คืบหน้ากรณีพบศพ นายธนาสันต์ หรือ ใหม่ อายุ 33 ปี ถูกมัดมือ มัดเท้าโยนทิ้งข้างทางเลียบมอเตอร์เวย์ หลังจากที่เจ้าตัวขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน แล้วมีรถเก๋งสีแดงต้องสงสัยขับตามหลัง จนกระทั่งนำไปสู่การจับกุม ช่างกิต ซึ่งเป็นคนสนิทของภรรยาคนตาย ที่มีความเชื่อมโยงว่าค่อนข้างใกล้ชิด โดยถูกควบคุมตัวได้เมื่อคืนนี้ นั้น

รวบช่างกิต บางบ่อ อุ้มฆ่าหนุ่มโรงงานทิ้งมอเตอร์เวย์

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 2 ก.พ. 2567 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รองผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา สั่งการชุดสืบสวนภาค 2 ชุดสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และชุดสืบสวน สภ.บางปะกง เข้าจับกุม นายกิตติโชติ หรือ ช่างกิต บางบ่อ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เลขที่ จ.39/2567 ผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตายมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและความจำเป็นเร่งด่วน และโดยไม่มีใบอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุม

โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ก่อนถึงสนามกอล์ฟ ม.2 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตรวจยึดรถเก๋งสีแดง ที่ลานจอดรถในพื้นที่บางเสาธง ซึ่งเป็นรถที่ก่อเหตุ โดยนายกิตติโชติ เป็น 1 ในกลุ่มที่ก่อเหตุอุ้มฆ่า นายธนาสันต์ แล้วนำศพมาทิ้งไว้ข้างทางบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ซึ่งวันที่พบศพวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา นายกิตติโชติ ได้ขับรถมากับ น.ส.วรรณพร ภรรยาของผู้ตาย ก่อนจะมายืนดูตอนเก็บร่างผู้ตาย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลและจับเพื่อนร่วมก่อเหตุอีก 5 คน พร้อมทั้งประสานนักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู ลงงมหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ บริเวณคลองส่งน้ำ ม.2 ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งได้ลงหาตั้งแต่เวลา 04.00 น. แต่ยังไม่พบของกลาง



โดยช่างกิต ได้ให้การรับสารภาพซัดทอดว่าได้ร่วมกันกับพวก ก่อเหตุในครั้งนี้จริง ซึ่งต่อมาจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มคนร้ายได้รับแรงกดดัน จนกระทั่งในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ นายนันทพัทธ์ หรือโอ๊ต นายปานเทพ หรือแท็ป นายสุขสงกรานต์ หรือกานต์ และ น.ส.อภิสรา หรือนิว ติดต่อเข้ามอบตัว ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ทั้งนี้ย้อนไปดูคลิปวงจรปิดที่ทีมข่าวได้มาเมื่อวาน (1 ก.พ.) โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไทม์ไลน์ในวันเกิดเหตุที่ก่อนจะพบเป็นศพ พบว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน จับภาพวันที่ 27 ม.ค. เวลาประมาณ 21.45น. จับภาพรถเก๋งสีแดง ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน ขับเข้ามาภายในหมู่บ้านและมุ่งหน้าไปบ้านของคนตาย โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด 2 ตัว จับภาพรถต้องสงสัยเอาไว้ได้

และเวลาต่อมากล้องวงจรปิดตัวดังกล่าว จับภาพในคืนวันเดียวกันวันที่ 27 ม.ค. เวลาประมาณ 22.06 น. เห็นรถมอเตอร์ไซค์ของนายธนสันต์ คนตาย ขับผ่านกล้องตัวดังกล่าวออกมาจากหมู่บ้าน แล้วยังพบว่ามีรถเก๋งสีแดงต้องสงสัยขับตามหลัง ทิ้งห่างไม่ถึง 2 เมตร โดยสังเกตว่าบริเวณจุดดังกล่าวจะมีลักษณะคล้ายลูกระนาด แต่รถเก๋งคันดังกล่าวขับประกบไม่มีการชะลอ ขับปีนลูกระนาดเพื่อประกบตามหลังออกไป

จากนั้นยังมีกล้องวงจรปิดอีกชุด บริเวณด้านหน้าเทคโนโลยีสุวรรณภูมิบนถนน 3034 ในพื้นที่บางพลีใหญ่ จับภาพรถมอเตอร์ไซค์ของคนตายขับนำ และตามหลังด้วยรถเก๋งสีแดงยังขับตามหลังมาติด ๆ แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงอีกจุดหนึ่ง ซึ่งยังอยู่บนถนนเดียวกันหมายเลข 3034 ในพื้นที่บางพลีใหญ่ ซึ่งจุดบริเวณบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับบริษัทเอกชนซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถ ห่างจากหมู่บ้านของคนตายประมาณ 1.6 กม. ซึ่งมีป่ารกข้างทางติดกับหนองน้ำ จับภาพรถมอเตอร์ไซต์ของคนตายถูกรถเก๋งสีแดงขับตีคู่ เพื่อประกบและให้จอดจอดบริเวณจุดดังกล่าว

ก่อนที่ภาพวงจรปิดจะสังเกตเห็นลักษณะเงาคนเปิดประตูลงมาจากด้านหลังคนขับ 1 คน และเงาของคนที่ลงจากรถด้านข้างคนขับอีก 1 คน แล้วจะสังเกตว่ามีการบังคับให้คนตายขึ้นไปนั่งบริเวณด้านหลัง ฝั่งของผู้โดยสาร และคนที่ลงจากรถ 1 คน ไปขึ้นรถมอเตอร์ไซต์ของคนตายและขี่ตามออกไป โดยกล้องดังกล่าวเป็นวินาทีที่มีการสลับคนขับและบังคับให้คนตายขึ้นไปนั่งอยู่บนรถเก๋งสีแดง ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดวงจร 2 มุม จับภาพเอาไว้ได้

ขณะเดียวกันยังมีกล้องวงจรปิดอีกจุด ไม่ไกลจากจุดที่มีการทิ้งหลักฐานและอุ้มขึ้นรถ จับภาพ รถมอเตอร์ไซต์ของคนตาย ซึ่งมีคนก่อเหตุเป็นคนขับแทนในขณะนั้น ขับนำและจากนั้นมีรถเก๋งสีแดงขับตามหลัง ผ่านกล้องตัวดังกล่าว เวลาประมาณ 22.13 น. จากนั้นกล้องตัวเดียวกัน จับภาพรถมอเตอร์ไซต์ของคนตาย ซึ่งมีกลุ่มก่อเหตุเป็นคนขับแทนในขณะนั้น จับภาพเวลา 22.14 น. ของคืนวันเดียวกัน 27 ม.ค. เห็นรถมอเตอร์ไซค์ของคนตายขับย้อนมา เพื่อที่จะนำถุงสีขาวต้องสงสัยไปโยนทิ้งน้ำ ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ และหลังจากที่เห็นว่ารถมอไซค์ขี่ผ่านจะได้ยินเสียง พร้อมกับปฏิกิริยาของหมาที่อยู่ในกล้องมีลักษณะเห่าตามหลัง และเวลาต่อมาประมาณ 22.15 น. หลังจากที่ทิ้งเสร็จแล้วรถมอเตอร์ไซต์คันดังกล่าวก็รีบขี่ตาม รถเก๋งสีแดงออกไปเพื่อที่จะมุ่งหน้าไปที่จุดพบศพ

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ช่างกิตมีความสนิทสนมกับ น.ส.วรรณพร ภรรยาของผู้ตาย โดยรับสารภาพว่า เกิดการหึงหวง แค้น ริษยา สามีของ น.ส.วรรณพร จึงลงมือกระทำเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังดำเนินการสอบสวนขยายผลเพิ่มเพื่อดำเนินการตามจับกุม ผุ้ร่วมก่อเหตุที่เหลืออีก 5 ราย มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



นาทีบุกจับช่างโหด สังหารหนุ่มโรงงานมัดมือทิ้งมอเตอร์เวย์

วันนี้ (2 ก.พ. 2567) ข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังจุดจับกุมช่างกิต ซึ่งเป็นหนุ่มคนสนิทที่รู้จักค่อนข้างลึกซึ้งกับภรรยาของคนตาย โดยเจ้าตัวถูกจับกุมได้ภายในพื้นที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใกล้กับหน่วยบริการตำรวจทางหลวงบางพลี ก่อนถึงจุดไม่ไกล โดยจุดดังกล่าวนั้นทราบรายงานจากชุดสืบสวนว่า ช่างกิต ได้มีการขับรถออกจากบ้านในพื้นที่ ย่านบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเปลี่ยนใช้รถกระบะตู้ทึบ ขับออกจากบ้านและไปแวะเติมน้ำมัน ก่อนจอดนอนอยู่ภายในในปั๊มดังกล่าว เพื่อที่จะหลบหนีในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ถูกชุดสืบสวนเข้าแสดงตัวจับกุมก่อน เนื่องจากมีการออกหมายจับในคืนดังกล่าว

โดยทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังปั๊มน้ำมันดังกล่าว ซึ่งพบว่ารถกระบะตู้ทึบ ซึ่งเป็นรถที่ช่างกิตมีการขับมาจอดนอนในปั๊มน้ำมัน ก่อนถูกจับกุมยังคงจอดอยู่ที่ลานจอดของปั๊มน้ำมันดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีการตรวจยึดรถคันดังกล่าวไปตรวจสอบ มีเพียงแค่จับกุมเจ้าตัวไปเท่านั้น แต่โดยเบื้องต้นจากการสังเกตุภายใน มีกระเป๋าตังค์ วางอยู่บริเวณคอนโซลด้านหน้า และเอกสารวางอยู่ที่เบาะนั่ง 2 ฝั่งในรถยังมีพระเครื่องแขวนอยู่ที่กระจกรถตรงกลาง และยังมีลิ้นชักถูกเปิดลักษณะถูกรื้อค้นซึ่งเข้าใจว่าเป็นการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากนั้น ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องเมื่อวาน (1 ก.พ.) เวลาประมาณ 17.50 น. จะเห็นรถกระบะตู้ทึบของคนก่อเหตุ ขับเข้ามาเติมน้ำมันภายในปั๊มดังกล่าว และหลังจากที่คนก่อเหตุมีการเติมน้ำมันแล้ว ได้ขับไปจอดที่บริเวณลานจอดของปั๊มน้ำมัน ซึ่งจะมีลักษณะสตาร์ทเครื่องจอดนอนอยู่ภายในรถ หลังจากที่เติมน้ำมันเสร็จเวลาประมาณ 18.00 น.

จนกระทั่งภาพกล้องวงจรปิดจับภาพต่อเวลาประมาณ 22.47 น. จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ขับรถกะบะสีขาว ขับเข้ามาปิดท้ายด้านหลังของรถคนก่อเหตุที่จอดนอนอยู่ และวิ่งเข้าไปเพื่อแสดงตัวจับกุม และภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นมีชุดสืบสวนคนอื่นที่จอดนอนอยู่ในรถเพื่อสังเกตความเคลื่อนไหว ทยอยวิ่งลงจากรถและเข้าไปช่วยจับกุมตัว

ก่อนที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจะจับภาพ ว่าหลังจากมีการจับกุมตัวได้แล้ว มีการคุมตัวขึ้นรถชุดสืบสวนกลับออกจากปั๊มน้ำมันออกไป เพื่อที่จะนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บางปะกง



ด้านนายกระแต (นามสมมติ) พนักงานปั๊มน้ำมัน ในฐานะคนเติมน้ำมันให้กับผู้ต้องหา และเป็นคนเห็นเหตุการณ์วินาทีตำรวจชุดสืบสวนบุกสับ เผยว่า เหตุการณ์เหตุการณ์เมื่อวานนี้ ช่วงเย็นจำได้ว่ารถกระบะของผู้ต้องหาได้ขับรถเข้ามาจอดเติมน้ำมัน ตอนที่เติมน้ำมันนั้นตนเองก็ไม่สังเกตความผิดปกติ ไม่เจอปืนหรืออาวุธอะไร และไม่ทันได้สังเกตว่าคนดังกล่าวเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์อุ้มฆ่า เพราะเนื่องจากตนเองไม่ทราบมาก่อนว่าใครเกี่ยวข้องกับใครบ้าง แต่หลังจากที่เติมน้ำมันเสร็จแล้วก็ได้ขับไปจอดบริเวณลานจอดของปั๊ม ลักษณะสตาร์ทติดเครื่องนอนรอ ระหว่างนั้นก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจทำทีเข้ามาเติมน้ำมัน และไปจอดเทียบแล้วนอนเฝ้า ซึ่งตัวเองรู้ว่าเป็นตำรวจเพราะเนื่องจากลักษณะทรงดูชัดเจนและมีการพกเรื่องของบัตรแสดงตัวติดอยู่ในรถ

โดยช่วงเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง จนกระทั่งได้มีรถกระบะสีขาวซึ่งเป็นรถตำรวจอีกคันขับมาปิดด้านหลังรถกระบะของผู้ต้องหา ก่อนที่จะเข้าไปบุกชาร์จตัวแล้วมีการตรวจค้นรถ และตัวเองจึงจะรู้เวลาต่อมาว่าคนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีอุ้มฆ่าคน ซึ่งส่วนตัวก็ไม่คิดมาก่อนว่าคนดังกล่าวจะไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะดูไม่มีอะไรผิดปกติเลย เข้าใจว่าเป็นเพียงแค่พนักงานส่งของเอารถมาจอดนอนเท่านั้น

เผยไทม์ไลน์แก๊งช่างกิต พบอุ้มกลับเข้าอู่ก่อนสังหาร

วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นไทม์ไลน์ในช่วงระหว่างวันที่ 27-29 ม.ค. 2567 เป็นกล้องวงจรปิด บริเวณตรงข้ามบ้านของช่างกิต คนก่อเหตุ โดยจะสังเกตว่าเปิดเป็นอู่รถ ซึ่งจะมีรถจำนวนมากจอดอยู่

โดยทีมข่าวพบมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์วันที่ 27 ม.ค. เวลา 21.10-21.13 น. บริเวณตรงข้ามบ้านอู่ของนายกิต สามารถบันทึกภาพขณะกลุ่มผู้ต้องหา กำลังทยอยเดินขึ้นรถยนต์เก๋งของนายกิต เพื่อไปอุ้มผู้ตาย

วันที่ 28 ม.ค. เวลา 00.52 น. รถเก๋งสีแดงคันเดิมได้ขับมาจอดที่อู่ของช่างกิต จากนั้นช่างกิต ลงจากรถ ก่อนจะเปิดกระโปรงท้ายเพื่อเอาสิ่งของบางอย่าง ต่อมาช่างกิตตัดสินใจเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถหวังตบตาตำรวจ

ต่อมาเวลา 02.10 น. นายกานต์ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจอดที่ท้ายรถกระบะตู้ทึบของช่างกิต ซึ่งคาดว่า ขณะนั้นนายใหม่ที่ยังมีชีวิตแต่ถูกพันธนาการ อยู่ในรถกระบะตู้ทึบคันดังกล่าว จากนั้น นายกานต์ได้เดินเข้าบ้านของช่างกิตก่อนจะออกจากบ้าน และขี่รถมอเตอร์ไซด์กลับไปที่จอดรถ โดยเป็นกล้องที่ยืนยันว่าการเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย เพราะโผล่อยู่ในกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุ



จากนั้นเวลา 02.48 น. ช่างกิตขับรถกระบะตู้ทึบ โดยมีนายใหม่ ผู้เสียชีวิตอยู่ภายในโดยถูกพันธนาการอยู่ด้านหลังกระบะตู้ทึบ มุ่งหน้าไปวัดคันธาวาสเพื่อเตรียมสังหาร

ต่อมาช่วงเช้าเวลา 08.08 น. เก๋งสีแดงยังคงจอดอยู่ที่เดิม แต่ไม่เห็นรถกระบะตู้ทึบกลับเข้ามาในพื้นที่ และเวลา 09.02 น. กระบะตู้ทึบกับเข้ามาที่อู่ มีคนเดินลงรถฝั่งคนขับใส่เสื้อสีแดง

หลังจากนั้นช่วงค่ำ เวลา 22.09 น. ของวันเดียวกัน ช่างกิตจะขับรถกระบะตู้ทึบออกไป และเวลา 22.42 น. มีรถยนต์ปริศนา 2 คัน ได้แก่ รถสีชมพู และ รถสีขาว มาจอดหน้าร้าน พร้อมมีกลุ่มคนเดินลงเข้าไปในบ้านนายกิต กระทั่งวันที่ 29 ม.ค. 2567 เวลา 08.07 น. มีบุคคลรายหนึ่งได้ขับรถยนต์เก๋งสีแดงของช่างกิตออกไปด้านนอก มุ่งหน้าไปเส้นทางวัดบางบ่อ คาดว่าจะนำไปซ่อน

หลังจากทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด จุดที่มีการอุ้มคนตายขึ้นรถเก๋งสีแดงก่อนที่จะเห็นคนก่อเหตุลงจากรถแล้วมาสับเปลี่ยนตัวคน ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม วันที่ 27 ม.ค. เวลา 22.14 น. ซึ่งจะเห็นวินาทีที่รถมอเตอร์ไซค์ของคนตาย โดยคนขี่ซึ่งเป็นคนก่อเหตุขี่แทนในขณะนั้น ขี่ย้อนศรกลับเข้ามาเพื่อโยนวัตถุบางอย่างทิ้งลงไปในน้ำ โดยในภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นมีการถือถุงสีขาวอยู่ในมือ และมีการเขวี้ยงลงไปในน้ำก่อนที่จะขับรถออกไป



ทีมกู้ภัยงมหาปืน ค้นเจอรถมอเตอร์ไซค์ทีมอุ้มฆ่า

สำหรับความคืบหน้าที่ สภ.บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สามารถจับกุมนายกิต คนก่อเหตุเอาไว้ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีการคุมตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก ซึ่งทางนายกิตได้ให้การสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุ โดยมีผู้ร่วมด้วยอีก 4 คน คือ นายนันทพัทธ์ หรือ โอ๊ต, นายปานเทพ หรือ แท็ป, นายสุขสงกรานต์ หรือ กานต์ และนางสาวอภิสรา หรือ นิว โดยทั้ง 4 รายได้แอบเข้ามามอบตัวที่ สภ.บางประกง ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ก่อนที่ตำรวจจะคุมตัวนายโอ๊ต ซึ่งเป็นหลานชายของนายยกิต ไปชี้จุดที่ทิ้งรถรถจักรยานยนต์ของผู้ตายที่บริเวณ คลองส่งน้ำแห่งหนึ่งใน อำเภอบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนที่ชุดสืบสวนจะนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ในสภาพถูกชำแหละเป็นชิ้นทั้งคัน มาให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพื่อเก็บพยานหลักฐาน



ส่วนรถเก๋งสีแดง เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบรถเก๋งคันดังกล่าวที่ผู้ก่อเหตุนำไปจอดทิ้งไว้ที่ลาดจอดรถในพื้นที่บางเสาธง ซึ่งเป็นรถที่ช่างกิต ผู้ก่อเหตุนำศพของผู้ตายไปทิ้ง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บลายนิ้วมือรอบรถ ตรวจเขม่าดินปืนภายในรถ ว่ามีการใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตในรถหรือไม่ ภายในรถพบเสื่อ 1 ผืนวางไว้บนเบาะฝั่งผู้โดยสาร และเสื้อยืดสีดำ 2 ตัว เสื้อยืดสีเขียว 1 ตัว เสื้อยืดโปโลสีแดง 1 ตัว กางเกงสแลคสีดำ 1 ตัว เป้ผ้าสีดำ 1 ใบ ผ้าห่มลายสก็อต 1 ผืน เบาะหลังผู้โดยสารทั้ง 2 ข้าง ถูกพับปรับให้เป็นพื้นที่เก็บของ มีลังเครื่องมือช่างวางอยู่ในลังพบกาว 1 กระป๋อง นอกจากนี้ยังมีลังกระดาษแข็งวางทับกันอยู่ด้วย นอกจากนี้ตรวจสอบล้อแม็กของรถคันนึงกล่าว พบล้อหลังซ้ายจะเป็นแบบเดิมจากโรงงาน ส่วน 3 ล้อ ที่เหลือถูกเปลี่ยนเป็นล้อแม็กกระทะสีดำ บริเวณด้านหลังของรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

ภาพลับ! ไอ้กิตอุ้มผัวน้องพร สลับรถเอาร่างทิ้งหวังเผด็จศึกเมีย เจอจะจะทิ้งปืน