จากกรณีที่นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรี ต.ตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นลูกเขย ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกจับพร้อมพวกรวม 5 คน เมื่อวานนี้ หลังร่วมกันเรียกรับสินบน กว่า 6 แสนบาท ในโครงการก่อสร้างน้ำปะปาหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล

 

โดยการจับกุมครั้งนี้ สามารถจับกุม นายวีระชาติ ได้ที่บ้านพัก ตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ส่วน นายธนภัสสร์ กับ นายกุลธัช จับได้ที่ห้องทำงานในเทศบาลตลุกดู่ ขณะที่ นายมานพ และนายยิ่งยง ถูกจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าธนาคาร ธกส. สาขาเมืองอุทัยธานี พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 6 แสนบาท

 

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 4 แสนบาท ยื่นประกันตัวในขั้นสอบสวน ก่อนพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะมีความเห็นอนุญาตให้กลุ่มผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเห็นว่ามีหน้าที่การงาน ที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี โดยจะนัดหมายให้มาเข้าพบอีกครั้งเมื่อสำนวนคดีเสร็จสิ้น เพื่อส่งตัวไปยัง ป.ป.ช. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

 

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา นายธีรพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้เปิดเผยถึงการดำเนินการทางกฏหมายเกี่ยวกับคดีของ นายวีระชาติ รัศมี นายก เทศบาลตำบลตลุกดู่ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้เปิดเผยว่า เบื้องต้นทาง นายวีระชาตินั้นได้มีการยื่นหนังสือลาออกจากการดำรงตำแหน่งนายกเทศบาลตลุกดู่ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และเพื่อให้ทางเทศบาลตลุกดู่สามารถดำเนินการบริหารจัดการงานภายในต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง 

 

ส่วนทางด้านเฟซบุ๊กของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ก่อนที่จะรู้ข่าวว่าลูกเขยโดนจับ เจ้าตัวได้โพสต์ภาพอยู่บนรถไฟฟ้า พร้อมข้อความว่า สองทุ่มถึงสี่ทุ่ม ได้มีเวลาไปเดินซื้อของดี ราคาดี ถูกใจจริงๆครับ นานๆ จะเจอของถูกและใส่สวย ใส่ดี ใส่พอดีตัว ส่วนมากจะเจอของถูกแต่ตัวเล็ก ดีใจจัง ผมไม่ได้บ้าแบรนด์เนมนะค้าบ ตัวไหนชอบก็ซื้อ ดึกแล้วยังมีคนขอถ่ายรูปดีใจครับ ถือเป็นกำลังใจครับ

ต่อมาชาวโซเชียลได้ตั้งขอสังเกต ส่องแฟชั่นนายชาดาโหนรถไฟฟ้าเดินช้อปสยาม ใส่หมวกแบรนด์ Gucci ราคา 19,200 บาท เสื้อเชิ้ตแบรนด์หลุยส์ วิตตอง ราคา 75,000 บาท

 

นายชาดา ไทย​เศรษฐ์​ เอ่ยปากชี้แจง เรื่องลูกเขยที่ถูกจับคดีเรียกรับสินบนผู้รับเหมา ก่อสร้างระบบน้ำประปาครั้งแรก โดยขอตอบในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ตนเคยพูดไว้แล้ว จะเก็บกวาดบ้านตัวเองก่อน เมื่อเกิดเรื่องนี้ ตนได้ติดต่อหาผู้ว่าราชการ​จังหวัดอุทัยธานี​ ขอให้สั่งพักปฎิบัติหน้าที่ของนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยไว้ก่อน

 

"จำไว้นะครับ ฟังดีๆ ใช้สมองคิด การพักปฏิบัติหน้าที่ของทุกแห่งในการปกครองส่วนท้องถิ่น คือเอารองนายกฯของทีมนั้น ขึ้นมารักษาราชการแทน ท้องถิ่นนั้นก็จะอยู่แบบซังกะตาย จนกว่าจะครบวาระ รับผู้บริหารสามารถกลับเข้ามาในช่วงสมัยได้ คดีหลุด ก็มาบริหารราชการต่อ แต่บางคนก็อยู่สู้คดีจนหมดวาระ ซึ่งเมื่อวานลูกเขยผมได้รับการประกันตัว ผมก็คุยกับลูกเขยผม ลูกเขยก็ขอโทษ ผมก็บอกว่าไม่ต้องมาพูดอะไรกัน เราครอบครัวเดียวกัน ผมบอกกับเขาว่าสิ่งที่คุณต้องทำ คือการลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรี เพื่อให้จังหวัดจัดการเลือกตั้งใหม่ หากไม่ทำอย่างนี้ และรอให้การสู้คดีเสร็จ จะเป็นการเอาเปรียบ และปล่อยทิ้งพี่น้องประชาชน ต.ตลุกดู่  "

 

นายชาดา กล่าวต่อว่า เมื่อมีการลาออกกระบวนการต่อไป คือการจัดการเลือกตั้งใหม่ ใครจะลงก็ว่าไปตามระบบ ถือเป็นมาตรฐานการเมืองท้องถิ่นของไทย "ผมกำลังจะบอกว่านี่คือมาตรฐานครับ นายวีระชาติ รัศมี ลาออกเมื่อเวลา 23:00 น ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนได้ไปเลือกตั้งต่อ ไม่ใช่บอกว่าคดียังไม่สิ้นสุด คนที่จับกุมเขาเสียความรู้สึก อะไรวะกลับมาวันนี้พรุ่งนี้ไปเป็นนายกต่อ พี่เต่า (พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล.)​ โทรหาผม ในคดีอื่นนะครับ ในคดีนี้ ผมเห็นว่าการพักปฏิบัติหน้าที่ เป็นการถ่วงความเจริญ และไม่มีสปิริตทางการเมือง นี่คือสิ่งที่ผมทำในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะคนใกล้ชิดผมต้องแสดงสปิริตมากกว่าคนอื่น " 

 

นายชาดา กล่าวแบบมีอารมณ์ฉุนเฉียว​ ว่า จับคนใกล้ชิดก็ว่า ไม่จับก็ด่า แล้วจะให้ตนทำอย่างไร ด้วยความเคารพครอบครัว ตนไม่มีปัญหา ตนในฐานะพ่อต้องโอบกอดลูกทุกคน ด้วยความรักและความอบอุ่นเดินและไปด้วยกัน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ครอบครัวตนก็รักกัน และตนได้ทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ตนจึงขอร้อง ด้อมต่างๆ AI อย่าเอารูปลูกหลานของตนมาออกข่าว จะด่าตนก็ด่าไป คุณมี สิทธิ​์ด่านายชาดา แต่วันหนึ่งคุณจะเสียใจที่ด่าตน แต่อย่าเอารูปลูกหลานของตน มาออกเดี๋ยวจะเกิดสงครามโซเชียล หากตนหาอวตารไม่เจอ ก็จะเอาคนที่อยู่เบื้องหน้า ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นสังคมจะอยู่อย่างไร คนไทยต้องรักกัน

 

" สำนึก สำนึก ในกะลาหัวว่าวันนี้ ถ้าเกิดสงครามโลก นายกปวดหัวทุกวันกับอิสราเอล ไม่ใช่มาด่ากันอยู่แบบนี้ มันไม่สร้างสรรค์"

 

หลังจากนั้นนายชาดา ได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที โดยมี สส.พรรคภูมิใจไทยและ สส.พรรคพลังประชารัฐ มาคอยให้กำลังใจ และทันทีที่นายชาดา หันไปเจอหน้าของลูกสาว ได้ดึงลูกสาวเข้ามาหอมและกอดแสดงความรัก จากนั้นก็เดินทางกลับทันทีและจะขอชี้แจงเพียงเท่านี้

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย  กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่จับกุม นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นลูกเขยของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย (มท.3) ในข้อหาเรียกรับสินบนผู้รับเหมาประมูลโครงการก่อสร้างระบบท่อน้ำปะปา เป็นเงิน 6 แสนบาท ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเรื่องเช่นนี้เป็นไปอย่างถูกต้อง แสดงว่าเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานเห็นพ้องต้องกันว่า ที่ต้องกำจัดบทบาทผู้มีอิทธิพลที่ทุกฝ่ายต้องการให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งการจับผู้กระทำความผิดฮั้วประมูลเป็นหน้าที่ของตำรวจเป็นหลักอยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญคือเห็นหรือไม่ว่าไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ถ้าเป็นผู้มีอิทธิพลต้องไม่โดนจับแล้ว นี่เป็นบทพิสูจน์ว่าไม่ว่าใครก็ช่วยไม่ได้ถ้าทำผิดกฎหมาย และไม่มีใครกล้าช่วยด้วย

 

เมื่อถามว่า กระทรวง มท. จะยกระดับเข้มมาตรการปราบปรามผู้มีอิทธิพลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ปฏิบัติตามภารกิจหน้าที่อยู่แล้ว ฉะนั้นอย่าทำผิดกฎหมาย และคงไม่ต้องยกระดับอะไรเพราะภารกิจกระทรวง มท. และหน่วยงานความมั่งคง ต้องปราบปรามการกระทำที่ผิดกฎหมายอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ

 

“มันเป็นนโยบายรัฐบาลเป็นข้อสั่งการของรัฐบาลตั้งแต่เข้ามาเลยว่าไม่ให้มีเรื่องพวกนี้ กรณีนี้เป็นลูกเขยไม่ใช่คนใกล้ตัว ลูกเขยนี่เขาเลือกกันเอง พ่อตาอย่างมากก็รับสินสอดทองมั่นก็แค่นั้น จะไปสั่งอะไรได้” นายอนุทิน ระบุ

 

เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นรมว.มหาดไทย จะกำชับในเรื่องนี้อย่างไรโดยเฉพาะในโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ นายอนุทิน กล่าวว่า มันไม่ต้องกำชับ มันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย คนที่ทำผิดกฎหมายตั้งใจที่จะทำผิดกฎหมาย ถ้าทำแล้ว ถ้ายังเซ่ออยู่คิดว่าทุกวันนี้การทำผิดกฎหมายไม่มีใครจับได้ เทคโนโลยีสื่อสารไปถึงไหนแล้ว พอจับกุมได้ก็ตรวจโทรศัพท์ก็เห็นเลยว่ามีการเชื่อมโยงกัน

 

“เพราะฉะนั้นถ้ายังโง่อยู่ เซ่ออยู่ ก็ต้องโดนแบบนี้ คนโง่เป็นเหยื่อของคนฉลาด คนฉลาดก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่บ้านเมือง” นายอนุทิน ระบุ

 

เมื่อถามอีกว่า ในมุมมองกระทรวง มท. มองเรื่องนี้อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า “สมน้ำหน้าสิ ดีแล้วไงว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ชัดเจนไหมล่ะ โดนไล่ทีวิ่งแบบ แล้วเป็นนักเลงตรงไหน ไม่เห็นมีท่าเลย”

 

เมื่อถามนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย (มท.3) ได้รายงานแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ท่านโทรรายงานเลย บอกว่าหัวหน้าอย่าไปกังวลอะไรเลยนะ ท่านก็เป็นคนบอกเองว่าหลักฐานพร้อมเมื่อไร เดี๋ยวท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาหยุดการปฏิบัติหน้าที่

 ชาดา ฟิวส์ขาดสั่งลูกเขยลาออกขออย่าหน้าหนา อนุทินฟาดโง่เองปิดตายการเมือง