เมื่อเวลา 07.00 น.( 5 พ.ย 66 ) พันเอก องอาจ สัมพันธ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือมีชายเดินพลัดตกจากแนวเชิงเขาแล้วติดอยู่ในโพรงถ้ำลึก 10 เมตร และติดอยู่ในโพรงถ้ำนานกว่า 5 วัน 5 คืนแล้วไม่สามารถขึ้นมาได้ ที่บริเวณเชิงภูเขาสูงชัน หมู่ที่ 9 หมู่บ้านแกระคี ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งหลังรับแจ้งเหตุชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยทหารพรานที่ 3508 พร้อมหน่วยกู้ชีพมูลนิธิเพชรเกษมเขตอำเภอท่าสองยางพร้อมฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันรีบเดินทางไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

 

โดยที่เกิดเหตุเป็นป่ารกทึบ ห่างจากตัวหมู่บ้านเกิดเหตุไปประมาณ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ทหารพรานพร้อมหน่วยกู้ภัยต้องเดินเท้าไปพร้อมกับอุปกรณ์กู้ภัยใช้เวลาเดินเท้านานเป็นเวลาพอสมควรจึงเดินทางไปจนถึงแนวหน้าผาปากโพรงถ้ำ ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ทางเข้าออกค่อนข้างแคบ โดยทีมเจ้าหน้าที่ต้องเดินด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ซึ่งจากการตรวจสอบลักษณะปากปล่องโพรงถ้ำดังกล่าวซึ่งติดแนวหน้าผาหิน พบมีโพรงถ้ำเป็นโพรงแคบๆกว้าง 1 เมตรลึกไปถึงจุดที่มีคนติดกว่า 10 เมตร

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบชื่อคนที่ติดอยู่ในโพรงถ้ำชื่อนาย ตะควา วนานิเวศ อายุ 47 ปี ติดอยู่ในโพรงถ้ำแห่งนี้นาน 5 วัน 5 คืน เจ้าหน้าที่ได้ตะโกนเรียกชื่อนายตะควา แต่ไม่มีเสียงตอบรับออกมาจากก้นโพรงถ้ำ เจ้าหน้าที่จึงรีบมัดเชือกกู้ภัยแล้วโรยตัวจากปากโพรงถ้ำที่มืดสนิท โดยใช้ไฟฉายส่องนำทางระวางการโรยตัวซึ่งพื้นที่ปฏิบัติการช่วยเหลือค่อยข้างแคบและการปฏิบัติงานต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสุงสุด

จนเวลาต่อมาทีมเจ้าหน้าที่สามารถค้นพบตัวนายตะควา ในสภาพนั่งตัวสั่นอยู่ในก้นโพรงถ้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่แคบห่างจากจุดเจ้าหน้าที่โรยตัวลงไปหลายเมตรซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มอบน้ำดื่มสะอาดและอาหารช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น และใช้ความพยายามจะนำตัวนายตะควาขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากพบว่านายตะควา มีอาการหวาดกลัวและไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ทีมช่วยเหลือเข้าใกล้โดยไม่ทราบสาเหตุเจ้าหน้าที่ได้เจรจาพูดจาหว่านล้อมอยู่นานมากแต่ก็ไม่สำเร็จ จนเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงทีมโรยตัวจึงขึ้นมาที่ปากโพรงถ้ำพร้อมทำการวางแผนการช่วยเหลืออีกครั้ง

 

ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่านานตะควา อาจจะเดินหาของป่าเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงอันตรายใกล้โพรงถ้ำท้ายหมู่บ้านและเดินไปเพียงลำพังจนหายตัวไปกลุ่มเพื่อนและญาติจึงออกตามหาจนพบร่องรอยการเดินพลัดตกลงบริเวณปากโพรงถ้ำซึ่งเป็นพื้นที่แคบชาวบ้านจึงรีบเดินเท้าออกจากป่ามาร้องขอให้ทหารพรานเข้าช่วยเหลือแต่พบอุปสรรคมากมายในการปฏิบัติการช่วยเหลือ

 

ล่าสุดช่วงสายของวันนี้ทีมทหารพราน ฉก.ทพ.35 พร้อมหน่วยกู้ชีพมูลนิธิเพชรเกษมเขตอำเภอท่าสองยางและทีมหมอพยาบาลภาคสนามในพื้นที่และผู้นำหมู่บ้านพร้อมญาตินายตะควา จะร่วมกันเข้าช่วยเหลือเพื่อเร่งนำตัวนายตะควาขึ้นมาจากก้นโพรงถ้ำให้ได้ ซึ่งคาดว่าปฏิบัติการช่วยเหลือจะใช้เวลานานตลอดทั้งวันนี้

 

ล่าสุดวันนี้ (5 พ.ย.66) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งก่อนที่จะไปถึง ทางทหารพรานและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมเขตอำเภอท่าสองยาง ได้มีการช่วยเหลือนายตะควา ออกมาจากถ้ำได้เรียบร้อยแล้ว

 

โดยวันนี้ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวนายตะควา ลงมาจากภูเขา ทีมข่าวได้มีโอกาสสอบถามกับเจ้าตัวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่ง นายตะควา ที่ยังอยู่ในอาการอิดโรย เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตอนที่ออกไปจากบ้านในวันที่ 1 พฤศจิกายน ช่วงเช้าจำได้แค่ว่าเดินไปกินเหล้ากับคนในหมู่บ้าน จากนั้นในช่วงเที่ยง ในขณะที่นั่งกินเหล้าอยู่ ก็มีเสียงผู้ชายแว่วเข้ามาในหูว่า รีบหนีไปจะมีคนมาฆ่า ด้วยความตกใจก็เลยเดินตามเสียงผู้ชายคนนั้นเข้าไปในป่า และพอเดินไปถึงหน้าปากถ้ำ ผู้ชายคนนั้นก็ชวนตนเองลงไปข้างล่าง ซึ่งเมื่อลงไปแล้ว ก็พบว่ามีคนอยู่ในถ้ำเต็มไปหมด โดยภาพที่เห็น คนเหล่านั้นกำลังทำพิธีอะไรบางอย่างอยู่ในถ้ำ ซึ่งจะมีอาการทำอาหาร และมีการนำ หมูเห็ดเป็ดไก่ บูชาเจ้าที่ในถ้ำ

 

จากนั้นเมื่อเสร็จพิธี ก็มีคนนำอาหารไหว้เจ้าที่มาให้ตนเองกิน โดยภาพที่เห็นตรงหน้า เป็นข้าวและไก่ แต่ปรากฎว่า พอหยิบขึ้นมากิน ข้าวที่เห็นกลับเปลี่ยนเป็นเม็ดทราย ส่วนไก่ ก็เปลี่ยนเป็นก้อนดินและก้อนหิน ซึ่งตนเอง มีสติและจำได้ว่าเข้าไปอยู่ในนั้น 5 วันเต็มๆ

 

ส่วนประเด็นที่ว่า ทำไมตนเองไม่เดินออกมาเองหรือตะโกนขอความช่วยเหลือ ยืนยันว่าตอนนั้นถูกคนในถ้ำบังคับไม่ให้ออกมา ซึ่งพวกเขาพูดว่า มีคนอยู่เยอะแยะของกินก็มี ไม่ต้องกลัวอะไร ส่วนประเด็นที่เจ้าหน้าที่ไปช่วย และทำไมตนเองถึงไม่ให้ความร่วมมือ เรื่องนี้เป็นเพราะว่า ตนเองมองไม่เห็นและไม่รู้สึกตัวว่ามีคนกำลังลงไปช่วย ยืนยันที่ผ่านมา ไม่เคยเดินเฉียดเข้าไปใกล้ถ้ำดังกล่าว และที่ผ่านมาก็ไม่เคยลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในป่า ดีใจมากที่มีคนมาช่วย

 

ขณะเดียวกันวันนี้ ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับ นายณรงค์ เปรื่องคำ อายุ 56 ปี เป็นผู้จัดการมูลนิธิกู้ภัยเพชรเกษม จุดท่าสองยาง บอกว่า ตนเองได้รับแจ้งเหตุจากผู้ใหญ่บ้านเมื่อวานนี้ โดยผู้ใหญ่บ้านโทรมาหาตนแล้วบอกว่ามีคนติดถ้ำ  น่าจะประมาณ 4-5 วันแล้ว  ตนจึงเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานอบต.ในพื้นที่

 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุช่วง12.00 น. ของวานนี้ ก็พบว่าชาวบ้านมุงดูกันอยู่และได้ยินเสียงผู้ประสบภัยจากในถ้ำ  ตนพยายามพูดคุยกับผู้ประสบภัยและพบว่าผู้ประสบภัยมีอาการเพ้อและพูดจาไม่รู้เรื่อง 

 

จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยออกมาจากถ้ำวานนี้ (4/11/66) โดยเริ่มต้นจากการโรยตัวลงไปในถ้ำที่ลึกประมาณ 10 เมตร ซึ่งมีอุปสรรคสำหรับปฏิบัติการนี้คือ 1. สื่อสารกับผู้ประสบภัยไม่ได้ 2. ผู้ประสบภัยยังไม่ยอมออกจากถ้ำ  เนื่องจากผู้ประสบภัยนั่งเงียบและมีอาการพูดจาคนเดียว แผนแรก ตนจึงต้องใช้เซฟตี้หย่อนญาติลงไปในถ้ำเพื่อให้ญาติไปโน้มน้าวใจให้ยอมออกมาจากถ้ำ  โดยญาติเราอาการแปลกประหลาดของผู้ประสบภัยให้ฟังว่า  ขณะที่พูดคุยด้วยผู้ประสบภัยมองหน้าญาติแต่ไม่พูดไม่จาแล้วหันกลับไปนั่งคนเดียวและพูดจาอยู่คนเดียว

 

แผนสอง ต่อมามีการเปลี่ยนคนใหม่เพื่อลงไปโน้มน้าวใจผู้ประสบภัยอีก มีการหย่อนคนตัวเล็กคนใหม่ลงไปแต่ก็เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากจุดที่ผู้ประสบภัยอยู่  เป็นโพรงถ้ำขนาดเล็กยาวเพียง 30-40 เซนติเมตร  ซึ่งสามารถยืนในจุดที่ผู้ประสบภัยอยู่ได้เพียง2-3 คนเท่านั้น

 

แผนสาม หย่อนอาหารลงมา น้ำและขนมปัง  แต่ไม่เอาข้าวให้ผู้ประสบภัยเนื่องจากกลัวจะหกเลอะเทอะขณะหย่อนอาหาร  เมื่อหย่อนอาหารเสร็จตนก็เป็นคนยื่นอาหารให้กับผู้ประสบภัย  แต่ตนไม่มั่นใจว่าเจ้าตัวกินหรือไม่  โดยปฎิบัติการนี้ทหารไม่สามารถลงไปช่วยเหลือในถ้ำได้เนื่องจากทหารตัวใหญ่จึงไม่สามารถเข้าไปในโพรงถ้ำขนาดเล็กได้

 

ซึ่งในวันนี้ (5/11/66) ก็มีการปฎิบัติภารกิจใหม่อีกครั้ง วันนี้อุปสรรคน้อยลงจากเมื่อวาน  เนื่องจากผู้ประสบภัยอาการดีขึ้น  โดยพูดจารู้เรื่องมากขึ้นกว่าเมื่อวานและมีการสื่อสารว่าหิว ขอมาม่า ไฟฉาย  และบุหรี่  จึงหย่อนอาหารลงไปให้ผู้ประสบภัย  หลังจากผู้ประสบภัยได้รับประทานอาหารแล้ว 

 

จากนั้นเริ่มปฏิบัติการนำตัวผู้ประสบภัยออกจนสำเร็จช่วง 14.30 น. โดยจะมีช่องจากโพรงถ้ำที่มีเศษหินจากถ้ำตกลงมาแล้วปิดทางออกผู้ประสบภัย  ซึ่งทุกคนก็ช่วยเอาหินออกด้วยความระมัดระวัง  พอเอาหินออกสำเร็จก็ตะโกนเรียกผู้ประสบภัยให้ออกช่องทางนี้ โดยผู้ประสบภัยคลานออกมาที่ช่องดังกล่าวซึ่งทุกคนก็พยายามจะช่วยเหลือโดยการดึงออกมา  เมื่อออกมาสำเร็จก็พบว่าผู้ประสบภัยมีอาการอ่อนเพลียและไม่มีแรงอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็เร่งปฐมพยาบาลเป็นการด่วน

 

สอบถามผู้ประสบภัยทราบว่า  มีเพื่อนชวนผู้ประสบภัยลงไปในถ้ำ  ต่อมาผู้ประสบภัยก็พลัดตกลงไป  และตนยังได้ถามอีกว่าตอนที่อยู่ในถ้ำผู้ประสบภัยคุยกับใคร  เจ้าตัวก็ตอบว่า “มีคนเยอะแยะเลยที่อยู่ในถ้ำ” แต่ในส่วนชาวบ้านก็เชื่อว่าเป็นอาถรรพ์ของถ้ำ  เพราะก่อนหน้านี้เคยมีคนเอาหมอไปดูในถ้ำและมีการเซ่นไหว้บางอย่าง  ซึ่งจุดบริเวณนี้ชาวบ้านจะไม่กล้าตัดไม้ที่อยู่นอกถ้ำมาทำอะไร

 

โดยวันนี้ในส่วนของครอบครัว ทีมข่าวได้เจอกับภรรยาของผู้ประสบภัย แต่เจ้าตัวพูดภาษาไทยไม่ได้ ซึ่งทีมข่าวจึงได้ให้ นายพรชัย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำตำบล แปลภาษาให้ โดย น.ส.เด๊ะเค สัตยาซื่อสัตย์ อายุ 46 ปี เป็นภรรยาของนายตะควา บอกว่า วันที่ 1 พฤศจิกายน สามีได้เดินออกไปจากบ้าน โดยไม่ได้บอกว่าจะไปไหน กระทั่งผ่านไปสองวัน สามีก็ไม่กลับมาที่บ้าน ตนเองและญาติจึงได้เดินออกไปตามหา กระทั่งเมื่อวานนี้ มีคนในหมู่บ้านให้เบาะแสว่าเห็นสามีเดินไปตรงถ้ำที่เกิดเหตุ แต่ปรากฎว่า พอไปถึงถ้ำได้ยินแต่เสียงสามี แต่มาเห็นตัว ทางญาติจึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ  ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวเชื่อว่ามีสิ่งลี้ลับพาสามีเดินเข้าไปในถ้ำ เนื่องจากคนในพื้นที่ รู้กันดีว่าถ้ำนั้นมีเจ้าที่ ซึ่งชาวบ้านไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปใกล้ถ้ำดังกล่าว

 

ยอมรับว่าที่ผ่านมา สามีเคยเข้าไปรับจ้างทำงานตัดไม้อยู่ใกล้ๆถ้ำ แต่สามีไม่เคยไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน ถามว่าตอนแรกคิดหรือไม่ว่า สามีจะกลับบ้านมาเองก่อนที่จะออกไปตามหา เรื่องนี้ยอมรับว่า ตอนแรกก็คิดว่าสามีจะกลับบ้านมาเอง เพราะทุกครั้งที่เขาหายไป เขาก็จะเดินกลับบ้านมาเอง ส่วนอาการทางจิตของสามี ยอมรับว่าเป็นๆหายๆมาประมาณ 10 ปี ซึ่งที่ผ่านมา หากเขาไม่ดื่มเหล้า เขาก็เป็นคนปกติ แต่ถ้าดื่มเหล้า เขาก็มักจะเกิดอาการหูแว่ว พูดคนเดียว และเคยบอกว่าจะมีคนมาฆ่า สุดท้าย ก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มาช่วยสามี ดีใจที่ช่วยสามีออกมาจากถ้ำได้สำเร็จ หลังจากนี้ หากสามีอาการดีขึ้น ก็จะพาไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถ้ำดังกล่าว

หนุ่มหาย 5 คืน รอดปาฏิหาริย์ เปิดใจช่อง 8 ชายลึกลับชวนติดถ้ำทำพิธีไหว้ผีก่อนช็อกเจอดี