ลุง 62 ตกหลุมเผาถ่าน ไม่มีใครเห็นถูกเผาจนเหลือแต่ช่วงบน เมียเผยหมาหอนเกรียวเหมือนเป็นลาง

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 เกิดเหตุมีคนตกลงไปในหลุมเผาถ่านจนเสียชีวิต เหตุเกิดอยู่บริเวณทุ่งนา ริมห้วยยางสะแบง ท้ายหมู่บ้าน บ้านเชียง ม.11 ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ตำรวจ สภ.หนองหาน พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.หนองหาน หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย ทต.บ้านเชียง และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาวีอาร์กู้ภัยหนองหาน รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ริมสันห้วยติดกับทุ่งนา ต่ำกว่าสันห้วยประมาณ 2 เมตร มีการขุดดินจนเป็นหลุมลึกประมาณ 50 ซม. กว้างประมาณ 2 เมตร ที่ก้นหลุมพบศพนายสงกรานต์ อายุ 62 ปี ถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ช่วงหน้าอกจนถึงศีรษะ ช่วงล่างถูกไฟไหม้เกรียมเป็นตอตะโก มีเศษถ่านและขี้เถ้าอยู่รอบบริเวณ ใกล้กันบนสันห้วยพบกองถ่านไม้ ท่อนไม้ กระสอบปุ๋ยใส่แกลบ และรถเข็นใส่แกลบ

ช่วงแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าไปถึง ต้องช่วยกันตักน้ำจากลำห้วยขึ้นมาช่วยกันดับใฟในหลุมเผาถ่าน เนื่องจากยังคงมีความร้อนระอุ ไม่สามารถเข้าไปถึงศพผู้เสียชีวิต ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้านที่ทราบข่าว และนางนุชนภา อายุ 58 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ถึงกับร้องไห้เสียใจเป็นลมล้มพับทันทีที่เห็นศพสามีตนเอง

เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายออกมาเก็บถ่านและเผาถ่านเพิ่มเติม อาจจะเกิดอาการหน้ามืดเป็นลม หรืออาจจะเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มจนกลิ้งตกลงไปในหลุมเผาถ่านของตัวเอง ขณะเกิดเหตุผู้ตายทำงานอยู่ตามลำพัง เมื่อตกลงไปแล้วถูกไฟคลอกจึงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และไม่มีคนอื่นอยู่ใกล้จนมาช่วยเหลือได้ทัน ทำให้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต เมื่อมีคนมาพบร่างก็ถูกไฟคลอกจนเหลือแต่ช่วงบน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงรองเท้าแตะของผู้ตายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ข้าง มีร่องรอยถูกความร้อนเผาจนบิดเบี้ยว ญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

สอบถามนายกิตติศักดิ์ อายุ 49 ปี เจ้าของที่นา ที่เกิดเหตุ เล่าว่า คนตายมาขอเผาถ่านในที่นาตน ตนก็เห็นว่าเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน สนิทกันเหมือนญาติ ก็ให้ทำไปไม่ได้ว่าอะไร ปกติคนตายมีอาชีพทำนา และรับจ้างทั่วไป หลังหน้านาก็จะมาเผาถ่านเอาไว้ใช้ในครัวเรือน คนตายเผาถ่านที่นี่มาประมาณ 3 – 4 ปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุเพื่อนบ้านอีกคนกำลังเผาถ่านอยู่อีกจุดหนึ่งในที่นาของเขาเอง เขาสังเกตเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์จอดอยู่หัวสะพาน จุดก่อนที่จะเข้าไปที่หลุมเผาถ่านของคนตายจอดอยู่นานแล้วตั้งแต่เช้า เมื่อผิดสังเกตก็บอกรุ่นน้องให้เดินมาดู จนมาพบร่างของคนตายถูกเผาจนเกือบหมดแล้ว ต่อไปจะไม่ให้ใครมาเผาถ่านในที่ตนอีกแล้ว เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบนี้อีก

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าเทพประทานพร บ.เชียง ต.บ้านเชียง สถานที่ตั้งศพนายสงกรานต์ จันดาดาล ผู้เสียชีวิต นางนุชนภา ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้จุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณและเคาะโลงศพ “ขอให้ไปดี ไปสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงเมียและลูก ตอนนี้อยู่คนละภพแล้ว ขอให้ไปดี ไปสู่สุขคติ” โดยมีนางดารุณี อายุ 59 ปี ผญบ.เชียง ม.11 พร้อมด้วยญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต เพื่อนบ้าน มาช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อประกอบพิธีสวดอภิธรรมในช่วงเย็น โดยจะสวดเพียง 1 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้

นางนุชนภา ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า แต่งงานกันมานานกว่า 20 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน สามีเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแรง ทำนา รับจ้าง หาเลี้ยงครอบครัวไม่ขาดตกบกพร่อง ว่างจากหน้านาก็ชอบมาเผาถ่าน สามีทำมานานหลายปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุไม่มีสัญญาณร้ายเลย สามีออกมาเก็บถ่านตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง จนกระทั่งประมาณ 11.00 น. มีเพื่อนบ้านมาบอกข่าวร้าย ตอนแรกยังไม่เชื่อก็รีบออกมาดูทันที เมื่อเห็นศพสามีก็ได้แต่ร้องไห้เสียใจ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คิดตกใจอยู่ว่าช่วงประมาณ 9.30 – 10.00 น. หมาแถวบ้านหอนรับกันอยู่นาน คิดว่าอาจจะเป็นวิญญาณสามีมาบอกก็เป็นได้ ส่วนสาเหตุการตายตนไม่ติดใจ อาจจะเป็นอุบัติเหตุสามีลื่นล้มจนตกหลุมเผาถ่าน เพราะที่ผ่านมาสามีแข็งแรงดี ป่วยน้อยมาก แต่ก็ไม่เคยไปตรวจร่างกายสักครั้ง

นางดารุณี ผญบ.บ้านเชียง เล่าว่า หลังรับแจ้งก็ออกไปที่เกิดเหตุทันที ถือว่าเป็นเรื่องน่าตกใจที่เกิดความสูญเสีย ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้เลย ผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ขยันขันแข็ง แต่มักจะชอบทำงานคนเดียว ไม่ชอบพูดคุยกับใคร เพราะคนตายพิการหูหนวก มีอาการได้ประมาณ 3 ปี เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์อย่างดี ต่อไปจะกำชับลูกบ้านให้ระมัดระวังในการออกมาเผาถ่าน ต้องมีคนอยู่ด้วยอย่าง 2 คน เพราะหากเกิดอะไรขึ้น จะได้มีคนเห็นและสามารถช่วยเหลือกันได้