ผ่าแผน “เสี่ยแป้ง” หนีออกรพ. ซ่อนตัวเขาบรรทัด  พบจุดซ่อนตัวล่าสุดบนเขาฝั่งพัทลุง  โดยอำพรางตัวอยู่บนหน้าผา ซึ่งจุดดังกล่าวสามารถมองเห็นทัศนียภาพด้านล่างได้ 180 องศา  เอื้ออำนวยต่อการหลบซ่อนตัวและหนีเจ้าหน้าที่

 

วันนี้ทีมข่าวได้ข้อมูลจากชุดปฎิบัติการไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” บนเทือกเขาบรรทัด  โดยมีการเปิดเผยแผนของ“เสี่ยแป้ง”ที่ได้วางแผนไว้ก่อนที่จะสั่งลูกน้องให้พาตัวเองหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วมาส่งที่เทือกเขาบรรทัด

 

ช่วงวันที่ 22 ตุลาคม

-00.06 น. “เสี่ยแป้ง” หลบหนีออกจากโรงพยาบาล  โดยมีลูกน้องคนสนิทขับรถมารับตัวที่โรงพยาบาลก่อนที่จะขับรถออกและมุ่งหน้ามาสู่บริเวณเทือกเขาบรรทัด

-02.00 น. รถกระบะสีขาวของนายปอยได้ขับมาส่งเสี่ยแป้งบริเวณบ้านในตระ  อ.ปะเหลียน จ.ตรัง บนเทือกเขาบรรทัด เขตรอยต่อ จ.พัทลุง ตรัง และสตูล จากการสืบสวนพบนายปอยส่ง “เสี่ยแป้ง” ที่บ้านตาเชียน จากนั้นตาเชียนก็พาแป้งไปส่งที่บ้านนายพริก

 

เมื่อไปถึงที่บ้านของนายพริกก็พบว่ามีบังเขียวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย ก่อนที่บังเขียวจะพาแป้งไปนอนที่เพิงพักชั่วคราว ที่บ้านในตระ บนเทือกเขาบรรทัด 

 

โดยบังเขียวกับแป้งอยู่สองคนที่เพิงพักชั่วคราว  ซึ่งมีพรานป่าในพื้นที่คนหนึ่ง (พรานนก) ส่งเสบียงให้ตลอด ระหว่างนั้นแป้งมีอาการบาดเจ็บที่มือต้องลงเขาไปหาหมอ  มีการวางแผนหลงเขาฝั่งพัทลุงแล้วลงเรือเพื่อขึ้นอีกฝั่งไปหาหมอ

 

ช่วง 12.00 น. ของวันที่ 8 พ.ย. ปรากฏว่าไม่ทันที่เสี่ยแป้งจะลงเขาเพื่อลงเรือหาหมอ  ตำรวจพบร่องรอยก่อนจนมีการปะทะกัน แป้งพยายามหลบหนีการจับกุมตำรวจ โดยวิ่งไปบริเวณผาด้านหลังเพิง  แล้วปีนหนีตายจากด้านล่างขึ้นข้างบน  ด้วยมือเปล่าและเท้าเปล่า  จนเป็นรอยเท้าเสี่ยแป้งเป็นเส้นทางปีนผาขึ้นด้านบนแล้วหนีไป

 

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปพร้อมกับชาวบ้าน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมขนำและคุมตัวนายโล้นไปสอบปากคำ เนื่องจาก มี ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เคยเห็นนายนก หรือ พรานนก อยู่กับนายโล้น ช่วงที่เสี่ยแป้งหลบหนีมายังหมู่บ้านตระ

 

ต่อมาทีมข่าวจึงได้ข้อมูลจากตำรวจว่า นายนก หรือ พรานนก ที่ตำรวจถามถึง มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายพริก สมุนของเสี่ยแป้ง ซึ่งเสี่ยแป้ง เคยมานอนพักที่บ้านนายพริก 1 คืน ก่อนหลบหนีเข้าป่า

 

ต่อมาทีมข่าวจึงได้เดินทางไปบ้านของพรานนก ซึ่งมีข้อมูลว่า พรานป่าที่มีความชำนาญในการเดินป่า และมีวิชาอาคม มืออันดับต้นๆของหมู่บ้านตระ ซึ่งพรานนกได้หายตัวปริศนาไปพร้อมกับนายพริก ตำรวจคาดว่า พรานนกเป็นผู้พาเสี่ยแป้งหลบหนี

 

โดยทีมข่าวเดินทางไปพร้อมกับชาวบ้าน พบว่า บ้านของพรานนก อยู่ห่างจากบ้านของนายพริก ประมาณ 200 เมตร จะต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางจากสหกรณ์หมู่บ้านตระประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

 

ต่อมาทีมข่าวได้สำรวจภายในขนำของพรานนกพบว่า ขนำไม่มีใครอยู่แล้ว และจากการสำรวจทีมข่าว พบว่า มีขวดน้ำที่บรรจุน้ำกระท่อมจำนวนมาก ถูกวางเรียงอยู่ทางเข้าห้องนอน ส่วนภายในขนำ ผ้าห่มที่นอนถูกเก็บอย่างเรียบร้อย กองไฟไม่มีร่องรอยการจุดไฟนานแล้ว

 

แต่ที่ทีมข่าวเห็นความผิดปกติคือ ทีมข่าวไปพบ ซองบุหรี่ถูกเสียบทิ้งอยู่ริมฝาผนัง ลักษณะเพิ่งซื้อใหม่ๆ ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาพรานนก จะไม่สูบบุหรี่ลักษณะนี้ จะสูบยาเส้นเท่านั้น

 

นอกจากนี้ทีมข่าวยังไปพบรองเท้าผ้าใบหนึ่งคู่ ถูกทิ้งอยู่บริเวณหลังขนำ ซึ่งชาวบ้าน ก็ให้ข้อมูลว่า รองเท้าผ้าใบที่พบนั้น ค่อนข้างผิดปกติเนื่องจาก พรานนกจะใช้ชีวิตอยู่ในป่าส่วนใหญ่ และปกติชาวบ้านในหมู่บ้านตระจะไม่ใส่รองเท้าผ้าใบอยู่แล้ว จะใส่แต่รองเท้าเดินป่า หรือรองเท้าบู๊ทเท่านั้น

 

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ไปพบสมุดจดบันทึกของพรานนก และหนังสือนวนิยายจำนวน 3 เล่ม ประกอบไปด้วย “ใต้เงารักซาตาน” , “อ้ายเหลือบ วีรชนยอดนักสู้” และ “สุภาพบุรุษเถื่อน”

ส่วนข้อความในสมุดจดระบุไว้ว่า “ตราบใดที่ชีวิตยังย่ำแย่ไม่เป็นท่า ตราบนั้นหน้าที่ของความเป็นคนก็ยังไม่จบสิ้น หากจะพูดว่า “ไม่ไหวแล้ว” ก็อย่าลืมเตรียมทำใจไว้ด้วย ว่าชีวิตของเรา คงไม่มีคำว่าวันพรุ่งนี้อีกต่อไป” Because I care

จาก “นก ภูไพร”

 

นอกจากนี้ทีมข่าวยังพบปลากระป๋อง 3 กระป๋อง ดูวันหมดอายุพบว่า เพิ่งซื้อได้ไม่นาน (13/07/23) นอกจากนี้ยังพบ แป้งกันทากตกอยู่ภายในขนำพรานนกอีกด้วย ซึ่ง การที่พรานนกหายตัวไปอย่างปริศนานั้น ตำรวจกำลังสงสัยว่า พรานนกเป็นคนที่พาเสี่ยแป้งหลบหนีเข้าป่าไปใช่หรือไม่

 

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางต่อไปสำรวจรอบขนำของพรานนก โดยระหว่างเดินทางกลับ ทีมข่าวได้เดินสำรวจนอกเส้นทางที่ชาวบ้านใช้เดินทาง แต่ระหว่างทางทีมข่าวและชาวบ้าน บังเอิญไปพบกับรอยเท้าปริศนา จำนวน 2 รอย ซึ่งอยู่ใกล้ลำธารภายในป่าทึบ

 

โดยรอยเท้านั้นอยู่ห่างจากขนำของพรานนก ประมาณ 100 เมตร ส่วนลักษณะของรอยเท้า มีลักษณะเรียบ คล้ายคนเดินเท้าเปล่า เหยียบเนินดิน ลงหรือขึ้นจากเขา  ส่วนอีกรอยมีลักษณะ คล้ายคนเดินทิ้งน้ำหนัก ทำให้ใบไม้ถูกกดติดกับดินจนเป็นรอยเรียบ ซึ่งจุดที่ทีมข่าวพบรอยเท้านั้น จากการสอบถามชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่า เป็นเส้นทางที่ชาวบ้านไม่มีใครใช้เดินแน่นอน เนื่องจาก อยู่บริเวณด้านล่างตีนเขา ติดลำธาร

 

ส่วนจุดที่พบรอยเท้านั้น  ไม่ไกลจากบ้านของนายพริก และจุดปะทะประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เส้นทางนี้ สามารถเดินไปยังจุดปะทะได้เช่นกัน

 

โดยต่อมาทีมข่าวได้ทดลองเดินเท้าเปล่าตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าเสี่ยแป้งไม่ได้ใส่รองเท้า ว่าจะสามารถเดินทางไปได้ไกลแค่ไหน ปรากฏว่า เดินไปได้เพียงสักพักก็มีอาการเจ็บเนื่องจากคมของหินโดนเท้า ทำให้การเดินทางลำบาก และทำความเร็วได้ยาก

 

นอกจากนี้ระหว่าง พรานป่าที่พาทีมข่าวไป ยังแนะนำสมุนไพรอีกสองชนิด คือ “ต้นโด่ไม่รู้ล้ม” และ “ต้นไอ้เหล็กนั่งยอง” โดยสมุนไพรสองชนิดนี้ชาวบ้านบอกว่า มีสรรพคุณเป็นยาชูกำลัง หากใครได้ลิ้มลองแล้ว จะต้องติดใจ เนื่องจากมีสรรพคุณ ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัว และมีกำลังวังชา โดยพรานบอกว่า หากชาวบ้านเจอมักจะนำไปหมักเป็นยาดอง ใช้กระดกเวลาทำงาน จะมีเรี่ยวแรงมาก ซึ่งหากเสี่ยแป้งหลบหนีอยู่ในเขาไม่มีแรง หากได้ชิมสมุนไพรทั้งสองชนิดแล้วรับรองจะติดใจ

 

ที่แรก! เปิดตัวพรานนก คนที่แป้งต้องพึ่ง อึ้งรอยเท้าโผล่กับบันทึกลับพิกัดหาแป้ง