สาวร้อง! จยย. หายไปแจ้งตำรวจ แต่ได้คำตอบ "คงไม่ได้คืน" แถมยังไม่ลงพื้นที่ตรวจสอบ วอนช่วยกระตือรือร้นช่วยเหลือประชาชน

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กณ 1035 เพชรบูรณ์ ของชาวบ้านรายหนึ่งได้หายไป หลังจากขับมาจอดในบ้านไม่ถึงชั่วโมง แต่เมื่อไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับได้รับคำตอบว่า “อาจจะไม่ได้คืน” แถมไล่ให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ สภ.หล่มสัก แทน จนบัดนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบอะไรเลย จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 18 หมู่ที่ 3 ต.บุ่งคล้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของอดีตสาธารณสุขอำเภอเมืองเพชรบูรณ์

ทางด้าน นางสาวกนกลักษณ์ เจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุ ลูกชายได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาจอดไว้ภายในบ้าน จากนั้นก็ไปนั่งเล่นหลังบ้านกับพวกตนและญาติ ๆ แต่ได้เสียบกุญแจคาไว้ เป็นเช่นนี้ประจำเพราะอยู่ในบริเวณบ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด และเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ตนจะออกไปซื้อของ เมื่อจะเดินมาเอารถจักรยานยนต์ก็ไม่เจอ สอบถามใครก็ไม่เห็น จึงคิดว่าน่าจะถูกขโมย จึงได้รีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้อมตำรวจบุ่งน้ำเต้า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่า คงไม่ได้คืน พร้อมกับบอกให้ตนไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หล่มสัก ซึ่งอยู่ห่างไปอีกเกือบ 20 กิโลเมตร ตนจึงเดินทางไปแจ้งความ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ก็ไม่มีใครลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบอะไรเลย

ซึ่งหลังจากแจ้งความแล้ว ตนก็มาไล่ดูกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน พร้อมทั้งสอบถามชาวบ้านเพื่อหาเบาะแสเอง ซึ่งก็มีคนพบว่ามีชายต้องสงสัยซึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่ เดินอยู่ภายในหมู่บ้าน พร้อมกับสอดส่ายสายตาเข้าไปในบ้านหลังต่างๆอย่างมีพิรุธ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของตนหายก็ไม่เห็นชายคนดังกล่าวอีกเลย จึงคาดว่าชายคนดังกล่าว น่าจะเป็นคนร้ายที่ขโมยรถจักรยานยนต์ของตนไป

ทั้งนี้ นางสาวกนกลักษณ์ เปิดเผยอีกว่า ในตอนที่ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้อม หากมีการประสานงานหรือแจ้งไปยัง สภ.ต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง ก็อาจจะสามารถจับได้ เพราะไปแจ้งความหลังเกิดเหตุไม่ถึง 20 นาที ตนจึงอยากจะฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ ให้มีความกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือประชาชนให้มากกว่านี้ น่าจะออกตรวจตราพื้นที่บ้าง เพราะจะได้เป็นการป้องกันเหตุร้าย เพราะในพื้นที่พบว่ามีการลักขโมยทรัพย์สินของชาวบ้าน รวมทั้งมีการจี้ชิงเงินแม่ค้าในหมู่บ้าน แต่ก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้เลย สำหรับในกรณีของตนเองคงไม่คาดหวังที่จะได้รถคืนแล้ว แต่คาดหวังที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานให้เข้มงวดมากกว่านี้