เด็ก 14 ปี แอบลักปืน 11 มม. ของตาซึ่งเป็นอดีต ตชด. มาอวดเพื่อน พลาดลั่นใส่เพื่อนดับ 1 ราย กลุ่มเพื่อนโทรแจ้ง 1669 บอกโดนระเบิดปิงปอง

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 ร.ต.อ.ชนวีร์ ชุมจุล รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุเด็กชายวัย 14 ปีถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพสมาคมกู้ชีพรวมใจย่านตาขาว ได้นำตัวส่งไป รพ.ย่านตาขาว ก่อนหน้าแล้ว หลังรับแจ้งจึงรุดเดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ ที่บ้านในเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น โดยบนพื้นชั้นล่างพบกองเลือดหยดผ่านพื้นไม้ลงมาจากชั้น 2 จำนวนหนึ่ง ขึ้นไปบนชั้น 2 บริเวณโถงติดกับบันไดและติดกับห้องนอน พบคราบเลือดถูกเช็ดแล้วติดอยู่บนพื้นไม้ ใกล้กันพบกระเป๋าสะพาย ด้านในมีอาวุธปืนชนิดออโตเมติค ขนาด 11 มม. ขนาดตัวปืนยาว 4.5 นิ้ว ยี่ห้อโคลท์ 1 กระบอก ภายในรังเพลิงมีเครื่องกระสุนปืนขนาด .45 พร้อมใช้งานบรรจุอยู่ 1 นัด พบแม็กกาซีน 1 อันถูกถอดแยกกันอยู่กับตัวปืน และในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด .45 (หัวระเบิด) ตกอยู่ 1 ปลอก และยังพบหัวกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่อีก 1 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้บนฝาผนังปูนบริเวณจุดเกิดเหตุพบร่องรอยคมกระสุนเจาะเข้าฝาอีก 1 รอย ถัดออกไปบนระเบียงหลังติดกับจุดเกิดเหตุพบผ้าเช็ดเลือดอีกจำนวน 1 ผืน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนร่างของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปชันสูตรพลิกศพที่ รพ.ย่านตาขาว ทราบชื่อคือ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ชาว ต.ย่านตาขาว จ.ตรัง นักเรียนระดับชั้น ม. 2 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ถูกกระสุนปืนขนาด .45 ยิงเข้าบริเวณแผ่นหลังทะลุหน้าอกซ้ายเสียชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต อายุ 14 ปีเท่ากัน และศึกษาอยู่ระดับชั้น ม.2 เช่นกัน ก่อนที่กำลังตำรวจชุดสืบสวนจะไปตามตัวนำมาสอบปากคำพร้อมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ

สอบถาม พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุเด็กๆ ทั้งหมดซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน และยังอยู่ในวัยเรียนทั้งหมด ได้นัดกันตามปกติ เพื่อมานั่งพบปะพูดคุยกันที่ชั้น 2 ของบ้านหลังเกิดเหตุ จำนวน 4 คน ซึ่งเป็นบ้านของเพื่อน 1 ใน 4 คนดังกล่าว โดยที่ 1 ใน 4 ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้นำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว ซึ่งเป็นของคุณตาที่เป็นตำรวจเกษียณอายุราชการในพื้นที่ จ.พัทลุง โดยที่ผู้ก่อเหตุได้ลักขโมยมาเป็นระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาขณะที่ทางครอบครัวนำผู้ก่อเหตุไปเยี่ยมคุณตา ที่บ้านพัก ใน จ.พัทลุง แล้วแอบซ่อนไว้ ส่วนทางคุณตาได้ไปแจ้งความอาวุธปืนสูญหายไว้แล้วในพื้นที่ จ.พัทลุง

ซึ่งตอนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวมาเล่น ปรากฏว่าปืนได้ลั่นใส่เพื่อนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยที่กลุ่มเพื่อนได้โทรแจ้ง 1669 ว่าถูกประทัดระเบิดใส่ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพมารับตัวเพื่อนที่ถูกยิงส่งโรงพยาบาล ทางผู้ก่อเหตุและกลุ่มเพื่อนที่เหลือได้หลบหนีออกจากบ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปนำตัวมาสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ โดยที่ผู้ก่อเหตุและกลุ่มเพื่อนยังอยู่ในอาการตกใจ รับสารภาพว่าทำปืนลั่น ไม่มีมูลเหตุหรือสาเหตุโกรธเคืองใดๆ กันมาก่อน และด้วยความตกใจได้ใช้ผ้าเช็ดเลือด

ขณะที่ นายอนุรักษ์ จันทร์คง หรือยาว เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพสมาคมกู้ชีพรวมใจย่านตาขาว กล่าวด้วยว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการนเรนทรตรัง ให้ออกรับผู้บาดเจ็บเด็กวัยรุ่นเล่นประทัดปิงปองระเบิดใส่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กชายอายุ 14 ปี 1 ราย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบเด็กชายผู้ชายจำนวน 3 คน อยู่ในอาการตกใจ พร้อมทั้งสอบถามว่าผู้บาดเจ็บโดนอะไร ทางเด็กๆ บอกว่าถูกลูกประทัดระเบิดใส่ แต่เท่าที่ตนสังเกตขณะนั้นบาดแผลคล้ายกับถูกอาวุธปืน ซึ่งขณะนั้นผู้บาดเจ็บนอนแน่นิ่งจับชีพจรไม่ได้แล้ว จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำส่ง รพ.ย่านตาขาว

ด้านนายวิรัตน์ อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งขายของอยู่ชั้น 1 ของบ้าน เตรียมที่จะปิดร้านกลับบ้าน แต่จังหวะนั้นได้ยินเสียงดังสนั่นขึ้น 1 นัด และตามมาด้วยเสียงร้องของเด็ก แต่ตนไม่ได้เอะใจว่าจะเป็นเสียงปืน เพราะมีคนงานก่อสร้างมาทำกำแพงอยู่ข้างบ้าน คิดว่าเป็นเสียงตีของช่างก่อสร้าง ประกอบกับตนเปิดทีวีอยู่ด้วย และกลุ่มเด็กๆ มักจะเล่นและร้องกันเช่นนี้บ่อยครั้ง ซึ่งก่อนจะได้ยินเสียงก็เห็นว่าเพื่อนๆ ของหลานชายประมาณ 3-4 คน ได้เดินขึ้นมาบนบ้านตามปกติ เพราะมักจะมานั่งรวมกลุ่มกันบ่อยครั้ง ปกติตนเห็นหน้าและรู้จักกับเด็กที่เสียชีวิตเพราะเป็นเพื่อนของหลานชาย มักจะมาที่บ้านนี้เป็นประจำทุกวัน ที่ผ่านมาไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าเด็กที่มาเล่นที่บ้านกับหลานชายมีอาวุธปืนติดตัว แต่ทราบและได้ยินมาตลอดว่ามักจะชอบเล่นประทัดและระเบิดปิงปองจนเสียงดังสนั่นมาแล้วหลายครั้ง และตนก็ตักเตือนอยู่ตลอดว่าอย่ามามั่วสุมและส่งเสียงดังกัน จนมาทราบภายหลังว่า เพื่อนของหลานได้นำมาอาวุธปืนมาเล่นที่บ้าน และลั่นใส่เพื่อนอีกคนที่มานั่งอยู่ด้วย

ส่วนนายสมชาย อายุ 74 ปี เล่าว่า บ้านตนอยู่ห่างกับบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 30 เมตร ตอนเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังสนั่น 1 นัด จนมาทราบข่าวตอนที่ตำรวจมาแล้ว ที่ผ่านมาเห็นว่าเด็กพวกนี้เล่นกันเป็นประจำ และมารวมตัวกันทุกวันนับ 10 คน ส่งเสียงดังกันทั้งกลางวันและกลางคืน

เบื้องต้น ตร.ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุ 1 ราย ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และพรบ.อาวุธปืน พร้อมกับจะนำตัวไปฝากขังที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ตรัง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป