จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ว่าผู้เป็นตาของตนได้ไปคบหากับหญิงคนหนึ่ง ชื่อ “น้องพร” (นามสมมติ) อายุประมาณ 35 ปี อ้างว่าเลิกกับสามีแล้ว และมีลูกติด 2 คน รู้สึกชอบพอกับตาของตนที่มีอายุ 69 ปี ประกอบตาก็เพิ่งจะเสียยายไปเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 2566 ทำให้รู้สึกเหงาทั้งคู่จึงตัดสินใจคบหากันตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. 2566 เป็นต้นมา


ซึ่งตาก็หลงเชื่อ ซึ่งระหว่างที่คบกันฝ่ายหญิงมักจะออกอุบายขอความช่วยเหลือให้ออกค่าใข้จ่ายต่าง ๆ จากตาของตน ทั้งโกหกว่าแม่ตาย ให้ช่วยจัดงานศพ ลูกป่วยเข้าโรงพยาบาลไม่มีค่ารักษา ซึ่งในแต่ละครั้งจะต้องให้ตาของตนขับรถเอาเงินสดไปให้ที่บ้าน อยู่ในอำเภอเดียวกันแต่คนละตำบล ระยะห่างประมาณเกือบ 20 กิโลเมตร ซึ่งจะไม่ยอมให้โอนเงินเข้าบัญขีเด็ดขาด อีกทั้งยังหลอกให้คุณตาเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง และนำเงินมาให้ รวมมากกว่า 230,000 บาท





ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เข้าพูดคุยกับนายคนึง อายุ 69 ปี ผู้เสียหาย เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองรู้จักกับหญิงสาวรายนี้ผ่านทางเพื่อนของตนอีกที โดยตอนนั้นเพื่อนตนได้พาเขามาเพื่อขอยืมเงินตน ตนสงสารจึงให้ยืมไป จากนั้นก็เริ่มทำความรู้จักกันเรื่อย ๆ จนถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง หลังจากคบหากันมา 1 เดือน ก็อ้างแม่ป่วย เข้าโรงพยาบาลบ้าง แม่ตายบ้าง จัดงานศพแม่บ้าง ก็ขอเงินตนเองไปช่วยจัดงานศพและอื่น ๆ ที่ละ 20,000 - 30,000 บาท


บางทีก็อ้างลูกป่วยอยู่โรงพยายาลก็ให้ตนเอาเงินมาให้รักษา แต่ไม่ยอมให้ตนเอาเงินเข้าไปที่โรงพยาบาล แต่กลับนัดไปตามปั๊มน้ำมันบ้าง ข้างทางบ้าง ไม่ยอมให้โอนเงินให้ ซึ่งก็ช่วยเงินมากน้อย หลักพันจนถึงหลักหมื่นก็มี ซึ่งก่อนที่จะคบกันทำไมถึงเลิกกับผัว ก็บอกว่าที่เลิกเพราะผัวติดคุก จนสุดท้ายจับได้เพราะอ้างว่าลูกป่วยอยู่สุโขทัย แต่ญาติตนไปเห็นว่าอยู่แถวตลาด ซึ่งพอรู้ว่าตนจับได้ก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย





ตนอยากได้เงินมาถ่ายที่ดินที่นำไปจำนองคืน ก็เก็บเงินที่ทำนาไว้เพื่อลงทุน แต่ก็เอามาให้เพราะเชื่อใจหญิงรายนี้ หลังเกิดเรื่องก็ไปแจ้งความ แต่ไม่รู้จะได้เงินคืนหรือไม่ หากไม่ได้คืนก็อยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ต่อคนที่หลงรักคนง่าย เชื่อใจคนง่ายอย่างตน คนแก่ก็มีหัวใจ ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงรายนี้แล้ว


ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุย น้องพร ทางโทรศัพท์ เล่าว่า จริง ๆ แล้วตนไม่ได้ไปหลอกลวงอะไรใครเลย ที่ให้มาก็ให้ด้วยความเสน่หา เขาเองก็พร้อมใจ ตนเองไม่ได้ไปหลอกลวงเขา เขาให้ตนด้วยอะไรเขารู้อยู่แก่ใจ คนเราถ้าไม่หวังประโยชน์อะไรคงไม่มาให้เงินกัน และอีกอย่างก็ไม่ได้เอาเงินมาให้ตนแสนสองแสน ทุกวันนี้ตนยังเป็นหนี้นอกระบบอยู่เลย ยืนยันได้เลยว่าไม่ได้เงินจากเขาขนาดนั้น





ส่วนเรื่องโฉนดที่ดินที่อ้างว่า ตนหลอกให้ไปโอนไปจำนองมาใช้งานศพแม่ตนเองนั้น ตนไม่ได้หลอกเขา เขาต้องการใช้เงินจะไปจ่าย ธ.ก.ส. และมาถามตนว่าจะเอาไปจำนองได้ที่ไหนบ้าง ตนจึงพาไป ส่วนที่บอกว่าทุกครั้งที่มาเอาเงินจะต้องนัดออกมาข้างนอกไม่ยอมให้โอน ก็เขาเป็นคนนัดเองโดยอ้างว่าโอนไม่เป็น แค่ต้องการเจอตัว ส่วนที่มาแจ้งความตน ก็ไม่ทราบสาเหตุเพราะอะไร อาจจะน้อยใจที่จะให้ตนไปอยู่กินด้วย ตนยืนยันว่า ไม่ได้ต้มตุ๋นหลอกลวงแต่อย่างได


ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปบ้านของน้องพร สาวที่ถูกคุณตาอ้างว่าไปหลอกเอาเงิน เมื่อไปถึงกลับไม่พบตัวของน้องพร เพราะได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้านแล้ว เหลือแต่แม่และญาติ ๆ นั่งอยู่





โดยทีมข่าวได้พยายามสอบถามคุณแม่ของน้องพร ว่าทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยแม่ตอบว่า ทราบเรื่องอยู่แล้วแต่ไม่รู้เรื่องว่าลูกสาวตนไปหลอกหรือทำอะไรไว้ และพยายามขอไม่ให้ทีมข่าวถามไถ่ถึงอะไร เพราะไม่อยากตอบอะไรแล้ว


ทีมข่าวจึงได้ถามต่อว่าทางตัวของน้องพรมีแฟนอยู่แล้วหรือไม่ โดยแม่ตอบเพียงว่ามีลูกและมีผัวอยู่แล้ว ทีมข่าวจึงถามต่ออีกว่า น้องพร มีลูกมีผัวแล้วไปหลอกคุณตาวัย 69 ทำไม แม่ของน้องพรก็ตอบเพียงว่าไม่รู้ และไม่ต้องมาถามอะไรแล้ว ก่อนจะขอให้ทีมข่าวกลับไปและไม่ต้องมาอีก

 

พ่อเฒ่าผวา! น้องพร v.2 โผล่ลวงรักสูญ 2 แสน ช่อง 8 บุกหาปิดบ้านเงียบปล่อยแม่โต้แทน