พ่อ-แม่ น้องชมพู่ ไหว้อัฐิลูกสาว พร้อมเคารพคำตัดสิน - ลั่น ไม่ได้เจาะจงว่าใครเป็นคนผิด เชื่อตามหลักฐาน

 

นายอนามัย วงศ์ศรีชา และ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อ แม่น้องชมพู่ ได้นำ นม ขนม ที่ลูกสาวชอบ มาไหว้ลูกสาว พร้อมกับ จุดธูป บอกกับลูกสาว หลังจากวันพรุ่งนี้ ศาลจังหวัดมุกดาหารจะอ่านคำพิพากษาแล้ว หลังจากถูกเลื่อนมา 1 ครั้ง

 

แม่น้องชมพู่บอกกับน้องชมพู่ว่า “ ศาลตัดสินแล้วนะ พรุ่งนี้จะได้รู้กันนะลูก ทุกคนจะได้เห็นความเป็นจริง และลูกก็ได้เห็นความจริงเหมือนกัน ถ้าหากว่าศาลตัดสินออกมาเห็นความจริงแล้วก็ขอให้ลูกไปสบายไปมีความสุขนะลูก“

 

ส่วนพ่อน้องชมพู่ได้อธิษฐานบอกกับลูกว่า “ชมพู่เอ๋ยพรุ่งนี้พ่อไปศาลนะลูก ใครทำกับลูกสาวก็ขอให้รับกรรมนะ ขอให้ความจริงปรากฏ ขอให้ลูกไปสวรรค์นะ“

 

หลังจากนั้น นางสาวิตรี ได้เปิดเผยกับทีมข่าวของเราว่า วันนี้มาบอกกล่าวลูกว่า พรุ่งนี้ศาลตัดสินแล้ว ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นยังไง ก็ให้ยอมรับในความจริงและความชัดเจนตรงนั้น ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเลย เพราะได้เคารพคำตัดสินของศาลทุกอย่าง เราไม่ได้เจาะจงจะชี้ให้คนใดคนหนึ่งเป็นคนร้าย เราเชื่อตามหลักฐาน เชื่อที่ตำรวจทำงาน ถ้าหากพรุ่งนี้ศาลยกฟ้องก็มีขั้นตอนต่อไปที่จะดำเนินการ ก็ว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมายเลย แต่ถ้าหากว่าศาลสั่งตัดสินให้อีกฝ่ายจำคุก และต้องมีขั้นตอนการประกันตัว ก็จะต้องปรึกษากับทนายความว่า จะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่

 

“แม่ไม่ได้มีความรู้สึกส่วนตัวที่จะต้อง เจาะจงให้เขาเป็นคนร้าย แม่เชื่อตามสิ่งที่ตำรวจไปสืบเสาะมา ส่วนเขาจะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตัวเองยังไง มันก็เป็นสิทธิ์ที่พึงกระทำอยู่แล้ว คดีนี้ไม่ใช่คดีที่แม่สู้กับจำเลย แต่เป็นคดีที่อัยการเป็นคนฟ้อง แม่เป็นผู้สูญเสียลูก“

ป้าแต๋น จับกุ้งฝอย ทำอาหารกินก่อนไปฟังคำตัดสินศาล

 

ด้านนางสาวสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น หลังตื่นเช้าขึ้นมาวันนี้ ซึ่งกลับมานอนที่บ้านกกกอกในรอบหลายเดือน ก็ได้ออกเดินทางไปที่ลำห้วยแถวบ้านเพื่อไปจับกุ้งฝอยมาทำอาหารกิน โดยนำกุ้งฝอยที่จับมาได้มาโชว์ให้กับทีมขาวของเราดูว่านี่คือความอุดมสมบูรณ์ของบ้านกกกอก และเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของป้าแต๋นตั้งแต่สมัยเด็ก

 

ซึ่งป้าแต๋น บอกว่า วันนี้มานอนที่บ้านกกกอก ก็เลยอยากไปแก่งกอก นึกถึงเพราะว่าเป็นสถานที่ที่สวยงาม บรรยากาศดีสดชื่น เนื่องจากว่าตนอยู่ที่วังปู่ปาริจิต ไม่ได้มีธรรมชาติแบบนี้ เพราะว่าที่นู่นเป็นชุมชน อากาศจะร้อนมากกว่า และเช้านี้ ก็ได้เอาสวิงไปช้อนกุ้งฝอยมา ถือเป็นวิถีชุมชนของตนในสมัยก่อน ตนรู้สึกว่าชอบอาศัยอยู่บ้านกกกอกมากกว่า

 

ส่วนครอบครัว โดยเฉพาะ พ่อกับแม่อยู่ที่นี่แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปคุยอะไรมากมายเพราะกลัวว่าจะมีปัญหากัน และเรามีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ส่วนอีกฝ่ายก็มีความสุขดีแล้ว จึงไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจ ที่ผ่านมาพยายามพูด กับคนในครอบครัว มาตลอด ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็อยู่ที่ครอบครัวว่าจะทำความเข้าใจและกล้าออกมาพูดกันไหม ถ้าไม่กล้าก็ให้เขาอยู่ตรงนั้น ลุงกับป้าก็อยู่กับครอบครัวสบายดี

 

ส่วนวันพรุ่งนี้ก็อยากให้สังคมได้รู้อย่างชัดเจนว่า ผลออกมาเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจะไม่เคลียร์กับทุกคน แต่เชื่อว่าคำตัดสินของศาลในวันพรุ่งนี้จะกระจ่างมากขึ้น และเราพร้อมยอมรับในคำตัดสินนั้น เชื่อว่าความยุติธรรมยังมีอยู่ในประเทศไทย

 

ส่วนช่วงบ่ายที่ผ่านมานายไชย์พล วิภา และนางสาวสมพร หลาบโพธิ์ ลุง-ป้าของน้องชมพู่ เดินทางออกจากบ้านที่กกกอก เพื่อไปรอรับทนายความที่สนามบินจังหวัดนครพนมในช่วงค่ำวันนี้ และจะเข้าไปนอนที่โรงแรมในเมืองจังหวัดมุกดาหาร โดยก่อนเดินทางลุงพลและป้าแต๋น ได้แวะเข้าไปที่วัดกกกอก นำพวงมาลัยดอกดาวเรืองคนละพวง และจุดธูป ไหว้ขอพร “พระพุทธชินราช” ที่แม่นกน้อยเคยอัญเชิญองค์พ่อใหญ่มาไว้ที่บ้านกกกอก ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและคนไทยให้ความเคารพ

 

โดยลุงพลและป้าแต๋น ได้อธิษฐานในใจ ก่อนเปิดเผยหลังจากขอพรเสร็จว่า ไม่ได้ขออะไรเป็นพิเศษหรือไม่ได้มีมนต์ดำอะไร วันนี้เป็นการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนให้ความเคารพนับถือ และขอให้คดีที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเป็นไปด้วยดี พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีความกังวลหรือเครียดอะไรสำหรับวันพรุ่งนี้ 20 ธันวาคมที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาชั้นต้น

 

ส่วนเรื่องของคดียังคงยืนยันเหมือนทุกครั้ง ว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง และในกระบวนการเราได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจไปแล้ว โดยหากพูดย้อนไปในช่วงวันและห้วงเวลาที่น้องชมพู่หาย ทุกคนไม่มีใครรู้ว่าน้องหายในช่วงเวลาไหนแน่ๆ แต่ตนเชื่อว่าคนที่ตอบได้ คือ พี่สาวของน้องชมพู่ เพราะอยู่กับน้องชมพู่เป็นคนสุดท้าย ส่วนตัวตอนนั้นหากเป็นช่วงก่อนเวลา 09.00 น. ตนก็ยังอยู่กับแม่น้องชมพู่ ก่อนจะกลับมาบ้าน เพื่อไปรับพระ

 

ด้านป้าแต๋น บอกว่า วันนี้มาไหว้พระเพื่อขอให้ท่านคุ้มครองและให้แคล้วคลาดปลอดภัยกับทุกเรื่อง ซึ่งเราเชื่อว่าความดีจะคุ้มครองตัวเราเอง ส่วนช่วงวันที่ศาลมีคำสั่งเลื่อนอ่านคำพิพากษาวันที่ 31 ตุลาคมนั้น เราได้เดินสายทำบุญกฐิน 9 วัด และทำกิจกรรมดีๆ มากมาย รวมถึงการบวงสรวง เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยในการขึ้นศาลพรุ่งนี้

 

หมอปลาลั่น ลุงพลยังคงแถเหมือนเดิม เชื่อคืนนี้เครียดจนนอนไม่หลับแน่

ทีมข่าวสอบถามนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา บอกว่า วันนี้ถือว่าเป็นรอบปี ที่มีโอกาสได้คุยกับบักพล หรือ ลุงพล แต่เขาก็เหมือนเดิม ลุงพลก็ยังคงแถเหมือนเดิมตามสโลแกน ความจริงไม่ต้องพูดเหมือนกันทุกครั้ง เพราะความจริงไม่ใช่บทสวดมนต์ ที่ต้องสวดให้เหมือนกัน

 

ซึ่งสิ่งที่ลุงพลบอกว่า ยังคิดถึงหมอปลาอยู่ ผมเองก็ไม่รู้ว่า ลุงพลกัดฟัน กัดลิ้นตัวเองพูดออกมาหรือเปล่า ก็ยังเป็นห่วงว่าเลือดมันจะออกทางลิ้นและปาก ก็เป็นห่วง หลังจากพูดเสร็จก็ขอให้ลุงพลไปหาหมอด้วย

 

ถ้าถามว่าอยากจะฝากอะไรถึงลุงพล หมอปลาบอกว่า พรุ่งนี้ตอนเข้าหลังจากลุงพลอาบน้ำเสร็จ ขอให้ไปกินอาหารที่ลุงพลคิดว่าอร่อยที่สุดให้อิ่ม และอยากฝากถึงเอฟซีลุงพลว่า เย็นวันนี้อย่าซื้อกาแฟให้ลุงพล เพราะตนเชื่อว่า ลุงพล น่าจะนอนไม่หลับ เดี๋ยวจะไปโทษกาแฟ เพราะที่แน่ ๆ วันนี้ลุงพลนอนไม่หลับอยู่แล้ว

 

โดยตนไม่มีอะไรจะฝากถึงลุงพลแล้ว เพราะมันเคยพูดกันไปหมดแล้ว แต่ก็พูดไม่รู้เรื่อง พูดไปเขาก็ไม่เชื่อ เช่นก่อนหน้านี้ บอกไปว่า ลุงพล อย่าเปิดรับบริจาค แต่ลุงพลก็เอารูปตนและครอบครัวไปเปิดรับบริจาค เมื่อตนรู้ก็โกรธ ก็เลยปิด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็บอกกับลุงพลตลอดว่า ลุงพลต้องเป็นลุงพล เพราะตอนแรกไม่มีใครเอาลุงพลเลย แต่วันนี้สิ่งที่ทุกคนเห็น มันเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปจนไม่ใช่ลุงพลคนนั้น คนที่พูดครับ แล้วพยักหน้า คนนั้นไม่อยู่แล้ว

 

สุดท้าย ก็อยากจะบอกกับลุงพลว่า ถ้านอนไม่หลับ ก็พยายามหลับตาให้เก่ง อย่างที่เราพูดว่า “ไม่เครียด” แต่ตนไม่เชื่อว่าลุงพลไม่เครียด เพราะวันนี้ขนาดโฟนอินก็เห็นว่า ลุงพลสั่นไปทั้งตัว

 

ปลาฟาดเดือดลุงพล! อย่ากัดลิ้นพูด เตือนกาแฟทำฤกษ์ซวย เจ้าตัวไหว้พระรับบุญ