จอย บียอนด์ จูงมือ แหวดศรี น้องสาว "ฮาย อาภาพร" ตั้งโต๊ะแจงข้อเท็จจริงกรณีถูกตลกดังไล่ออกจากงาน ด่าไม่ให้ขึ้นคอนเสิร์ต

จากกรณีที่ “จอย บียอนด์” ควง “แหวดศรี นครสวรรค์” น้องสาวนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ฮาย อาภาพร” ขึ้นโรงพักอำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี แจ้งความดำเนินคดีตลกดังข้อหาหมิ่นประมาท หลังถูกตลกชื่อดังไล่ออกจากงานไม่ให้ขึ้นคอนเสิร์ตพร้อมด่าทอจนเกิดเรื่องชุลมุน ซึ่งล่าสุดด้านจอยก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เปิดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

17 ต.ค. 66 เวลา 13.00 น. ที่ Channel8 Thailand ซอยเสนานิคม 1 ลาดพร้าว - วังหิน "จอย บียอนด์" พร้อม “แหวดศรี” น้องสาว “ฮาย อาภาพร นครสวรรค์” พร้อมทนาย ตั้งโต๊ะชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีถูกตลกดังไล่ออกจากงานแถมด่ากราดไม่ให้ขึ้นแสดงบนเวที หลังเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตในงานวันเกิดกำนัน จังหวัดสุพรรณบุรี ทำให้เกิดความอับอาย ก่อนไปแจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐาน "หมิ่นประมาท" ที่โรงพักอำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

โดย จอย เปิดเผยว่า เหตุการณ์วันนั้นตนไปงานวันเกิดของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่สุพรรณบุรี จะมีคิวขึ้นร้องตอนวงใหญ่ลง เป็นคิวหลังสุด ตอนตนกำลังจะขึ้นร้องเพลง มีตลกดังคนนี้มาขวางเอาไว้ พูดเสียงดัง ชี้หน้า โวยวายให้คนมามองเรา ตอนนั้นตนก็ไม่อยากร้องเพลงแล้ว เสียใจ ตนก็กลับไปขึ้นรถจะกลับบ้าน แต่พี่ผู้ใหญ่ก็ไปตามมาว่าต้องไปร้องเพลงนะ

"บอกคำด่าของเขาเป็นคำ สัตว์เลื้อยคลาน ของลับผู้ชาย มันเหมือนเราทะเลาะกันมานานมาก อาจจะด้วยความที่เขาดื่มน้ำเปลี่ยนนิสัยไป แล้วก่อนหน้านั้นก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาชี้หน้าแล้วพูดว่า นี่เหรอจอย บียอนด์ บอกปกติเขาเป็นคนมีปัญหากับทุกคน ใช้คำว่าไอ อี ตนเจอคำว่าอี เลยห่างไม่คบกันมา2ปี จริงๆนอกจากตนยังมีคนอื่นด้วย คนที่ดีกับเขาโดนเหมือนกันหมด บวกกับวันนั้นเป็นพื้นที่ของเขา เขาเลยอาจจะมีพาวเวอร์มากขึ้น" จอย กล่าว

จอย กล่าวต่ออีกว่า จากคำสัมภาษณ์ของอีกฝ่าย ที่บอกว่ามีการเปลี่ยนคิว ส่งสัญญาณให้จอยว่าอย่าเพิ่งขึ้นร้อง ตนว่าความจริงให้ฟังจากปากตน เขาจะพูดอะไรก็พูดได้ แล้วพยานที่ตนพามาก็มีตัวตนจริง พร้อมบอกมีการเปลี่ยนคิวจริง ท่านกำนันทราบว่าร้องแค่ 3 เพลงแล้วจะลง ซึ่งเขาไม่รู้เป็นใครไม่ให้ตนขึ้นร้องเพลง จนมีพี่ผู้ใหญ่ไปเรียกตนที่รถว่าให้ขึ้นร้อง ตนว่ามันเป็นเรื่องของคนที่โดนกระทำ ไม่ใช่ทะเลาะวิวาท บอกตอนนั้นมันมีท่าทางเหมือนเขาจะเข้ามาทำร้าย ตนรู้สึกหวาดกลัวจากเขา จากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ตนยืนยันว่าเขาเมา และตนพูดความจริง มีหลักฐาน ซึ่งเขาไม่มี ตนแค่อยากรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองสำหรับคุณสมชายที่เขาบอกว่าเดินไปต่อว่าเขา

"จริงๆคือไม่ใช่ต่อว่า พี่ผู้ใหญ่คนนี้แค่เดินไปบอกว่า ถ้าทำแบบนี้ออกจากงานไปเลย เรื่องที่เขาบอกว่าเขาส่งสัญญาณว่าอย่าเพิ่งขึ้น แต่กิริยามันต่างกันนะ ตนว่ามันไม่ใช่การส่งสัญญาณบอกอย่าเพิ่งขึ้นเวที ในความรู้สึกเขาเขาอาจจะรู้สึกผิดใจกับเรา ซึ่งตนไม่รู้สึกผิดใจกับเขา แค่ไม่ยุ่งแล้ว บอกรู้จักกันมา10ปี แล้วก็มีช่วงที่ไม่คบหากันไป สำหรับตนไม่คิดว่าทำไมงานนี้มันถึงเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ขึ้นมา พฤติกรรมของเขาจะเป็นช่วงที่เขาเมา แล้วพอส่างก็หาย จะเป็นแบบนั้นไป "

"หลังจากพี่สมชายบอกให้เขากลับ ตนก็ขึ้นโชว์ต่อ แต่อาจจะไม่ได้รู้สึกสนุกสนานเท่าปกติ ส่วนที่ต้องแจ้งความตนอยากปกป้องตัวเอง เขาละเมิดเรา ตนว่ามันไม่ควรเกิดแบบนี้ขึ้น ทำให้เขารู้ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ ตอนนี้ตนแจ้งแค่ข้อหาที่เขาว่าด่าเราตรงนี้ แล้วก็มีแหวดไปเป็นพยานด้วย ตนอยากให้เขารับบทเรียนในสิ่งที่เขาทำ ให้เป็นไปตามกฎหมาย บางคนมีความอดทนไม่เท่ากัน อย่างตนก็กระทบชื่อเสียงเราด้วย มันกระทบกับการทำธุรกิจของตนด้วย กับพี่ฮาย ตนก็ไม่ได้คุยอะไรมาก เพราะตนไม่อยากโทรหาคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์" จอย กล่าว

ด้าน แหวด น้องสาวอาภาพร บอกว่า ตอนแรกไม่ติดใจเพราะเขาได้โทรมาขอโทษตนแล้ว ในส่วนของตนจบ แต่ในส่วนของพี่จอยถ้าให้เป็นพยานตนก็ไป เขาบอกถ้ามึงไปเป็นพยาน กูก็มี จะเอากี่คน นายกเขาหาให้ได้ ตนไม่รู้ว่าเขาเบ่งอะไรไหม คือตนรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ตนยังเสียใจจนถึงขนาดนี้ว่าพาพี่ไปเจออะไร ตนโดนเขาด่าก่อน ผลักหัว เขาด่าว่าอิเหี้x เพราะมึงตัวเดียวเลย อิส.. พอด่าตนเสร็จเขาก็มาด่าพี่จอยก่อน มึงรู้ว่ากูไม่ถูกกับมัน แล้วยังเอามันมา เขาก็ด่าไปเรื่อยๆจนพี่จอยกลับ ตนเสียใจจนร้องไห้เลย บอกจริงๆตนอยากด่ากลับ แต่อยู่ในหน้าที่ ไม่ได้ด่าเขากลับเลยแม้แต่คนเดียว

ส่วนที่เขาบอกว่าพูดภาษาพี่น้อง ตนว่าขณะนั้นมันไม่ใช่ เขากำลังโกรธอยู่ ที่ตนไม่เอาเรื่องเพราะเขามาขอโทษตน เขาไม่ยอมเขาบอกเขาไม่ผิด ตนบอกเขาแล้วว่าพี่เขาผิด มีผู้ใหญ่บอกให้เขามาขอโทษแล้ว เขาก็ถามกลับมันร้องไห้ตอนไหน เขาก็มาขอโทษตน ย้ำตนไม่ได้แจ้งความเขา

ด้าน สมชาย คนจัดหาศิลปิน บอกว่า ตอนนั้นตนนั่งทานกับเพื่อนอยู่ แฟนก็มาบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็ไปดูแล้วบอกเขาว่าผีทำไมทำแบบนี้ ยอมรับตนก็พูดตามภาษาเรา ไม่ถึงกับตะคอก แต่คุยเสียงดัง ตนบอกเขาว่าทำแบบนี้มันเสียหายนะ ส่วนที่เขาบอกว่าเจ้าของงานไม่ได้เชิญจอยไป จริงๆเราประสานงานกันมาล่วงหน้า 2 วัน รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ถูกกัน ตนก็ได้บอกตลกคนนั้นแล้ว เขาก็บอกว่าเขาให้เกียรติตน เอามาได้ ไม่ใช่อย่างที่เขาพูด ถามว่าวิลลี่สนิทกับกำนันไหม ก็พอสมควร จากพฤติกรรมของเขาตนว่ามันก็มีส่วนกับเรื่องงานของเขา

“จอย” บอกในอนาคตตนไม่จำเป็นต้องเช็คว่ามีเขาไหมในงาน เพราะเจ้าภาพเป็นคนจ้าง ตนไม่ได้ทะเลาะกับใคร และไม่เคยทะเลาะกับใครมาก่อน เจอสวนกันได้ตามงาน แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าจะเป็นยังไง ขอแค่เป็นเงา เป็นฝุ่นผ่านกันไป ส่วนเรื่องที่เขาจะขอโทษก็ให้เป็นเรื่องของพี่ทนาย ตอนนี้เรื่องมันใหม่มาก

ด้าน ทนายกรกฎ บอกว่า ในเรื่องคดี ลักษณะนี้เป็นการคุกคามแน่นอน ด้วยคำพูดรุนแรง และทำให้เขาอับอาย ด้อยค่าตัวเอง รวมถึงการใช้กำลังมีด้วยหรือเปล่า ในเชิงกฎหมายไม่มีใครทำแบบนี้กับใครได้ คุณจอยถูกคุกคามแน่นอน อันไหนยอมความได้ก็แล้วแต่คุณจอย แล้วที่ยอมความไม่ได้ก็มี ค่าเสียหายก็มีเรียกแน่นอน

“จอย” บอก ตนไม่ได้คิดเรื่องเงิน ให้พี่ทนายเป็นคนจัดการ ตนแค่อยากออกมาพูดในส่วนของตัวเอง เรียกร้องสิทธิของตัวเอง และให้เป็นบทเรียนด้วย สิ่งที่ตนเสียใจคือ เขาไม่ขอโทษกับสิ่งที่เขากระทำ ตนไม่ได้บอกเขาเป็นส่วนตัว แต่บอกว่าการกระทำไม่ว่าจะเกิดจากตนเองหรือไม่ แต่เมื่อเขาทำแล้ว ผลมันก็จะย้อนมาที่ตนเองที่เขาเป็นอยู่ “แหวด” บอก พี่ฮายบอกมึงยอม แต่กูไม่ยอม มันด่ามึง ก็เหมือนมันเหมือนเหยียบหน้ากูเลย