จากกรณีสุนัขโดนฆ่าอย่างทารุณด้วยการโดนชายคนหนึ่งตี แม้ว่าลุกเดินหนีแล้วยังถูกไม้ตีซ้ำจนสิ้นใจคาที่ เหตุเกิดที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในเขตสภ. เมืองระยอง นั้น

 

ล่าสุด ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ลงพื้นที่ไปยังร้านตามกล้องวงจรปิด ที่พบชายที่ตีหมาจนเสียชีวิต โดยตำรวจได้ไปสอบถาม ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ รวมถึงเจ้าของที่ดิน แปลงดังกล่าว โดยบอกกับตำรวจว่าคนที่ก่อเหตุตีหมาตามกล้องวงจรปิดนั้น คือนายน็อค ลูกจ้างของร้านขายผลไม้ที่อยู่ด้านข้าง หลังจากตีหมาจนตายแล้วนำไปฝังไว้บริเวณด้านหลังบ้าน

 

ตำรวจจึงลงพื้นที่ไปดูบริเวณป่าด้านหลังบ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งยังมีร่องรอยของการฝังกลบ ป้าเจ้าของพื้นที่ยืนยันว่าบริเวณจุดนี้เป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุและเจ้าของร้านขายผลไม้ด้านข้างเป็นคนนำร่างของหมาตัวดังกล่าวมาฝังไว้

 

นอกจากนั้นตำรวจยังเรียกบุคคลที่รู้จักกับนายน็อคมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับนายน็อค ผู้ก่อเหตุ

 

ด้านการดำเนินคดี ทางตำรวจจะดำเนินคดีในข้อหาทารุณกรรมสัตว์กับทางนายน็อค ผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่น บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ด้านสายทอง ชาวบ้านที่เช่าบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ นำลูกสาววัย 11 ขวบพร้อมเปิดแผลเย็บห้าเข็มที่เกิดขึ้นจากการโดนหมากัดให้กับทีมข่าวของเราดู  ซึ่งแผลดังกล่าวนั้นเป็นครั้งที่สองแล้วที่ถูกหมาตัวดังกล่าวกัด ก่อนหน้านี้เคยโดนกัดไปแล้วครั้งนึงเป็นแผลฟกช้ำแตกก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก

 

ส่วนลูกสาวอีกคนนึงวัยห้าขวบโดนกัดไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เพราะออกมาเดินเล่นหน้าบ้านโดยที่ไม่เห็นว่ามีหมาอยู่ ก็ถูกหมากัดเช่นกัน โดยหมากระโจมเข้ากัดจากด้านหลังจนทำให้น้อง ล้มลงหน้าทิ่มกับพื้น

 

ยอมรับ ว่า โกรธ ที่ ลูกสาว โดนหมากัดหลายครั้ง จึงพยายามหาวิธีจัดการอยู่ แต่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการที่นายน็อคไปตีหมาจนตายแบบนี้

 

ส่วนวิธีการที่ไปตีหมาแบบนี้ยอมรับว่าในฐานะแม่ที่ลูกสาวถูกหมากัดหลายครั้งก็เห็นด้วยอยากให้จัดการกับหมาตัวนี้ ถ้าปล่อยไปก็จะยิ่งมีคนถูกหมากัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

ด้านเจ๊อ้อย เจ้าของร้านขายผลไม้ที่อยู่บริเวณด้านข้าง ยอมรับว่า นายน็อค คือลูกน้องของตัวเองและเป็นคนสนิทกัน จึงพูดคุยกันว่าจะหาทางจัดการกับหมาตัวนี้ นายน็อคจึงเข้าไปจัดการด้วยการตีจนตาย

 

เจ๊อ้อยบอกว่าหมาตัวนี้มันเป็นหมาบ้า ใครก็เอาไม่อยู่แล้ว ปล่อยไว้จะเป็นอันตรายกับทุกคน ยืนยันว่าไม่ได้มีการว่าจ้างให้ไปตีหมา แต่มีการพูดคุยกันในฐานะคนสนิทว่าจะต้องหาทางจัดการกับหมาตัวนี้

 

ด้าน นางสาวศิริภา อายุ 33 ปี แม่ค้าร้านขายไอศกรีม ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ติดกับร้านที่เกิดเหตุ เปิดแผลให้กับทีมข่าวเราดู ว่าตัวเองเป็นคนล่าสุดที่โดนหมากัดเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกตีตายเมื่อวันอาทิตย์ที่แปดตุลาคมที่ผ่านมา


ตอนขายของอยู่ก็เลยนั้นก็ทราบดีว่าหมาตัวนี้ค่อนข้างดุตอนนั้นตัวเองเอาจานข้าวไปคืนร้านพี่หมานี่นอนอยู่ปรากฏว่าเดินผ่านไปหมาก็ลุกขึ้นมากัดโชคดีที่ไม่ได้เป็นอันตรายมาก

 

แต่โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่นายน็อคกอาไม้ไปตีจนหมาตาย เพราะรู้สึกสงสารหมา แต่ก็อยากให้จัดการกับหมาตัวนี้เพราะจะต้องอยู่อย่างระแวงกลัวโดนหมัดกัดจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาหมาตัวนี้ไปปล่อยที่อื่นมากกว่าที่จะมาตีจนตาย

 

ป้าติ้ด นางบังอร เจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวซึ่งให้ร้านต่างๆเช่า พื้นที่ติดริมถนนในการเปิดร้านขายของ เราพิมพ์เขาเราฟังว่าหมาตัวนี้เป็นหมาจรจัดที่แอมมาอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณร้านขายอาหารได้ประมาณ 2 ปี แล้ว

 

ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า หมาตัวดังกล่าว เป็นอันตรายกับคนที่อยู่บริเวณโดยรอบ เพราะเป็นหมาที่ดุและมักชอบกับคนอื่น แม้กระทั่งตัวเองเป็นเจ้าของพื้นที่เดินออกมาจากบ้านก็จะต้องถือไม้ เดินระวังไว้ เนื่องจากว่าหมาตัวนี้ก็เคยกับป้าติ้ดแล้วเหมือนกัน คนที่อยู่แถวนี้หลายคนก็โดนหมาตัวนี้กัดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คนโดยเฉพาะเด็กเด็ก ก็เลยอยากจะให้จัดการกับหมาตัวนี้เหมือนกันแต่ก็ไม่กล้าทำ

 

ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่ามีการรวมเงินกันเพื่อจ้างนายน็อคให้มาตีหมาตัวนี้ ป้าติ๊ดอ้างว่าไม่รู้เรื่อง ก่อนหน้านี้ก็เคยแจ้งเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีใครมาสนใจ ทางร้านค้าจึงช่วยกันวางยาสลบแล้วไปปล่อยที่อื่นสุดท้าย หมาก็กลับมาอีกครั้ง

 

ด้านนายน็อค อธิบายถึงสาเหตุที่ต้องจัดการหมา เพราะว่าต้องปกป้องคนรอบข้างที่โดนหมาตัวนี้กัด โดยก่อนตีตนได้แจ้งเจ้าของคลิปแล้ว เขาก็ตอบกลับว่าทำได้เลยไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่หมาของเขา แต่พอหลังจากเกิดเหตุ เขากลับเอาคลิปดังกล่าวไปแจ้งความ เหตุผลที่ตนทำเพราะหมกัดเด็ก กัดคน กัดเจ้าของบ้านด้วย เท่าที่รู้คือ 4-5 คน แต่ไม่เคยมีใครยอมรับว่าเป็นเจ้าของหมา