กรณีเหตุการณ์บ่ายวันนี้รับแจ้งเหตุ มีคนยิงตัวตายอยู่ภายในบ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านย่านลำลูกกา ตรวจสอบพบ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ยิงตัวเองเสียชีวิต ที่บ้านพักย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี นั้น

วินาทีเสียงปืน 2 นัด ผกก.วชิราปิดชีพตัวเอง ก่อนตร.มาถึง 16 นาที

วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวช่องแปด ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่ไกลจากบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 14.01 น. กล้องวงจรปิดได้ยินเสียงปืน 2 นัด

ขณะเดียวกันทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน พบว่าเมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 04.50 น. (เวลาช้า2นาที) พบว่า มีรถแท็กซี่สีชมพู ซึ่งมีพ.ต.อ.วชิรา นั่งโดยสารมากับรถแท็กซี่คันดังกล่าว มาติดต่อขอแลกบัตรที่ป้อมรักษาความปลอดภัยทางเข้า2 โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพแท็กซี่และคนขับเอาไว้ได้ชัดเจน

นอกจากนี้ มีภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน จับภาพได้ต่อเวลาประมาณ 04.51 น. (เวลาช้า2นาที) ซึ่งเห็นรถแท็กซี่สีชมพู ขับเข้าไปส่ง พ.ต.อ.วชิรา ในซอยหลังจากนั้นแท็กซี่ได้มีการจับรถเพื่อออกจากซอย แต่จังหวะดังกล่าวจะสังเกตเห็นว่าตัวของพ.ต.อ.วชิรา ใส่เสื้อยืดสีดำกางเกงสีดำ ปีนรั้วเข้าไปภายในบ้านตัวเองก่อนที่จะรับรายงานว่ามีการก่อเหตุยิงตัวเองตายในเวลาต่อมา

กู้ภัย ยืนยัน พบศพ พ.ต.อ.วชิรา นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณห้องรับแขก ซึ่งอยู่ในบ้านพักคนเดียวเท่านั้นหลังจากมีคนโทรเข้ามาเพื่อให้มาดูที่บ้าน จนกระทั่งพบศพ


อ.ปรเมศวร์เผยประเด็น ผกก.ทางหลวงไม่ใช่การฆ่าตัดตอน เชื่อเป็นปัญหาส่วนตัว ถูกสังคมบีบบังคับหนัก

ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับอาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ในประเด็น การฆ่าตัวตายของผู้กำกับทางหลวงอาจารย์ปรเมศวร์กล่าวกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ไม่ใช่การฆ่าตัดตอนตอนยิงตัวตายคงเป็นปัญหาส่วนตัวของผู้กำกับเอง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจากคดีนี้ไม่ใช่คดีเล็กดูเผินอาจเป็นการฆ่าตำรวจ แต่สถานการณ์ทางสังคมได้บีบบังคับหนัก ตำรวจที่ เกี่ยวข้องนั้นถูกบีบคั้นอย่างหนัก เนื่องจากเพื่อนตำรวจเเละประชาชนทั่วประเทศไทย ประณามว่าไม่ดี ทิ้งเพื่อนตำรวจด้วยกัน และทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ และทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือคนร้าย ทำให้เป็นเรื่องกดดันสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก มันจะลามไปถึงคดีทุจริต ที่สังคมตั้งคำถาม ว่าไปนั่งกันทำอะไร ที่บ้านหลังนั้น ไปกินเลี้ยงกันจะสังเกตได้ว่า ผมไม่ได้โต้แย้งท่านรองโจ๊กที่ว่าไปกินข้าว กับโจรได้หรือคนดีก็ได้เพราะต้องไปหาข่าว แต่กรณีนี้ ไม่ได้กินข้าวโดยทั่วไปมันมีแต่ตำรวจประมาณ 28 นาย เหมือนไปนั่งแสดงให้ผู้ตาย ที่ไม่จะยอมก้มหัวให้ใครโดยกำนันมีพรรคพวกเยอะ แล้วทุกคนก็มองว่า เป็นคนทำ ให้สารวัตรแบงค์เสียชีวิต จึงทำให้เกิดแรงกดดันมาก และทำให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลค่อนข้างเยอะ ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องฆ่าตัดตอน แต่คงรับสถานการณ์ตอนนี้ไม่ไหว

การตาย ของผู้กำกับทางหลวงคิดว่าไม่มีเงื่อนงำ ถึงท่านจะเสียชีวิต แต่คนอื่นยังคงรับโทษเหมือนเดิม เพราะจากที่เราวิเคราะห์ พยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน เซิร์ฟเวอร์ที่ได้มาเท่าที่รู้ ไม่ได้เกิดความเสียหาย เพราะไม่ได้ทิ้งเซิร์ฟเวอร์เฉยๆ มันมีสิ่งหอหุ้มอยู่ หรือป่าว เพราะฉะนั้นพยานที่สำคัญที่สุด อย่างวันนี้ ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน6คน ที่พาผู้เจ็บ หรือผู้ตาย ส่งโรงพยาบาล น่าจะพูดความจริงได้มากขึ้น คนที่อุ้มไปคงไม่ใช่คนที่นั่งโต๊ะอื่น ฉะนั้นต้องอยู่ใกล้ๆ และน่าจะได้ยินอะไรบางอย่าง ซึ่งผมก็คิดว่า ตำรวจวันนี้ที่ถูกจับ ก็จะกู้สถานการณ์ ตำรวจด้วยกันเอง ก็ต้องพูดความจริง ทำความจริงให้ปรากฏ มันถึงจะแก้ไขปัญหาความเชื่อมั่นของประชาชน

การตายของผู้กำกับทางหลวงไม่มีผลต่อรูปคดี ยิ่งท่านตาย ยิ่งแก้ตัวยากมาก คือถ้าเป็นก็สามารถพูดอะไรก็ได้ แต่ท่านคงอึดอัดใจมาก พูดอะไรไปจะเห็นข่าวที่ออกมา เป็นการให้การไม่ตรงกัน ตามความเป็นจริง ตรงนี้เป็นแรงกดดัน ว่าคงเครียด ก็เป็นห่วงตำรวจท่านอื่นๆ อย่าไปเครียดตาม หากทำผิดก็รับผิดตามกระบวนการกฎหมาย เท่านั้นเอง

สาเหตุการตายเกิดจากความเครียดสะสมเเละสู้ไม่ไหว เหมือนตำรวจที่ทุ่งสองห้อง ทำสำนวนไม่ไหวฆ่าตัวตายเป็นวิสัยของตำรวจ พนักงานสอบสวนหลายคน คดีค้างค้าง ก็ยิงตัวตายฆ่าตัวตาย คือความเครียดจากการทำงาน เป็นหลัก

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง8 ได้ภาพแชทสนทนาวันที่ 6 กันยายน วันเกิดเหตุ ระหว่าง ลูกน้องคนหนึ่ง พูดคุยกับสารวัตรสิว(แบงค์) ก่อนเกิดเหตุถูกยิง โดยในแชทระบุว่า “ เรียนนายครับ ผู้กำกับมาถึงบ้านกำนันแล้วครับ” จากนั้นทางสารวัตรสิว ได้ตอบกลับไปว่า “ครับ พี่รอเจ้าเค้กมารับครับ”

 นักอาชญาวิทยา มองประเด็นยิงตัวเองมาจากความเครียด สปิริตความกดกันที่ชวนลูกน้องไป

ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวช่อง 8 มีโอกาสพูดคุยกับ รองศาสตราจารย์ พันตำรวจโท ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงกรณี พ.ต.อ.วชิรา หัวหน้างาน ของสารวัตรแบงค์ ยิงตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพัก ว่า อาจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อความเครียดของ พ.ต.อ.วชิรา ซึ่งผู้บังคับบัญชาของสารวัตรแบงค์ และส่วนที่2 ต้องไปดูภูมิหลัง ว่า พ.ต.อ.วชิรา มีปัญหาโรคประจำตัวอย่างอื่นบ้างหรือไม่อาทิเช่นปัญหาโรคซึมเศร้า และอาจจะต้องทานยาเพื่อควบคุมอาการได้พอมาเจอภาวะเครียดก็อาจจะเกิดขึ้นได้

ส่วนกรณีที่พ.ต.อ.วชิรายิงตัวเองเสียชีวิตอาจมาจากถูกตัดตอนทางคดีไหม หรือมีเงื่อนงำไหม อีกทั้งเจ้าตัวนั้นยังอยู่ในฐานะพยานยังไม่ถูกออกหมายจับเลย อาจยังไม่มีเหตุทำให้เครียดถึงขั้นปิดชีวิตตัวเอง ซึ่งในส่วนนี้ ตนเองมองว่า ถ้าตัดตอนต้องโดนคนอื่นกระทำจนเสียชีวิตแต่กรณีนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขาตัดสินใจปิดชีวิตตัวเอง ซึ่งก็ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย ที่ทำไปอาจจะมาจากภาวะความเครียด

ส่วนจะมีผลต่อรูปคดีไหม ถ้าจะมีการสอบสอบสวนในเชิงลึก ว่า พ.ต.อ.วชิรา ติดต่อกับใครบ้าง ก่อนเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้มันตรวจสอบได้อยู่แล้ว ว่าเชื่อมโยงกับใครบุคคลท่านไหนก่อนหน้านี้ หากสงสัยว่ามีใครสั่งหรือมีใครทำให้ไปกดดันจนต้องตัดสินใจแบบนี้ยังไงก็ต้องตรวจสอบได้
ทั้งนี้อีกปมเหตุที่อาจเป็นแรงจูงใจให้ยิงตัวเองนั้น ตนพอจะเข้าใจวัฒนธรรมตำรวจ และความรู้สึกของนายตำรวจคนหนึ่ง ที่มีการพูดกันก่อนหน้านี้ว่า"พาน้องไปตาย" เพราะมีการพูดคุยกันว่าที่สารวัตรแบงค์ไปงานเพราะพ.ต.อ.วชิราผู้บังคับบัญชาชวนไป ประกอบกับพ.ต.อ.วชิรา ท่านนี้มีสปิริต อาจจะมีความรู้สึกส่วนตัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันย้อนกลับไปไม่ได้แล้วคิดว่าทำไมตอนเกิดเหตุตัวเองไม่ตัดสินใจทำอีกแบบนึง อาจจะจับคนร้ายหรืออะไรความกดดันเหล่านี้ถือพุ่งกลับมาที่ตัวเองประกอบกับมีโรคประจำตัวซึ่งเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้วก็เลยการคิดการตัดสินใจแตกต่างจากคนอื่นเลยตัดสินใจก่อเหตุยิงตัวเองดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.วชิรา เสียชีวิตจะมีผลต่อรูปคดีของสารวัตรแบงค์หรือไม่นั้น ซึ่งต้องบอกว่า ยังมีพยานอีกหลายปาก ถึงแม้ว่าพ.ต.อ.วชิรา จะเสียชีวิตไปแล้วแต่คดีก็ยังดำเนินหน้าต่อเพราะมีพยานบุคคลอื่นๆที่ใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับพวกคดีได้และตำรวจก็ยังใช้หลักฐานอย่างอื่นประกอบได้สรุปคือถึงแม้ท่านจะเสียชีวิตไปแล้วแต่ก็ไม่ส่งผลกับรูปคดีและภาพรวมคดี

ที่แรก! เปิดนาทีปืนดัง ผู้กำกับวชิราดับ "ปรเมศวร์" ชี้ยิ่งตายตอนนี้ กำนันยิ่งซวย