ภรรยาวัย 39 ปี วอนนายกฯ และเจ้าหน้าที่ช่วย หลังติดต่อสามีในอิสราเอลไม่ได้ พบภาพชายถูกจับมีรอยสักที่หัวไหล่เหมือนสามี

วันที่ 8 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านซำตาวัน ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้มอบหมายให้ น.ส.อัจฉรา สกุลศักดิ์ถาวร ปลัดอาวุโสอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมทีมแพทย์ รพ.กันทรลักษ์ ร่วมกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของนายโอวาส สุริยะศรี อายุ 40 ปี แรงงานไทยที่อิสราเอล หลังถูกควบคุมตัวจากการสงครามระหว่างกลุ่มฮามาส โจมตีอิสราเอล เมื่อช่วงวานนี้ (7 ต.ค. 66) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งที่บ้านหลังดังกล่าวได้พบกับ น.ส.กัญญารัตน์ สุริยะศรี อายุ 39 ปี ภรรยาของนายโอวาส กำลังนั่งติดตามข่าวสารของสามีจากสื่อต่างๆ อย่างใกล้ชิต โดยมีญาติพี่น้องแห่ให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม เพื่อขอให้ปลอดภัย

น.ส.กัญญารัตน์ เล่าว่า ตนและสามี คือนายโอวาส แต่งงานมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นลูกชายทั้งคู่ คนโต อายุ 15 ปี คนเล็กอายุ 13 ปี ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำสวน ต่อมาสามีได้ติดต่อหางานทำที่ต่างประเทศกับกระทรวงแรงงานถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ครั้งแรกไปทำงานที่ประเทศเกาหลี สัญญา 5 ปี และเมื่อครบสัญญาก็กลับมาอยู่บ้านดังเดิม จากนั้นเมื่อช่วงวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล กับนายจ้าง เป็นแรงงานทำสวนผักและผลไม้ โดยผ่านกระทรวงแรงงานเช่นเดิม สัญญา 5 ปี ปัจจุบันทำงานผ่านมาแล้ว 2 ปี 2 เดือน

ซึ่งปกติทุกวันตนจะคุยผ่านแชตเฟซบุ๊กสอบถามความเป็นอยู่กันเป็นประจำ ล่าสุดเมื่อช่วงสายวานนี้ (7 ต.ค. 66) สามีตนได้ทักแชตมาบอกตนว่า “ยิงกันแล้ว” ซึ่งเป็นข้อความสุดท้าย จากนั้นตนพยายามโทรหา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย กระทั่งมาทราบจากสื่อต่างๆ ว่าเกิดสงครามยิงกัน จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตและถูกจับเป็นตัวประกันเป็นจำนวนมาก ตนจึงรู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก จนแทบเป็นลม ได้แต่รอฟังข่าวจากทางราชการและจากสื่อต่างๆ

ต่อมาได้มีญาติของสามีตนที่ทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ได้ส่งภาพถ่ายเหตุการณ์ชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารไม่ทราบฝ่าย พร้อมอาวุธปืนจำนวน 2 คน ยืนคุมบังคับให้สามีตนพร้อมกับคนอื่นๆ อีกรวม 4 คน ถอดเสื้อนอนหมอบลงกับพื้น ซึ่งตามภาพปรากฏรูปของสามีตน คือ ชายคนแรกจากฝั่งขวามือ มีรอยสักที่หัวไหล่ของแขนทั้งสองข้าง และแผ่นหลัง ซึ่งตนยืนยันว่า คือ สามีตน ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ก็เคยมีเกิดขึ้น แต่ก็ไม่รุนแรงถึงขนาดนี้ ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมาก สาเหตุที่สามีต้องไปทำงานต่างประเทศก็เพื่ออยากจะหาเงินเก็บไว้ให้ลูกเรียนหนังสือ และนำมาเป็นทุนทำไร่ ทำสวน ทำการเกษตร และเป็นทุนปลูกทุเรียนภูเขาไฟ เพราะงานที่ต่างประเทศสามารถหาเงินได้เร็วกว่าบ้านเรา และถ้าหากกลับมาครั้งนี้ ตนจะไม่ให้สามีตนไปทำงานต่างประเทศอีกแล้ว

ตอนนี้ยอมรับว่าเป็นห่วงมาก คิดไปต่างๆ นานา เกรงว่าจะได้รับอันตราย ตอนนี้ไม่อยากคิดไปไกล เพราะกลัวจะเสียกำลังใจ ได้แต่คิดว่าเขาคงปลอดภัย ซึ่งตนได้ไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกที่ เพื่อบนบานสานกล่าวให้เขากลับมาปลอดภัย และอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือคนไทยและแรงงานไม่ว่าจะเป็นชาติใดที่ตกชะตากรรมเดียวกันกับสามีตนนี้ ขอให้ทุกคนปลอดภัยและโดนปล่อยตัว ตอนนี้ตนคิดว่าสามีตนคงแค่โดนจับเป็นตัวประกัน เพราะมีรูปถ่ายส่งมายืนยัน และขอให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลช่วยเหลือให้คนไทยรอดพ้นจากอันตราย และพากลับบ้านอย่างปลอดภัยทุกคน ไม่เพียงเฉพาะสามีตน แต่ขอให้คนไทยทุกคนปลอดภัย