้ไปแจ้งความที่โรงพัก ทางคนที่ตีหัวตนได้ติดต่อมาขอเคลียร์กับตน ตนเลยได้พาแม่ไปที่บ้านคนที่ตีหัวตนเพื่อขอเคลียร์ปัญหา

 

โดยที่ตนจอดรถอยู่ที่หน้าบ้านคนที่ตีหัวตนและกำลังเคลียร์ปัญหากัน ปลัดคนดังกล่าวและลูกน้องของปลัดได้ขับมอเตอร์ไซค์มาด้านหลัง และได้เอาปืนมาจ่อหัวตน และพูดว่าไม่จบอีกหรอ โดยตนบอกว่าคดีที่ตนโดนตีหัวจบไปแล้วตนไม่ได้คิดอะไร เพราะมองว่าก็เมากันทั้งคู่ และในขณะที่ปลัดเอาปืนจ่อ หัวตน ก็ได้ปัดมือปลัดออก ทำให้ปืนลั่นขึ้นฟ้า และตนได้รีบขยับรถออกเพราะว่าแม่ของตนยังอยู่ในรถ

 

และทำให้แม่ตนตกใจมาก และปลัดคนดังกล่าวได้ใช้ปืนยิงไปที่รถ 1 นัด และกระหน่ำยิงไปที่ล้อรถ ประมาณ 10 นัด ทำให้รถเสียหลัก ถอยไปชนกับรถบรรทุก แต่ไม่มีใครรับบาดเจ็บแต่รถพัง ยางแตก 2 เส้น รถเป็นรอยกระสุน พอเขายิงเสร็จเขาก็กลับไปกินเหล้าต่อ ตนเลยได้พาแม่ ไปแจ้งความ และ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกปลัดคนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา 3 ครั้ง แต่ปลัดคนดังกล่าว ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาเลย และทุกวันนี้ ปลัดคนดังกล่าวยังทำงานที่อำเภอ ลอยนวลอยู่ ไม่ได้รับโทษอะไรเลย และทางปลัดได้มาเคลียร์กับตนและจะจ่าย ค่าเสียหาย 5,000 บาท แต่ค่าซ่อมรถ 70,000 บาท และได้ทำหนังสือ ไปที่อำเภอ แต่ถ้าไม่มีความคืบหน้าอะไรตนก็ไปแจ้งความ ดำเนินคดีอีกครั้ง

 

นางถาวร  อายุ 59 ปี แม่ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ตนหวาดกลัวเพราะว่าตนอยู่บ้านคนเดียว กลัวว่าจะได้รับอันตรายจากปลัดคนดังกล่าว และยิ่งตนมาร้องสื่อมวลชนยิ่งจะทำให้ทางปลัดคนดังดังกล่าวนั้นโกรธซึ่งทำให้ตนกลับบ้านไปตนกลัวว่าต้องได้รับอันตรายแน่นอน แต่ก็ต้องรอดูต่อไปว่าตนจะเกิดอะไรขึ้น

 

จ่าคิงส์ กล่าวเสริมว่า ตนอยากจะให้ทางกระทรวงมหาดไทย ถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อ ตรวจสอบที่มาที่ไปของปลัดคนดังกล่าวว่ามีการกระทำความผิดแบบนี้กับบุคคลอื่นหรือไม่และตรวจสอบที่มาที่ไปที่ไปของปลัดคนดังกล่าว

 

เบื้องต้นผู้เสียหายได้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อที่จะร้องทุกข์แจ้งความเป็นคดีกับปลัดคนดังกล่าวต่อไป

 

ขณะเดียวกันวันนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปสถานที่ทำงานของปลัดเดชา แต่ปรากฏว่า ทางปลัดไม่ได้อยู่ที่ทำการตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนนายอำเภอ ก็ไปประชุมกับผู้ว่าราชการ ที่ศาลาว่าการจังหวัด

 

ซึ่งทีมข่าวจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับทางปลัดเดชา ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางปลัดเดชา บอกว่าวันนี้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ และยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์กับสื่อ เนื่องจากตอนนี้ อยู่ในระหว่างการทำหนังสือรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นไปถึงท่านนายอำเภอ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้ว จำไม่ได้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเหตุการณ์ดังกล่าวก็อาจจะเป็นการเข้าใจผิดกัน จึงจำเป็นต้องขอชี้แจงกับทางผู้บังคับบัญชาก่อน ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายไปร้องเรียนกับจ่าคิงส์ เมื่อช่วงเช้าทางจังหวัดได้ส่งหนังสือดังกล่าวมาให้รับทราบแล้ว และถ้าพร้อมเมื่อไหร่ จะออกมาชี้แจงกับสื่อภายหลัง

 

ด้าน นางสาวนงลักษณ์ เป็นผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า วันที่เกิดเหตุ ตนเองไม่ได้ไปร่วมงาน เนื่องจากงานดังกล่าวเป็นงานส่วนตัวที่จัดอยู่ภายในบ้าน แต่ก่อนจะมีการจัดงาน ยอมรับว่าส่วนตัวได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านว่าจะมีการใช้เสียงตั้งแต่สองทุ่มถึงเที่ยงคืน เนื่องจากภายในงานจะมีการแสดงหมอลำ และวันเดียวกันนั้น ก็รับทราบจากเจ้าของบ้านว่าจะมีการทำหนังสือไปถึงปลัดอำเภอ เพื่อร้องขอให้นำกำลังฝ่ายปกครองเข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในงานเลี้ยงดังกล่าว ซึ่งวันงาน ตนเองไม่แน่ใจว่าตัวปลัดเดชา เข้ามาร่วมงานด้วยหรือไม่

 

จนกระทั่งช่วงเย็น ก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุการณ์ทะเลาะกันและมีเสียงปืนดังขึ้น หลังเกิดเหตุตนเองจึงขับรถไปดูในที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าไม่เจอใครอยู่ในที่เกิดเหตุ และเห็นเพียงรถของผู้เสียหายจอดอยู่ แต่ไม่รู้ว่ารถเสียหายเพราะอะไร และไม่มีชาวบ้านคนไหน ยืนยันว่าปลัดเดชา เป็นคนยิง

 

กระทั่งวันต่อมา ก็คือวันที่ 5 เมษายน 2566 ทางตำรวจก็ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐานว่าใครเป็นคนยิง แต่ก็ไม่มีใครกล้าเป็นพยาน ยืนยันส่วนตัวในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะตอนที่รู้ว่าผู้เสียหายคือนายแม็ก ตนเองยังบอกให้แม็ก รีบไปแจ้งความอยู่เลย

 

ซึ่งตัวปลัดเดชา ตนเองยอมรับว่าก็รู้จักกัน เพราะเวลามีงานในหมู่บ้าน ทางปลัดเดชา ก็จะมาร่วมงานทุกครั้ง ซึ่งชาวบ้านให้ช่วยเหลือเรื่องอะไร ทางปลัดเดชา ก็จะลงพื้นที่มาด้วยตัวเอง  โดยส่วนตัวเท่าที่สัมผัสกับปลัดเดชา ยืนยันว่าตัวปลัดเดชา ไม่ใช่คนที่อารมณ์ร้อน ไม่ใช่คนเกเร และไม่เคยกร่างใส่ชาวบ้าน จึงไม่เชื่อว่าปลัดจะเป็นคนยิงนายแม็ก ซึ่งความเป็นไปได้ที่สุด เสียงปืนดังกล่าวถ้าปลัดเป็นคนยิงจริงๆ อาจจะยิงขู่ขึ้นฟ้าเพื่อระงับเหตุ เพราะหลังเกิดเหตุ มีชาวบ้านให้ข้อมูลมาว่า ก่อนที่รถนายแม็ก จะถูกยิงยาง นายแม็ก ได้ขับรถไปเฉี่ยวรถของลูกน้องปลัด โดยไม่ได้จอดรถลงมาเคลียร์ จึงเป็นเหตุให้ปลัดต้องยิงเพื่อสกัดรถเอาไว้หรือไม่

ร้องปลัดปืนดุ! จ่อหัวกระหน่ำยิงรถพรุน 12 นัด  อ้างจำไม่ได้คาดเป็นเรื่องเข้าใจผิด