คดีพลิก! สาวชาวจีน เจ้าของโรลส์-รอยซ์ เตรียมเอาผิดกระบะซิ่งชนท้าย ยันไม่ได้บอกว่า ไม่เอาเรื่องแต่พูดและฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องจึงได้ขับรถหนีไป

จากกรณี กระบะแต่งซิ่ง หรือที่วัยรุ่นเรียก พ่อไอ้ออนิว ชนท้ายโรลส์-รอยซ์ มูลค่า 32 ล้าน กลางถนนมอเตอร์เวย์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.35 น. หลังจากที่เรื่องนี้ถูกแชร์บนโลกออนไลน์ ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยบางรายระบุข้อความว่า “คันนี้ 44 ล้านครับไปเช็กราคารถให้ล่ะ จะเป็นปัญหาว่า กระบะแต่งซิ่งจะมีประกันไหม”

เมื่อวานนี้ (15 ส.ค. 66) รายงานว่า เจ้าของรถ คันดังกล่าวนี้ เป็นหญิงชาวจีนอายุ 21 ปี เธอบอกว่าไม่ติดใจเอาความ เธอยอมรับว่าเบรกกะทันหันจริงๆ ถ้าไม่เบรกคันหลังก็ไม่ชน ยอมรับว่าเธอเองก็มีความผิดส่วนหนึ่ง เลยตกลงให้ต่างคนต่างซ่อม

แต่วันนี้คดีพลิก! สาวชาวจีนเจ้าของรถโรลส์-รอยซ์ พร้อมกับ ทนายเข้าแจ้งความเอาเรื่องกับเจ้าของรถกระบะเรียกร้องค่าเสียหายค่าซ่อมรถ

นาย อนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองกำกับการตำรวจทางหลวง 8 เพื่อเอาผิดกับคนขับรถกระบะที่ชนท้ายรถ เมื่อ 13 สค. ที่ผ่านมา จุดเกิดเหตุบริเวณ ถนนมอเตอร์เวย์ขาออก

ทนายความ เล่าว่า เจ้าของรถชาวจีนรายนี้ ทำธุรกิจร้านอาหารในไทยมีสาขาทั้งในกทม. และ พัทยา วันเกิดเหตุ กำลังจะนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการ ระหว่างที่ขับรถมาปกติเพียงลำพัง อยู่ ๆ รถกระบะคู่กรณีขับมาพุ่งชนท้ายอย่างแรง ตัวเธอจึงลงไปเจรจากับคู่กรณี แต่ด้วยความที่พูดไทยไม่ได้ จึงใช้ภาษามือ บอกว่าให้ไปเจอที่อู่รถ เพราะกำลังเอารถไปตรวจเช็ก ยืนยันไม่ได้บอกว่าจะไม่เอาความ เมื่อทราบจากข่าวจึงตกใจ และรีบปรึกษาทนาย ซึ่งเป็นทนายที่ดูแลว่าความให้เธออยู่แล้ว

หญิงสาวชาวจีน บอกผ่านล่ามว่า ไม่ได้เป็นคนผิด จึงไม่ยอมความ และอยากให้ตำรวจตามตัวคู่กรณีมารับผิดชอบ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ คนขับกระบะยังไม่ติดต่อมาเลย ส่วนความเสียหายอยากให้ประกันมาคุยกัน สำหรับรถโรลส์รอยซ์ มีประกันชั้น 1 โดยทันทีที่เธอมาถึง เธอได้เข้าไปให้ปากคำทันที โดยล่ามบอกว่า เดี๋ยวจะออกมาให้สัมภาษณ์สื่ออีกครั้ง

ทางด้าน พ.ต.ท.โสภณ โกมลสุทธิ รองผกก.สอบสวน กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง บอกว่า หลังจากนี้ จะตามตัวคนขับรถกระบะมาสอบปากคำ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ ทั้งคู่ยังไม่ได้มาแจ้งความ ตำรวจก็ทราบเรื่องจากโซเชียลเท่านั้น

จากนี้จะนำภาพวงจรปิดมาดูว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด โดยขณะนี้ ได้ตามตัวคู่กรณีพบแล้ว ไม่มีการหลบหนีแต่อย่างใดพร้อมที่จะมาเจรจา ตามกฎหมายต่อไป