วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ร.ต.อ.ดำฉลวย สำคัญยิ่ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิตภายในห้องเช่า หมู่ 3 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี ตรวจสอบพบศพนายธนา อายุ 40 ปี เสียชีวิต สภาพมีเชือกผูกรองเท้ารัดคอโยงกับหน้าต่างเสียชีวิตในท่านั่ง

ด.ญ.ชมพู่ (นามสมมุติ) วัย 9 ขวบ ลูกสาวของ นายธนา ผู้เสียชีวิต เล่าว่า อยู่ที่ห้องเช่าเพียง 2 คนพ่อลูก โดยในช่วงเช้าวันนี้ ตนตื่นขึ้นมาก็พบว่าพ่อของตนได้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากผูกคอกับหน้าต่าง ซึ่งตอนที่พบ ตนพยายามปลุกพ่อแต่พ่อก็ไม่ตื่น และเมื่อตนเห็นเชือกจึงทราบว่าพ่อได้ผูกคอเสียชีวิตแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อเคยพูดกับตนว่าอยากตายและท้อกับชีวิต ตนจึงห้ามไว้และได้พูดกับพ่อว่า "แล้วหนูจะอยู่กับใคร และใครจะเป็นคนจัดกระเป๋าให้หนูไปโรงเรียน" ซึ่งพ่อก็ได้แต่ฟัง

แล้วเมื่อคืนก่อนที่จะนอน พ่อได้สั่งเสียว่า ถ้าพ่อตายก็ให้ไปอยู่กับป้า ให้ป้าดูแล และอย่าไปบอกใครว่าพ่อบอกแบบนี้ ซึ่งตนก็ได้พยายามห้ามแล้ว แต่ตื่นเช้ามาก็พบว่าพ่อเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตนดูได้จากการที่เอามือไปจับตรงหัวใจของพ่อ แต่ไม่รู้สึกว่ามันเต้น จึงได้โทรไปบอกกับลุง ซึ่งในตอนนี้ถ้าพ่อฟังอยู่ ตนก็จะบอกกับพ่อว่า ตนรักพ่อ และตนมาอยู่กับป้าแล้ว อยู่ดีอยู่กับสบายแล้ว พ่อไม่ต้องห่วง

ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับ น.ส.สุรีพร อายุ36ปี ป้าของเด็ก ได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า ในวันนี้หลังจากทราบ ตนก็รีบไปรับหลานสาวมาดูแลโดยทันที เพราะตนกับหลานคนนี้สนิทกันมาก เพราะตนเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก แต่ในส่วนนี้ตนจะเป็นผู้ดูแล เพราะเดี๋ยวจัดการเรื่องพ่อของเค้าเสร็จ ก็จะให้ไปอยู่กับพี่สาวอีกคน ซึ่งน้องชมพู่เคยไปช่วยทำงานร้านกาแฟของเขา แล้วก็มีความสนิทสนมเช่นกัน

ในส่วนเรื่องพ่อของเขามีความเครียดเนื่องจากเป็นโรควัณโรค และไม่มีงานทำ โดยอยู่กับบ้านเฉยๆ พอไปสมัครงานที่ใดก็ไม่มีที่ได้รับ จึงน่าจะเกิดความเครียดทำให้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ในส่วนแม่ของเขาต้องโทษอยู่ในเรือนจำ ซึ่งศาลตัดสิน 25 ปี แต่ตอนนี้ได้รับการลงโทษเหลือ 10 ปี ซึ่งตนและพี่สาวของตนก็จะดูแลหลานไปตลอด

ด้าน น.ส.จอย (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นญาติของนายธนา ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ที่จริงแล้ว น้องชมพู่ไม่ได้ยากไร้หรืออนาถา เพราะบรรดาญาติมีฐานะแทบทุกคน แต่ที่เขาต้องมาอยู่กับพ่อ เพราะเขาอยากอยู่กับพ่อของเขา ซึ่งบรรดาญาติหลายๆ คนได้พยายามที่จะมารับหลายครั้ง แต่น้องก็จะไม่ไปเพราะเขาต้องการอยู่กับพ่อ เราจึงทำอะไรไม่ได้

ส่วนพ่อของเขาเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง ไม่ยุ่งกับใคร ไม่คุยกับใคร แม้กระทั่งญาติก็ยังคุยกับเขาไม่ได้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุก็เป็นโรควัณโรค จึงไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ อีกทั้งเป็นคนโลกส่วนตัวสูงไม่ยุ่งกับใคร จึงอาจเป็นผลทำให้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งตนคาดว่าน่าจะเป็นโรคซึมเศร้าด้วย

หลังจากนี้ น้องชมพู่ก็จะได้รับการดูแลจากญาติฝ่ายแม่ โดยน้องเป็นเด็กที่น่ารัก พูดจาดี เรียนเก่ง จึงมองว่าการที่น้องได้ไปอยู่กับทางญาติฝ่ายแม่ของเขา ซึ่งเป็นสังคมที่ดีก็น่าจะทำให้สภาพจิตใจดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว