"แสวง" แจงไต่สวนคดีอาญา ม.151 "พิธา" ยังไม่จบ ต้องพิสูจน์เจตนา ย้ำรอศาลรธน.วินิจฉัย

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องยุบพรรคการเมืองว่า คำร้อง ยุบพรรคการเมือง มีจำนวน 135 เรื่อง พิจารณาเสร็จสิ้นไปแล้ว 111 เรื่อง คงเหลือพิจารณา 24 เรื่อง ประมาณ 10 พรรคการเมือง โดยส่วนใหญ่เป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่

ส่วนคำร้องเกี่ยวกับการยุบพรรคก้าวไกล กรณีนโยบายหาเสียงที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสำนักงานกกต. โดยตนในฐานะนายทะเบียนที่กำกับดูแลพรรคการเมือง ก็ได้มอบหมายให้สำนักงานฯไปตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย

นายแสวง กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝากคำถามมายัง กกต. กรณีตั้งคณะกรรมการไต่สวนคดีอาญา มาตรา 151 กรณีรู้อยู่แล้วว่า ไม่มีสิทธิสมัครเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งสส.

นายแสวง กล่าวอีกว่า ขอชี้แจงว่า สำนวนคำร้องดังกล่าวมีกระบวนการพิจารณา เรื่องมาตรา 151 ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ และเรื่องนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ต้องรอพิจารณาว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร

โดยเฉพาะจะต้องดูที่เจตนา หากไม่มีเจตนาก็ไม่มีความผิด จะต้องพิสูจน์เจตนา เนื่องจากเป็นคดีอาญา คำร้องอยู่ในกระบวนการสืบสวนอยู่ หากเข้าข่ายการให้คุณให้โทษ จะต้องมีการเชิญมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา แตกต่างจากเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลและปรากฏในเอกสารราชการอยู่แล้ว โดยกระบวนการทั้งหมดอยู่ระหว่างพิจารณา

"เรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อกกต. พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามกฎหมายมีอยู่ 3 ลักษณะที่จะทำให้พ้นจากตำแหน่งกรณีการถือหุ้นสื่อ โดย 2 ลักษณะแรกมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นแนวทางแล้ว ขณะที่กรณีนี้มีข้อเท็จจริงอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีความแตกต่างกัน ซึ่งกกต. ไม่ใช่คนตัดสิน เพราะผู้ที่ตัดสินคือศาลรัฐธรรมนูญ" นายแสวง กล่าว