ก้าวไกล แถลงไร้เจตนาบ่อนทำลาย รอผลฉบับเต็ม ลั่นไม่ประมาท-ไม่กังวลยุบพรรค

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ว่า หลังจากมีคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ แม้ว่าศาลจะวินิจฉัย ว่า การกระทำพรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครอง แต่พรรคก้าวไกล ขอยืนยันอีกครั้งว่า เราไม่ได้มีเจตนาเพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลาย หรือแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากชาติแต่อย่างใด

นอกจากนี้พวกเรายังกังวลว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะส่งผลกระทบต่อการเมืองไทยในระยะยาว เช่น อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต อาจกระทบต่อความเข้าใจ และการให้ความหมายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากัษตริย์เป็นประมุข หลักการสำคัญของระบอบการเมืองไม่มีความชัดเจน สิ่งที่เคยกระทำได้ในอดีตทั้งในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือในสมัยระบอบประชาธิปไตย อาจกลายเป็นการล้มล้างการปกครองได้ในปัจจุบันและอนาคต

นายชัยธวัชกล่าวว่า อีกทั้งอาจจะกระทบเรื่องสำคัญอีก เช่น การตีความว่า อะไรคือการล้มล้างการปกครอง อาจจะเกิดปัญหาที่พวกเราเข้าใจหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนแน่นอนไม่ตรงกัน มีความคลุมเครือทั้งในแง่การตีความข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเจตนา รวมไปถึงอาจจะก่อให้เกิดปัญหาดุลยภาพระหว่างประชาธิปไตยกับสถาบันพระมหากษัตรย์ในระบบการเมืองไทยในอนาคต อาจจะทำให้สังคมไทยสูญเสียโอกาสในการใช้ระบบรัฐสภาในระบบประชาธิปไตย ในการหาข้อยุติ ความขัดย้ง หรือความคิดเห็นที่แตกต่างกันในสังคมในอนาคต

สุดท้ายคำวินิจฉัยในวันนี้ อาจส่งผลกระทบให้ประเด็นเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ กลายเป็นปมปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทยมากยิ่งขึ้น

พรรคขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้พวกเราตลอด แต่อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัย จะไม่ได้กระทบต่อพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่จะกระทบต่อความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ และสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคน ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงเป็นเรื่องของพวกเราทุกคน ไม่ใช่ของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องของอนาคตของระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

นายชัยธวัชกล่าวว่า ตอนนี้ขั้นตอนต่อไปเราคงต้องรอเอกสารคำวินิฉัยสมบูรณ์ตัวเต็ม เพื่อเตรียมรับมือในทางกฎหมายที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นที่สุดแล้ว โต้แย้งไม่ได้ ต้องเตรียมรับมือทุกสถานการณ์ ไม่ได้กังวล แต่ไม่ได้ประมาท

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำวินิจฉัยของศาลที่แบ่ง 3 ข้อ ถึงพฤติกรรมของพรรค เช่น ลงเสนอชื่อแก้ไข ไปประกันตัวด้วย นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหา เพราะทำให้เกิดความไม่ชัดเจนแน่นอน ทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย รวมถึงเจตนาด้วย ซึ่งส่งผลกระทบในหลักเกณฑ์ตีความ ความไม่ชัดเจน แน่นอนในการใช้กฎหมาย