2 วัยรุ่น ถูกชายฉกรรจ์อ้างเป็นตร.กองปราบฯ บุกค้นบ้าน-เรียกเงิน 1 แสนบาท ให้ปากคำเพิ่ม พร้อมชี้ตัวผู้ต้องสงสัยยืนยันเป็นชายเสื้อเหลือง ขณะผู้กำกับ เผยความคืบหน้า ได้ข้อมูลมากกว่า 70% แล้ว ด้าน "บิ๊กก้อง" ส่งชุดสืบร่วมทำคดี

ความคืบหน้ากรณีที่ วัยรุ่น 2 คนเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเพจสายใหม่ต้องรอด ถูกชายฉกรรจ์ 4-5 คน อ้างตัวเป็นตำรวจเข้ามาตรวจค้นยาเสพติดในบ้านเช่า ภายในหมู่บ้านมั่นคง ก่อนนำตัวหนึ่งในผู้เสียหายขึ้นรถข่มขู่จะยัดยาเสพติด หากไม่จ่าย 1 แสนบาท แต่ผู้เสียหายไม่มีจ่ายค้นตัวได้เงินไปเพียง 5,000 บาท ก่อนนำตัวผู้เสียหายไปปล่อยที่ ถ.รามอินทรา46

 

ทีมข่าวยังได้ตรวจสอบภาพวงจรปิด ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งเป็นกล้องที่อยู่ภายในซอยบ้านของนายบาส(นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้เสียหาย

 

16.45 น. ของวันที่ 8 ก.พ.ชายต้องสงสัยนายเหลือง (เสื้อเหลือง) สวมแมส - ใส่หมวกแก๊ป เดินเท้าเข้ามายังบ้านนายบาส ผู้เสียหาย โดยเดินไปจนสุดซอยและเดินวนออกมา สวนกับชาวบ้าน ก่อนเดินไปนั่งโต๊ะม้าหิน ตรงข้ามบ้านนายบาส

 

16.48 น. พบชายคนหนึ่งนายเทา (เสื้อเทา) ผู้ต้องสงสัย ลุกออกมาจากม้าหินที่นายเหลือง เดินไปนั่ง ไม่ถึง 1 นาที นายเหลือง ลุกออกมา ปรากฏในกล้อง ทั้งคู่นั่งคุยกัน

 

ก่อนพบชายอีกคน (เสื้อเทา) ขึ้นค่อมรถขี่ออกไป บุคคลนี้ไม่ชัดเจนว่าเป็นชาวบ้านหรือเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย (เนื่องจากเหตุนี้รายงานว่า มีชายต้องสงสัยทั้งหมด 5 คน อยู่ในรถ 1 คน ปรากฏตัว 4 คือ เสื้อเหลือ แดง น้ำเงิน เทา)

 

โดยพบว่านายเหลือง นายเทา นั่งคุยกันพักใหญ่ ๆ

 

16.58 น. นายแดง นายเหลือง ลุกขึ้นจากโต๊ะม้าหิน เมื่อลุกขึ้นสอดแนม ประมาณ 38 วิ ทั้งคู่ลุกขึ้น ก่อนปรี่เข้าบ้านนายบาส ผู้เสียหาย โดยที่นายเทา รีบเดินตามเข้าไปประกบ

 

17.18 น. นายน้ำเงินปรากฏตัวรีบเดินเข้าบ้านนายบาส ตามชายต้องสงสัย 3 คนเข้าไป คาดว่าเป็นช่วงปฏิบัติการ

 

17.22 น. นายเหลืองเดินออกมาจากบ้านนายบาส (ผู้เสียหาย) นายเทา เดินตามออกมา 17.23 น. นายเทา เดินออกจากซอยไป ไม่ชัดว่าออกไปตามให้คนขับรถมาหรือออกไปขับรถมา

 

17.24 น. 10 วิ นายเหลือง, นายน้ำเงิน เคลื่อนไหวเดินไปมา ต่อมาคนขับรถเก๋งสีขาวเข้ามามายังบ้านของผู้เสียหาย

 

17.24 น. 44 วิ ทั้งหมดมีการเชิญตัวนายบาส ผู้เสียหาย ซึ่งแต่งกายสวมเสื้อสีน้ำเงิน ออกมาจากบ้าน และพาขึ้นรถ ก่อนถอยรถออกจากซอยไป

 

จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างซอยเพิ่มสิน 13 และ 15 ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้าน ที่นายบาส(นามสมมติ)ได้มาเช่าบ้านอยู่ โดยทีมข่าวเข้าไปเพื่อพยายามสอบถามหาผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในช่วงที่กลุ่มคนที่แอบอ้างว่าเป็นตำรวจกองปราบปราม เข้าไปที่บ้านของนายบาส แต่จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในซอยเดียวกับบ้านของนายบาส ปรากฏว่าช่วงที่เกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่บ้านเลย

 

โดยหลังจากนั้นทีมข่าวจึงได้พบกับ นางจันทร์ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับบ้านของนายบาสโดยนางจันทร์ได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

 

“ในวันที่เกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้านจึงไม่ทราบว่าเกิดเหตุเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่บ้านของเด็กกลุ่มนี้ เพิ่งจะเข้ามาอยู่กันได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน ตั้งแต่ที่กลุ่มของเด็กกลุ่มนี้เข้ามาอยู่นั้น ก็มีเด็กวัยรุ่นเข้าออกเป็นประจำ แต่ไม่ได้ก่อความเดือดร้อนรำคาญอะไรให้เพื่อนบ้าน และต้นก็ไม่ทราบว่าเขาประกอบอาชีพอะไรกัน

 

โดยในที่เกิดเหตุก็มีเพื่อนบ้านหลังอื่นได้เล่าให้กับตนฟังว่า เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณสามคนมานั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้านของตน ซึ่งชายกลุ่มนี้เพื่อนบ้านคนอื่นไม่เคยคุ้นหน้ามาก่อน หลังจากนั้น ชายสามคนจึงได้เข้าไปที่บ้านของเด็กวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว ซึ่งอยู่เยื้องกับบ้านของตน และได้เข้าไปภายในบ้านเป็นเวลาสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นได้นำรถเก๋งสีขาวเข้ามาภายในซอย

 

ซึ่งปกติคนที่เข้าออกซอยนี้ถ้าเพื่อนบ้านเห็นก็จะคุ้นกันอยู่แล้ว แต่ด้วยรถคันดังกล่าวเป็นรถที่แปลก และกลุ่มคนก็เป็นกลุ่มคนแปลกหน้าจึงเป็นจุดสังเกตของคนอื่น หลังจากนั้นก็ได้พาเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งพักอาศัยอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ขึ้นรถออกไป ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่ามีเรื่องราวอะไรกัน จนกระทั่งในช่วงเมื่อวานนี้เห็นคุณเอกภพ สายไหมต้องรอด เข้ามาจึงตกใจ และสอบถามเรื่องราวจึงได้ทราบเหตุการณ์ ว่าเกิดอะไรขึ้น”

 

ล่าสุด วันนี้ผู้เสียหายทั้ง 2 คนได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ที่สน.สายไหม ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้การสอบปากคำยังไม่เสร็จสิ้น หลังจากเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุจนทราบเส้นทางพร้อมอะไรภาพกล้องวงจรปิด รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ประกอบสำนวนคดี ถ้ามีแนวระหว่างสอบปากคำชุดสืบสวนสน. สายไหมได้นำรูปผู้ต้องสงสัยมาให้ผู้เสียหายชี้ตัว ซึ่งทั้งสองคนยืนยันว่าบุคคลในรูป คือชายเสื้อเหลือง ในแก๊งชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นตำรวจจริง

 

ทั้งนี้พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับ สน.สายไหม เปิดเผยว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดสืบสวน ได้ทำการไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว วิ่งผ่าน ตามคำให้การของผู้เสียหาย ที่อ้างว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ใช้ก่อเหตุและพาตัวเองขึ้นไปบนรถขับรถวนเพื่อข่มขู่เรียกเงิน 1 แสนบาท ตอนนี้ได้ภาพเกือบครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวสวมป้ายทะเทียบ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังทราบตัวผู้ก่อเหตุ แต่เมื่อนำมาตรวจสอบฐานข้อมูลในระบบพบว่าลักษณะรูปพรรณบางอย่างไม่ตรงกัน จึงต้องให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวเพื่อยืนยันความถูกต้องอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้มากกว่า 70% แล้ว และยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในครั้งนี้

 

สำหรับการติดตามดำเนินคดีจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สายไหมในฐานะเจ้าของพื้นที่ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบส่วนกลาง ได้ส่งได้ส่งชุดสืบของกองปราบฯ มาร่วมด้วย เนื่องจากผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นตำรวจกองปราบ

ชัดแล้ว! 4 ฉกรรจ์บุกบ้านยัดยารีดเงินแสนไม่ใช่กองปราบ "บิ๊กก้อง" ลุยเองสั่งลูกน้องสางคดี