ล่ามือบงการทำคีย์การ์ดของน้องพร จนถึงนาที ไอ้กิต บุกอุ้ม ใหม่


จากไทม์ไลน์การทำคีย์การ์ดของน้องพร จนถึงนาทีอุ้มตัวใหม่ พบว่า วันที่ 28 ธ.ค. 2566 พรและใหม่ติดต่อทางหมู่บ้าน เพื่อขอคีย์การ์ดอันใหม่เพิ่ม 1 อัน




จากนั้นวันที่ 21 ม.ค. 2567 พบว่า กิตเข้าหมู่บ้านเพื่อแอบมาพบกับพร โดยแลกบัตรประชาชน กระทั่งวันที่ 27 ม.ค. 2567 พบว่า กิตบุกอุ้มตัวนายใหม่ โดยใช้คีย์การ์ดเข้ามาในหมู่บ้าน


รปภ. เผยรถช่างกิต แตะคีย์การ์ดจากในรถเข้าหมู่บ้าน


ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้าน ของน้องพรและนายใหม่ เพื่อตรวจสอบระบบคีย์การ์ดผ่านเข้า-ออกของหมู่บ้าน หลังก่อนหน้านี้มีหลักฐานกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะที่ นายกิต ผู้ก่อเหตุได้ใช้คีย์การ์ด ผ่านเข้า-ออกก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ซึ่งทีมข่าวได้พบว่าคีย์การ์ดเป็นลักษณะแผ่นสี่เหลี่ยมพลาสติก มีตัวบันทึกเป็นเมมโมรี่บรรจุอยู่ภายในที่บันทึก และจะมีการแสดงผลไปที่ตัวบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์ของนิติหมู่บ้าน ว่ามีลูกบ้านที่ผ่านเข้า-ออกเป็นบ้านหลังไหน และการใช้คีย์การ์ดจะผ่านเข้า-ออก หากเป็นรถที่ไม่ได้ติดฟิล์มหนาเกินไปก็สามารถที่จะไม่ต้องเปิดกระจกแค่ยกบัตรคีย์การ์ดขึ้นมา ไม้กั้นก็จะยกขึ้น และสามารถที่จะผ่านเข้า-ออกได้ ซึ่งทีมข่าวได้ข้อมูลจากทางนิติของหมู่บ้าน ระบุว่า ตำรวจได้เก็บพยานหลักฐานตัวเมมโมรี่ที่บันทึกรถวันที่ก่อเหตุไปหมดแล้ว




ทีมข่าวได้สอบถาม นางสาววัลย์ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ เข้าเวรในวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า วันนั้นตนเองเข้าเวรอยู่เห็นรถคันที่ก่อเหตุซึ่งตนเองมอง มองเห็นหน้าคนขับไม่ชัด เพราะติดฟิล์มดำแต่ระหว่างที่ผ่านป้อมยาม รถคันดังกล่าวได้ขับเข้ามาอยู่ในระยะที่คีย์การ์ดสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเปิดกระจก ก่อนคนขับรถคันที่ก่อเหตุจะยกคีย์การ์ดจากด้านในรถเพื่อให้ไม้กั้นเปิด ก่อนจะขับเข้าไปด้านในของหมู่บ้าน หลังจากนั้นรถคันเดิมก็ขับออกมาแต่ก็ไม่ได้เปิดกระจกในการใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อออกจากหมู่บ้าน เช่นเดียวกับขาเข้า


นางสาววัลย์ ยังระบุด้วยว่า คีย์การ์ดแต่ละใบจะมีเลขรหัสของลูกบ้านแต่ละบ้านบันทึกอยู่ แต่ลูกบ้านก็สามารถที่จะให้ใครนำมาใช้วนได้ เพราะไม่ได้ล็อกทะเบียนรถและบุคคลที่จะใช้คีย์การ์ด ซึ่งเมื่อรถที่ผ่านเข้า-ออก หากมีฟิล์มหนามากหรืออยู่ในระยะที่ห่างออกจากตัวระบบ ก็ต้องเปิดกระจกเพื่อที่จะใช้คีย์การ์ดในการแตะผ่านเข้า-ออก แต่หากถ้ารถที่มีฟิล์มไม่หนาและอยู่ในระยะห่างไม่เกิน 1 ฟุต ก็ไม่จำเป็นที่ต้องเปิดกระจกในการใช้คีย์การ์ดแตะผ่านเข้า-ออกแต่อย่างใด


เรวัช ชี้คีย์การ์ด คือหลักฐานเด็ดมัด น้องพร


พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านช่องยูทูบ โจ เรวัช กลิ่นเกษร โดย พล.ต.ท.เรวัช พูดถึงคดีอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน และฝากถึงน้องพร ภรรยาผู้ตาย เกี่ยวกับประเด็นเรื่องคีย์การ์ด ว่า ถ้าดูคลิปนี้อยู่อยากให้หนูรับความจริงเหอะ รับสารภาพก่อนตอนนี้ เดี๋ยวมันจะต้องจนมุมต่อหลักฐาน แล้วเบื้องต้นแค่ข่าวออกมาวันแรก หนูบอกไม่ได้มีคนอื่น พอข่าวเจอศพปุ๊บหนูมีคนอื่นมา 1 คน พอข่าวออกอีกวัน กลายเป็นว่าหนูมีสามี 3 คนแล้ว ถ้าเกิดไปมากกว่านี้ มันจะฉิบหายไปมากกว่านี้




แล้วที่มันแสบไปกว่านั้น ถ้าหนูไม่ได้รักทั้งไอ้ใหม่ ไอ้กิต สิ่งที่หนูทำแบบนี้คือหนูต้องการไปอยู่กับอีกคนหนึ่งหรือเปล่า (ชายสนิทคนที่ 3 ของน้องพร) เพราะไอ้กิต ทรงขี้ยา อารมณ์วูบวาบ อาจไปเจอกันแล้วปฏิเสธอะไรไม่ได้ กลายเป็นว่า พอไม่ได้รักพี่ใหม่ กิตก็มาติดพัน ก็เลยบอกให้กิตไปทำอะไรหรือเปล่า เสร็จแล้วพอตัวใหม่ตาย กิตก็ต้องติดคุก พอกิตติดคุกตัวของน้องก็จะได้เงินประกัน 6 แสน แล้วก็ไปอยู่กับคนที่สาม


ส่วนประเด็นเรื่องคีย์การ์ด พล.ต.ท.เรวัช ระบุว่า หากทำคดีเองจะออกหมายจับ “น้องพร” ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะวางแผนเอาคีย์การ์ดให้ไอ้กิต


"ดูจากพยานหลักฐานว่า ทำไมมันจะต้องมัดมือมัดขาด้วย ไอ้ฆาตกรมันต้องไปบังคับคนตายว่า มึงต้องไปหย่า มันก็ไม่อยากฆ่าหรอกครับ แต่เอาไปขู่ เอาไปกระทืบว่ามึงต้องไปหย่านะ แต่ถ้ามันจะฆ่า มันได้ตัวไปเข้าไปที่อู่มันแล้ว แล้วมันก็ยิงกบาลก็ตายแล้วครับ แต่นี่มันเอาไปมัดมือมัดเท้า ทั้ง ๆ ไม่ได้เกี่ยวเรื่องยาเสพติดเรื่องอะไร"


ย้อนจุดช่างกิตแวะซื้อบุหรี่หลังก่อเหตุ


ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ย้อนกลับไปยังจุดที่มีการจอดรถ เพื่อที่จะสลับตัวคนนั่งในตำแหน่งในรถ จากที่นายกานต์นั่งข้างคนขับคือช่างกิต โดยเจ้าตัวได้สลับตำแหน่งที่นั่งไปนั่งบริเวณด้านหลังคนขับเพื่อคุมเชิงแทน และให้นางสาวนิว ที่อยู่ในตำแหน่งด้านหลังคนขับ ย้ายไปนั่งด้านข้างคนขับ




โดยทีมข่าวตรวจสอบกล้องกล้องวงจรปิดก่อนถึงร้านสะดวกซื้อ พบว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดเวลา 22.16 น. จับภาพรถเก๋งสีแดงขับผ่านกล้องวงจรปิดร้านค้า และมุ่งหน้าไปที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อไปจอดแวะซื้อบุหรี่ และได้มีการสับเปลี่ยนตำแหน่งคนในรถ


ซึ่งทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดจากตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 โดยปรากฏภาพของช่างกิต ใส่เสื้อสีขาว เข้าไปซื้อบุหรี่ ภายในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเจ้าตัวยืนต่อคิวเพื่อรอชำระเงิน และนอกจากนี้ ยังได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหว โดยจะเห็นช่างกิตเดินไปที่รถเก๋งสีแดงที่จอดอยู่ริมทาง ซึ่งไม่ได้เอารถมาจอดที่ลานจอดของร้านร้านสะดวกซื้อ เพราะเข้าใจว่าภายในรถอาจมีการมองเห็นหรือพฤติการณ์ของคนในรถ จึงมีการจอดอยู่ที่ริมถนน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเจ้าตัวเดินไปขึ้นรถ ทั้งที่ภายในรถนั้นมีคนตายนั่งอยู่ และกลุ่มพรรคพวกคุมเชิงเอาไว้

 

เรวัชสุดทน! น้องพรแถไม่หยุด แฉเกมปั่นหัวผู้ชาย รู้แล้วใครเป็นเบอร์ 1