สสจ.นราธิวาส แจงผลการตรวจคุณภาพน้ำ รัศมี 500 เมตรเป็นพิษ ขณะที่สภาพอากาศที่ "มูโนะ"ปลอดภัย

วันที่ 2 ส.ค. 2566 สำหรับบรรยากาศโดยภาพรวมที่บริเวณบ้านมูโนะ ม.1 ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโกล-ก จ.นราธิวาส ซึ่งมีการตั้งศูนย์บัญชาการร่วม ภายหลังเกิดเหตุโกดังเก็บประทัดและดอกไม้ไฟระเบิด เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จนสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นวงกว้าง

วันนี้ นายแพทย์ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส นำทีมลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบคุณภาพของน้ำและมลพิษทางอากาศ เนื่องจากมีสารพิษจากโกดังแตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ โดยระบุว่า "วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการส่งทีมงานมาตรวจคุณภาพของน้ำ ตั้งแต่จุด 200 เมตร รัศมี 500 เมตร และเกินกว่านั้น ซึ่งเราพบว่าน้ำในระยะ 500 เมตร ไม่สามารถนำมาใช้ได้เลยทุกกรณี ส่วน 500 เมตรขึ้นไปต้องใช้น้ำด้วยความระมัดระวัง ตอนนี้แหล่งน้ำที่เราใช้ในการดูแลประชาชนที่ได้รับความเสียหายก็จะเป็นประปาขององค์การบริหารส่วนตำบล น้ำบาดาลของโรงเรียนบ้านมูโนะ หลังจากนั้นก็จะเป็นส่วนของทหารต่างๆ ที่จะได้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือในพื้นที่

แต่ในส่วนของมลพิษทางอากาศ ตอนนี้ก็จะมีสำนักควบคุมโรคติดต่อ ลงพื้นที่สุ่มตรวจอากาศในแต่ละจุด ไม่พบความผิดปกติของอากาศ เพราะฉะนั้นตอนนี้น้ำในระยะ 500 เมตรห้ามใช้ แต่มลพิษทางอากาศโดยทั่วไปจากการสุ่มตรวจทั้ง 3 จุด ประกอบด้วย ไข่แดง ไข่ขาว กระทะ ก็พบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย"

นอกจากนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ยังกล่าวอีกว่า เมื่อเข้ามาในพื้นที่ในบางจุด ก็ยังมีประทัด เชื้อเพลิงเก่า ดินประสิว ซึ่งถ้าเราเดินเข้ามา โดยที่ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยจะยังได้มีกลิ่นอยู่ ซึ่งตอนนี้ยังมีดินประสิว แบเรี่ยม และอีกหลายอย่างที่อันตราย โดยแนะนำเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ต้องเข้ามาทำงานให้ใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ และในส่วนของชาวบ้านทั่วไปนั้นที่เดินเข้ามาเพื่อเช็กอิน ซึ่งพื้นที่อากาศรอบนอกไม่ได้มีอันตราย แต่คนที่เดินเข้ามาภายในต้องระมัดระวังตัว

ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีประชาชนเดินทางเข้ามาอยู่เป็นจำนวนมาก อยากแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อน เพราะตอนนี้ยังมีดินประสิวอยู่ เมื่ออากาศร้อนอาจจะมีการระเบิดตามมาได้ ถ้าเข้ามาสูบบุหรี่อีกก็จะเป็นปัญหาได้ ด้วยความห่วงใย จึงขอความร่วมมือประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง อย่าได้เข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ EOD ก็จะเข้ามาตรวจสอบในเรื่องของดินประสิวเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและไม่ให้เกิดระเบิดซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 681 ครัวเรือน จะต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ โดยการที่เราจะทำเมืองใหม่เข้ามาเพื่อจะให้ลืมภาพเก่าๆ ที่เคยประสบเหตุมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ครั้งนี้ หรือแม้แต่เหตุการณ์น้ำท่วมทุกๆ ปี โดยเราจะทำระบบใหม่ทั้งหมดซึ่งเป็นการเยียวยาที่ดีที่สุด ที่ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และที่สำคัญเรื่องการประเมินสภาวะจิตใจของผู้ประสบภัยตอนนี้อยู่ที่ 40% จากที่เราสำรวจได้มีความเสี่ยงที่จะเป็นเด็กวิตกกังวล 24% ซึ่งความกังวลนี้เกิดจากการสูญเสียญาติ สูญเสียทรัพย์สิน และในส่วนเรื่องที่พักถ้าเราได้ดำเนินการในส่วนนี้สำเร็จ สภาวะจิตใจอาจจะดีขึ้นเป็นลำดับ

ขณะที่นายมนตรี เชิญชมพู อายุ 62 ปี ชาวบ้านมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโกดังพลุระเบิด กล่าวว่า ตอนนี้บ้านผมพังหมดแล้ว ผมไปอยู่ที่อยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวก่อน ตอนนี้สิ่งที่อยากได้มากที่สุดคือ บ้านที่อยู่อาศัย และชุดเครื่องเสียงไว้ทำมาหากิน เพราะปกติจะให้เช่าชุดเครื่องเสียง

ที่ผ่านมาตนรับรู้มาตลอดว่า โกดังหลังนี้เป็นที่เก็บพลุ ดอกไม้ไฟ แต่เขาจะเอาของมาเก็บไว้เฉพาะในช่วงที่ใกล้เทศกาลสำคัญของมาเลเซีย เพื่อส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งโดยปกติเจ้าของโกดังจะกำชับลูกน้องเขาตลอดว่า ห้ามสูบบุหรี่ หรือทำอะไรที่เสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟ แต่วันเกิดเหตุเจ้าของโกดังไม่อยู่ โดยอยากให้เจ้าของมารับผิดชอบ