จากรณียายแคล้ว วัย 85 ปี ถูก นางลี เพื่อนบ้านตีสนิทก่อนหลอกโอนเงินขายที่ดินจำนวน 5 ล้าน โดยให้ย้ายสมุดบัญชีธนาคารไปยังธนาคารอีกสาขา แล้วเปิดบัตรเอทีเอ็ม โดยเพื่อนบ้านเก็บบัตรเอทีเอ็มกับสมุดธนาคารไว้ แล้วไปแอบกดเงินจนหมดบัญชีกว่า 5,500,000 บาท ซึ่งยายแคล้วกว่าจะรู้ว่าเงินในบัญชีธนาคาร ถูกถอนออกไปหมดเกลี้ยงก็ร่วม 1 ปี แล้ว และได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วเมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดใน 2 พื้นที่คือ สภ.พระพุทธบาท และ สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เพื่อนบ้านถูกจำคุกเพียง 45 วันแล้วก็ออกมาลอยนวล แถมขู่ยายแคล้วว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครจะฆ่าให้ตาย นั้น



ล่าสุด (21 ตุลาคม 2566) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่มายัง ต.สร่างโศก อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี มายังบ้านของยายแคล้ว ผู้เสียหาย เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนนั้นลูกจักกับนางลีมานานแล้วตั้งแต่นางลีเด็ก แต่พอโตมาก็ไม่ได้สนิท แต่มีอยู่วันหนึ่งนางลีเข้ามาขายพระให้กับตน ซึ่งคุยกันไปคุยกันตนก็ได้บอกกับนางลีไปว่าจะขายที่ดินจำนวน 1 ล้านกว่าบาท

จากนั้นพอนางลีทราบว่าตนจะขายที่ดิน นางลีเข้ามาตีสนิททันที มาคอยช่วยเหลือดูแลและจัดหาอาหารการกินต่าง ๆ ให้อย่างดี ซึ่งตนนั้นก็ทราบดีว่านางลีนั้นเคยมีประวัติไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง เคยมีคดีติดตัวเรื่องนี้มาเยอะ จึงพูดกับนางลีไปว่าอย่ามาโกงฉันนะ นางลีก็ตอบกลับมาว่าเลิกแล้วไม่ทำแบบนี้แน่นอน

จนกระทั่งตนเองขายที่แปลงนี้ได้ ก็นำเงินไปทำบุญ 300,000 บาท จากนั้นก็เหลือเงินจำนวน 720,000 บาท ไปเข้าบัญชีธนาคารธนาคารออมสิน สาขาบ้านหมอ และต่อมาก็นำเงินแสนกว่าบาทไปทำบุญอีก นำไปบวชลูกบุญธรรมและนำไปใช้ซ่อมแซมบ้าน เหลืออยู่ประมาณ 500,000 บาท



โดยจากนั้นนางลีก็ได้ยืมเงินของตน 3 ครั้ง จำนวนครั้งละ 1 หมื่นบาท ตนก็ให้ยืม ต่อมานางลีก็ได้พาตนไปทำบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าบัตรเอทีเอ็มคืออะไร จึงให้นางลีไปทำเพราะเห็นว่าตนไม่ได้เซ็นต์อะไร จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการถูกหลอก แต่พอตนจะขอบัตรเอทีเอ็มมาเก็บเอง นางลีก็ไม่ยอมให้บอกว่าจะเก็บดูแลให้เอง จากนั้นตนก็ขายที่ดินได้อีกจำนวน 5 ล้านบาท และติดต่อทำเรื่องขายที่ดินและโอนเงินกันในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งนางลีก็เป็นคนหาคนมาซื้อ ไปดูแลเรื่องการโอนย้ายที่ดิน และเปิดบัญชีที่ธนาคารออมสิน สาขาพระพุทธบาท ให้กับตนทั้งหมด แต่รอบนี้ไม่ยอมให้สมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็ม โดยบอกเหมือนเดิมว่าจะดูแลไว้ให้เอง

จากนั้นผ่านมาเกือบ 1 ปี หลานสาวตนมาขอยืมเงินตนจำนวน 1 หมื่นบาท ไปซื้อมอเตอร์ไซค์ ตนจึงไปธนาคารกับหลานสาว เพื่อเบิกเงินที่ธนาคารโดยใช้บัตรประชาชนเบิก เนื่องจากสมุดบัญชีและเอทีเอ็มถูกนางลีเอาไปหมดไม่ยอมคืนให้ และเมื่อไปถึงก็ทำเรื่องเบิกเงิน ถึงรู้ว่าเงินในบัญชีแรกหาย 5 แสน และอีกบัญชีก็หมดเกลี้ยง 5 ล้านกว่าบาท พอตนรู้ว่าเงินในบัญชีหายหมดเกลี้ยงก็มีอาการนิ่งไปช็อกบอกไม่ถูก แต่ติดเอาไว้ว่านางลีต้องเป็นคนทำแบบนี้แน่ ๆ



อีกทั้งพอตนทราบเรื่องนี้นางลียังเข้ามาหาที่บ้านแล้วบอกว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ถ้าไปบอกก็จะฆ่าตนทิ้งทันที แต่ตนก็ไม่กลัวตอบกลับไปว่าก็สู้ตายไม่ยอมเหมือนกัน จากนั้นนางลีก็กลับไปและไม่เคยมาหาตนอีกเลย โดยตอนนี้ตนลำบากมากไม่มีเงินเหลือเลย ต้องเอาทีดินที่เหลือไปจำนอง เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเงินของตนที่ถูกโกงไปเอากลับมาให้ตนด้วย

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังบ้านของนางลี ที่ยักยอกเงินของยายแคล้วซึ่งบ้านของนางลีอยู่ไม่ไกลจากบ้านยายแคล้ว ห่างกันเพียง 2-3 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งเมื่อทีมข่าวมาถึงก็พบญาติของนางลีเท่านั้นที่เดินออกมา พร้อมกับบอกกับนักข่าวว่านางลีนั้นไม่อยู่และไม่ได้บอกว่าออกไปไหน

เมื่อนักข่าวพยายามขอเบอร์ติดต่อของน้องลี ทางญาติก็ได้บอกว่านางลี มีเบอร์โทรศัพท์หลายเบอร์ไม่รู้จะให้เบอร์ไหน แต่เมื่อนักข่าวถามว่าขอเบอร์ติดต่อเบอร์ไหนก็ได้ หรือติดต่อนางลีให้หน่อยได้มั้ย ทางญาติก็บอกแต่ว่าไม่รู้ ๆ พร้อมกับเดินหนีนักข่าวไป

แม่เฒ่าจุกอก เพื่อนบ้านเนรคุณหลอกฮุบสมบัติหมดตัว เปิดแผนสุดพีกคนไว้ใจร้ายที่สุด