เมื่อเวลา 20.00 น. (23 ก.ย.66) ร.ต.อ.อนันท์ ศรีเสน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ ชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ บนถนนสายสระประดู่-ทุ่งแสงทอง ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง แล้วเกิดไฟลุกไหม้รถทั้ง 2 คัน

จากการตรวจสอบพบท้ายรถกระบะคันที่ถูกไฟไหม้ มีศพเด็กเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือเด็กหญิงกัญญาพร หรือน้องเฟญ่า วัย 4 ขวบ ห่างจากรถกระบะพบประมาณ 10 เมตร พบร่างนางสาวประภาพร หรือฟ้า อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่ รพ.สต.แห่งหนึ่งในอำเภอนางรอง และห่างออกไปอีกราว 20 เมตร พบร่างนายอานนท์ อายุ 25 ปี จากการสอบถามทราบว่าทั้ง 3 คนที่เสียชีวิตผู้ชายเป็นพ่อเลี้ยงหรือสามีใหม่ ส่วนผู้หญิงกับเด็กเป็นแม่ลูกกัน

ขณะที่ คนขับรถกระบะ ทราบชื่อคือ ด.ต.ขวัญชัย อดีตตำรวจนางรองที่เกษียณอายุราชการแล้ว ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ได้ถูกนำตัวส่ง รพ.นางรองแล้ว

ล่าสุดญาติผู้เสียชีวิต ได้นิมนต์พระสงฆ์ มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของทั้ง 3 กลับบ้านตามประเพณี บริเวณที่เกิดเหตุที่ถนนสายสระประดู่-ทุ่งแสงทอง ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลดใจของญาติผู้เสียชีวิต

โดยมีนางสุมาลี อายุ 52ปี ลูกสาว ด.ต.ขวัญชัย อดีตตำรวจ สภ.นางรอง ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ ตามมาขอโทษและแสดงความเสียใจอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นทีมข่าวช่อง8 ได้เดินทางมายังวัดบ้านชุมแสง ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ สถานที่ที่บำเพ็ญกุศลศพนางฟ้า ประภาพร อายุ 22 ปี และเด็กหญิงกัญญาพร หรือน้องเฟญ่า วัย 4 ขวบ ส่วนนายเอ็ม อานนท์ อายุ 25 ปี สามีที่เสียชีวิต ญาติรับร่างกลับไปทำพิธีที่ อ.บ้านกรวด​ บ้านเกิดต่อไป

โดยบรรยากาศที่วัดบ้านชุมแสงเป็นไปอย่างเศร้าสลด ชาวบ้านและญาติของผู้เสียชีวิตร้องไห้และเป็นลมกันไปเลยเพราะต่างก็ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยขณะที่ทีมข่าวมาถึงวัด นางสุมาลี อายุ 52 ปี ลูกสาวของผู้ก่อเหตุ เดินทางมาขอขมาศพของผู้เสียชีวิตแทนพ่อ โดยเมื่อนางสุมาลีเข้ามาหาญาติของผู้เสียชีวิต ก็ได้ก้มกราบญาติคือนางฝน สุพัทรตา อายุ 38 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต และนางอุศา อายุ 58 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งนางฝนก็ได้บอกกับนางสุมาลีไปว่า พ่อพี่พรากทั้งดวงตาและดวงใจหนูไปพี่รู้ไหม ทำไมพ่อพี่ไม่หยุดอยู่ตรงนั้น ถ้าชนแล้วหยุดน้องหนูก็ไม่ตายแบบนี้ จากนั้นนางสุมาลีก็ได้แต่ไหว้และร้องไห้ขอให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตอโหสิกรรมให้กับพ่อของตน

มาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายป๋อง วโนดม อายุ 54 ปี เป็นน้าของนางฟ้า และเป็นตาของน้องเฟญ่า ผู้เสียชีวิต โดยนายป๋อง กล่าวกับทีมข่าวช่อง8 ว่า ติดใจเรื่องของการขับรถประมาทของผู้ขับขี่ เพราะเมื่อช่วงเช้าตนนั้นก็ไปที่เกิดพร้อมกับตำรวจและลูกสาวของผู้ก่อเหตุ ก็เห็นว่าร่องรอยการเบรกของล้อข้ามเลนมาไกล และยังขับต่อไปอีก 63 เมตร กว่าจะหยุดรถ

ส่วนเรื่องที่เล่าต่อกันมาว่าถนนเส้นดังกล่าวนั้นเป็นถนนกินคน มีคนมาเสียชีวิตตรงจุดเกิดเหตุมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ตนก็มองว่าแล้วแต่คนจะเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าวิญญาณมีจริง อาจจะขอส่วนบุญอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุและเมื่อวิญญาณเหล่านี้เห็นหลานตนซึ่งอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมา จึงต้องมาจบชีวิตตรงถนนแห่งนี้ อีกทั้งเรื่องทางคดีตนก็อยากให้เข้ามาพูดคุยกันว่าทางพี่สาว(แม่ของคนเสียชีวิต) จะได้รับค่าเยียวยาเท่าไหร่ ส่วนเรื่องประเด็นการตรวจสอบว่าคนขับรถกระบะนั้นเมาแล้วขับหรือไม่ ตนก็ข้องใจพอสมควรเนื่องจากในที่เกิดทำไมไม่เป่าแอลกอฮอล์ และต้องตรวจเลือดซึ่งใช้เวลาในการตรวจสอบแอลกอฮอล์ในเลือดนานมากเป็นเดือนกว่าผลจะออก

ล่าสุดทีมข่าวช่อง8 ได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุบนถนนสายสระประดู่-ทุ่งแสงทอง ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง ซึ่งจุดเกิดเหตุนั้นอยู่ห่างจากบ้านผู้เสียชีวิตแค่ 1 กม.เท่านั้น ซึ่งที่เกิดเหตุนั้นมีร่องรอยของการเบรกอยู่และชิ้นส่วนของรถมอเตอร์ไซค์กระจัดกระจายอยู่บนถนน สันนิษฐานได้ว่าในตอนเกิดเหตุนั้นคนขับกระบะได้ขับมาอย่างรวดเร็วและหักรถข้ามเลนมาชนกับรถมอเตอร์ไซค์ของผู้เสียชีวิตที่อยู่อีกเลนตรงข้าม จากนั้นคนขับกระบะก็พยายามหักรถเข้าเลนตัวเองพร้อมกับขับลากรถของผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ใต้ท้องรถกระบะไปอีก 63 เมตร จนเกิดเพลิงลุกไหม้

ขณะเดียวกันนางสุมาลี ลูกสาวของผู้ก่อเหตุก็ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนนั้นยังไม่ได้พูดคุยกับพ่อเลยตั้งแต่เกิดเหตุ และตนมาที่งานศพนั้นเพื่อมาแบ่งเบาดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตเบื้องต้น และยืนยันว่าจะดูแลชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมด ส่วนพ่อตอนนี้หัวแตกออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่พามาขอขมาไม่ได้เพราะพูดคุยไม่รู้เรื่องเนื่องจากยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถ้าพ่อตนมีสติแล้วก็พร้อมจะให้พ่อไปสอบปากคำและดำเนินการไปตามกฎหมายต่อไป