กรณีโกบอย หรือ นายธนวัฒน์ ชาวสมุทร นักธุรกิจและยูทูบเบอร์ชื่อดังเจ้าของเพจ “โกบอยครัช” ซึ่งทำเนื้อหาเกี่ยวกับการเข้าไปสัมภาษณ์ผู้ต้องขังหรืออดีตผู้ต้องขัง เล่าเนื้อหาเกี่ยวกับการกระทำผิดเพื่อเตือนสังคมไม่ให้หลงผิดหรือมีการกระทำผิดซ้ำ

โดยเทปล่าสุด ได้สัมภาษณ์อดีตดาราอย่าง “ทอยทอย” ซึ่งก่อเหตุแทงแฟนสาวกว่า 21 แผล จนกระทั่งเสียชีวิตภายในบ้าน และในเนื้อหาดังกล่าวมีการเปิดโอกาสให้อดีตดาราเล่าพฤติกรรมเกี่ยวกับการก่อเหตุ และมีการกล่าวถึงแฟนสาวที่เสียชีวิตเพียงฝ่ายเดียว จนกระทั่งกรมราชทัณฑ์ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเนื้อหาดังกล่าวว่า เป็นการเปิดรับฟังเพียงฝ่ายเดียวและอาจเข้าข่ายที่ต้องเอาผิดโกบอย

ทีมข่าวช่อง 8 ตรวจสอบบางช่วงบางตอนเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ระหว่างโกบอยกับทอยทอย อดีตดาราซึ่งอยู่ภายในเรือนจำมีนบุรี โดยเจ้าตัวยังคงสวมใส่ชุดซึ่งเป็นเครื่องแบบของผู้ต้องขัง โดยมานั่งให้สัมภาษณ์กับโกบอย ซึ่งเนื้อหาที่ถูกดราม่าและรวมถึงถูกพาดพิงถึงอดีตแฟนสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว ช่วงหนึ่งมีการระบุว่า "ในวันเกิดเหตุคืนนั้น ฝ่ายหญิงไปหยิบมีดที่วางอยู่บนเตียง พยามเข้ามาต่อสู้กับตนเอง และทันทีที่ฝ่ายหญิงมีมีดอยู่ในมือ ยังมีการพูดประโยคเพื่อที่จะขู่ฆ่าคนในครอบครัวของตนเอง “กูจะฆ่าพ่อแม่มึงจะทำให้มึงไม่มีที่ยืน” หลังจากที่ตนเองได้ยินประโยคดังกล่าว ด้วยความเป็นคนในครอบครัวใครก็ยอมไม่ได้ แล้วถามว่าจากประโยคดังกล่าวของฝ่ายหญิง สังคมอาจจะมองว่าผู้หญิงตัวเล็กอาจทำอะไรไม่ได้ แต่ด้วยตัวเองที่อยู่กับเขามานานและขึ้นชื่อว่าคนเป็นแฟนกัน ประกอบกับรู้ว่าเค้าทำเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา เรื่องแค่นี้คงไม่คะนามือ และระหว่างนั้นมีดก็มาอยู่ในมือของตนเอง แล้วฝ่ายหญิงก็ยังเข้ามาทำร้ายโดยการทุบตีตนเอง แต่แม้ว่ามี่จะอยู่ในมือพร้อมกับสติที่ยอมรับว่าผิวขาดแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มีการลงมือ จากนั้นตัวของฝ่ายหญิงก็ได้หยิบเอาคีย์บอร์ดมาฟาดมือตนเองหลายครั้ง และด้วยความเจ็บปวดที่ตนเองถูกทุบตีซ้ำ และภาพจำสุดท้ายของตนเองคือพยามดันผู้หญิงออกจากห้องที่ทะเลาะกันตอนแรกเพื่อผลักไปอีกห้องหนึ่ง แต่จังหวะที่มีการผลักออกไปนั้นอาจจะเป็นช่วงจังหวะที่มีการเผลอจ้วงแทงหรือไม่ เพราะตนเองมารู้อีกทีคือมีการก่อเหตุไปแล้ว แต่ช่วงจังหวะที่มีการผลักเปลี่ยนจากอีกห้องไปยังอีกห้องฝ่ายหญิงก็ยังมีการจิกหัวและทำร้ายตนเองตลอด และเมื่อไปถึงห้องสุดท้ายที่พบเป็นศพ ตอนนี้ก็เห็นว่าฝ่ายหญิงไปนั่งอยู่ที่โซฟาด้วยหน้าตายิ้ม พร้อมกับมีเลือดอาบเต็มตัว และหลังจากที่ตนเองเห็นว่าฝ่ายหญิงนั่งยิ้มพร้อมกับมีเลือดไหลออกมาจึงเกิดอาการช็อกและรีบติดต่อญาติรวมถึงคนอื่นทันที"

ด้านนางสาวนาฏธิดา อายุ 38 ปี พี่สาวของอดีตแฟนทอยทอย เผยว่า จากกรณีคลิปดังกล่าวตนเองยังไม่ทราบว่าคลิปเต็มมีจำนวนความยาวเท่าไหร่ แต่ตนเองได้มีการดูคลิปบางส่วนที่มีการตัดลงสู่โลกออนไลน์ และเป็นคลิปที่มีการกล่าวถึงพฤติกรรมการก่อเหตุที่ทอยทอยทำกับน้องสาวของตนเอง และยังมีคำกล่าวอ้างที่พูดถึงคนตาย ทั้งที่คนตายก็ไม่สามารถตื่นขึ้นมาเล่าหรือตอบข้อเท็จจริงเหล่านั้นได้ โดยคลิปดังกล่าวทั้งหมดตนเองมองว่าไม่สมควรตั้งแต่แรกที่โกบอยจะเข้าไปบันทึกเทป แล้วมีการพูดคุยกับทอยทอย เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเล่าเหตุการณ์เหตุการณ์ในอดีตที่ครอบครัวยากจะลืมเลือนได้ ทุกวันนี้ภาพจำทั้งหมดยังอยู่ครบ และครอบครัวพยายามที่จะลืม แล้วกลับมาใช้ชีวิตอยู่ต่อ แล้วทำให้คนที่เหลืออยู่โดยเฉพาะพ่อและแม่จำภาพเหล่านั้น แต่การเข้าไปสัมภาษณ์ของโกบอย เป็นการรื้อฟื้นความทรงจำทำให้ครอบครัวต้องกลับมาเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่ผ่านไปอีกครั้ง

ส่วนกรณีการออกมาให้สัมภาษณ์ของทอยทอย ตนเองคงไม่อยากไปพาดพิงอะไรถึงใคร แต่เชื่อว่าการที่ออกมาพูดถึงเรื่องราวดังกล่าว มีส่วนที่เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน และสิ่งที่เขาพูดเป็นข้อเท็จจริงมากเพียง เพราะอย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ หลังเกิดเรื่องเจ้าตัวก็มีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อทำนองว่าอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า รวมทั้งอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล ก็มีการพูดถึงเหตุการณ์อื่นก่อเหตุโดยไม่มีสติ และวันที่ศาลตัดสินในศาลชั้นต้นก่อนมีคำพิพากษาจำคุก 10 ปี ในข้อหาเจตนาฆ่าคนตาย เจ้าตัวยอมรับผิดต่อการกระทำทั้งหมด จนกระทั่งโกบอยเข้าไปสัมภาษณ์อีกครั้ง เจ้าตัวกลับอ้างว่ามีการต่อสู้และเล่าเรื่องราวอื่นเป็นฉากๆ ดังนั้น ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งขึ้นศาลและรวมถึงโกบอยเข้าไปสัมภาษณ์ ไม่มีอะไรที่ตรงกันเลย ตนเองจึงบอกว่าแล้วข้อเท็จจริงมันคือเรื่องไหนกันแน่

และที่สำคัญการที่โกบอยเข้าไปบันทึกเทปแล้วเข้าไปนั่งพูดคุยกับผู้ต้องขัง โดยมีการเล่าเรื่องราวหรือพูดถึงเรื่องเหตุการณ์ในอดีต แล้วเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังมีโอกาสพูดจนกระทั่งไปกระทบผู้อื่น หรือกระทบสภาพจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสียอย่างครอบครัวของตนเอง ส่วนตัวถามถึงโกบอยว่ามีเจตนาทำเพื่ออะไร และทำไมถึงเปิดโอกาสให้คนที่เป็นผู้ต้องหา ออกมาเล่าเรื่องราวจนกระทั่งสังคมและครอบครัวกลับมาเจ็บปวดอีกครั้งแทนที่จะลืมเลือนไปได้

พร้อมกับตั้งคำถามเกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์และเรือนจำ เกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้มีบุคคลเข้าไปบันทึกเทปหรือพูดคุยกับผู้ต้องขัง แล้วไม่ผ่านการคัดกรองหรือการสกรีนเทปการสัมภาษณ์จนนำไปสู่การลงสู่โซเชียลออนไลน์ แล้วทำให้ครอบครัวต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้อีกครั้ง อยากรู้ว่าเจตนาทั้งหมดทำไปเพื่ออะไร และแม้ว่าจะออกมาชี้แจงหรือจะมีบทลงโทษก็ตาม ครอบครัวก็ยังไม่ทราบถึงเจตนาว่าคนเหล่านี้ทำเพื่ออะไรกันแน่ แต่สิ่งที่อยากจะขอร้องวันนี้ คือไม่อยากให้ภาพจำเก่าหรือเหตุการณ์ที่แสนเจ็บปวด มันกลับมาวนอยู่ในหัวหรือกลับตอกย้ำคนในครอบครัวอีกครั้ง เพราะทุกคนพยายามที่จะลืมแล้วใช้ชีวิตต่อ

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องเข้าใจว่า โกบอยได้ลบคลิปและทักข้อความมาขอโทษกับทางครอบครัว ส่วนตัวแม้ว่าจะตอบกลับไปว่าไม่เป็นไร เพราะถือว่ามีการลบคลิปแล้ว เบื้องต้นคำว่าไม่เป็นไรก็คือการให้อภัยแต่ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว และคลิปดังกล่าวก็มีการนำไปเผยแพร่จนกระทั่งมีการตอกย้ำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่พาดพิงถึงบุคคลอื่นหรือแม้กระทั่งคนตาย แต่ทั้งนี้การลบคลิปหรือต้นฉบับ ก็ถือว่าทำให้ครอบครัวเบาใจได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่หลังจากนี้หากจะเข้ามาพบเจอหรือขอโทษด้วยตนเอง ส่วนตัวก็ยังขอปฏิเสธ เพราะไม่มีใครทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ยิ่งต้องมาเผชิญหน้ายิ่งต้องเจอภาพจำเก่ายิ่งขึ้นอีก

ขณะที่ เพจ “โกบอยครัช” ได้โพสต์ชี้แจงพร้อมกับขอโทษ ระบุว่า "จากในกรณีที่ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ผู้ต้องขังทอยทอย ธนภัทร ผ่านรายการเพื่อนข้างใน ในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ทำให้มีผลกระทบต่อทางครอบครัวผู้เสียชีวิตและยังส่งผลกระทบต่อกรมราชทัณฑ์รวมถึงท่านผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรี ทางทีมงานและตัวกระผมเองไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้ทำการลบคลิปและติดต่อประสานขอโทษและพูดคุยกับทางครอบครัวผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในทั้งนี้ต้องกราบขอโทษญาติผู้เสียหายและกรมราชทัณฑ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน มา ณ ที่นี้ด้วย. อย่างไรก็ตามขอนำเรียนให้ทุกท่านทราบว่า เจตนาของการผลิตสื่อรายการเพื่อนข้างในที่ผ่านมา เราเพียงต้องการเป็นสื่อกลางในการนำเสนอให้กับผู้ที่กระทำผิด และเตือนสติต่อสังคมเพื่อเป็นข้อคิดในการดำเนินชีวิต โดยทางเพจมีความตั้งใจที่จะทำสื่อในเชิงสร้างสรรค์… หลังจากนี้ทางกระผมและทีมงานจะมีความไตร่ตรองละเอียดรอบคอบในการผลิตและนำเสนอสื่อให้มากขึ้น และจะคำนึงต่อทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โกบอยครัช นายธนวัตฒ์ ชาวสมุทร"

โดยโกบอย เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 หลังปรากฏเป็นข่าวว่า ตนเองคือบุคคลที่มีโอกาสเข้าไปทำกิจกรรม มีการสัมภาษณ์ผู้ต้องขังและอดีตผู้ต้องขัง รวมทั้งได้มีการจัดกิจกรรมมอบของต่างๆ ให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำหลายแห่ง จนกระทั่งได้มีโอกาสไปที่เรือนจำมีนบุรี และได้ไปเจอกับอดีตดาราที่เกี่ยวข้องกับคดีแทงแฟนสาวตายอย่างทอยทอย ซึ่งในตอนนั้นที่เจอกันจำได้ว่าเป็นช่วงหลังเกิดเหตุแรกๆ ตัวของทอยทอย ได้เดินเข้ามาแนะนำตัวและได้เข้ามาพูดคุยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเอง แล้วเข้ามาเสนอตัวเพื่อที่จะขอเล่าเรื่องราวเหมือนเช่นคดีอื่นหรือผู้ต้องขังคนอื่นที่ได้มีโอกาสนั้นๆ แต่ด้วยช่วงแรกที่ทอยทอยเพิ่งเข้ารับโทษในเรือนจำ แล้วคดีคดียังไม่สิ้นสุด ทำให้ตนเองจึงไม่สามารถที่จะมีการบันทึกเทปหรือเข้าไปพูดคุยกับทอยทอยได้เหมือนเช่นคดีอื่นหรือคนอื่น จึงได้แต่รับฟัง

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ปรากฏว่าคดีของทอยทอยถึงที่สิ้นสุด โดยเจ้าตัวได้ให้การรับสารภาพจนกระทั่งศาลมีคำสั่งจำคุกในคดีฆ่าผู้อื่น เข้าใจว่าถูกศาลสั่งจำคุกประมาณ 10 ปี ตนเองเห็นว่าตามเงื่อนไขที่คดีของผู้ต้องขังถึงที่สิ้นสุดจึงได้มีการเปิดโอกาส ให้ตัวของทอยทอยได้ออกมาเล่าเรื่องราวเพื่อสะท้อนและเป็นอุทาหรณ์ รวมทั้งให้สังคมได้เห็นเกี่ยวกับการกระทำผิดที่สำนึกผิด แล้วเป็นบทเรียนเหมือนเช่นกับการสัมภาษณ์ครั้งอื่นของผู้ต้องขังรายอื่น จึงได้มีโอกาสเข้าไปบันทึกเทปดังกล่าว

และภายหลังบันทึกเทปเสร็จสิ้นแล้ว ตนเองก็มีการตรวจสอบเนื้อหา แต่ไม่ได้มีการตัดทอนหรือตัดเนื้อหาใดทิ้ง ซึ่งปล่อยให้ตัวของทอยทอยได้มีการเล่าเรื่องราวทั้งหมด จนกระทั่งไปพาดพิงถึงอดีตแฟนสาวที่เสียชีวิต รวมทั้งมีการพูดถึงพฤติกรรมการก่อเหตุ และด้วยเนื้อหาดังกล่าวตนเองก็ยอมรับผิดอีกเรื่อง คือการไม่ได้มีการส่งให้กับกรมราชทัณฑ์หรือทางเรือนจำตรวจเหมือนเช่นเทปอื่น เรื่องนี้ตนเองจึงยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เพราะถือว่าไม่ได้มีการส่งตรวจเหมือนเช่นเทปอื่นแล้วมีการตัดเอาเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกจึงทำให้เกิดประเด็นขึ้น

และการกระทำที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่วนตัวจะน้อมรับและเป็นบทเรียนเกี่ยวกับการบันทึกเทปหรือการสัมภาษณ์ครั้งต่อไป ซึ่งจะมีการควบคุมและการตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมทั้งจะมีการส่งตรวจทุกครั้งทุกครั้ง และการกระทำครั้งนี้ตนเองอยากจะฝากขอโทษไปยังผู้บัญชาการเรือนจำมีนบุรีที่ได้รับผลกระทบต่อการกระทำของตนเอง และฝากขอโทษไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอโทษไปยังครอบครัวคนตาย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือถูกพาดพิงทั้งหมด และยังฝากขอโทษไปยังผู้ที่ให้กำลังใจหรือฝ่ายที่ออกมาแสดงความคิดเห็น เรื่องทั้งหมดตนเองก็ยังขอน้อมรับต่อการกระทำผิดทั้งหมดเช่นเดียวกัน ส่วนหลังจากนี้ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นตนเองก็พร้อมน้อมรับ