พระสงฆ์วัดบางคลาน จ.พิจิตร ต้องออกไปจำพรรษาวัดอื่น หวั่นไม่ปลอดภัยและไม่สงบ ด้านนายอำเภอโพทะเล วอน "บิ๊กโจ๊ก" เร่งลงพื้นที่ คลี่คลายปัญหา

วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 นายสุเมธ เมธีรัฒนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ความคืบหน้าของสถานการณ์วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ซึ่งขณะนี้ทางราชการได้ชะลอการนิมนต์พระครูสิทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน เข้าวัดบางคลานเพื่อประกอบศาสนกิจและจำพรรษาในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากภายในวัดบางคลานยังมีกลุ่มลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาสวัดที่มรณภาพไปแล้วยึดครองวัดอยู่ ซึ่งหากทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการก็สามารถทำได้ แต่หวั่นเกิดความกระทบกระทั่ง และเกิดความรุนแรงขึ้น

โดยที่ผ่านมา เจ้าอาวาสรูปใหม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตามกฎระเบียบของคณะสงฆ์ แต่ฝ่ายตรงข้ามคือฝ่ายอดีตเจ้าอาวาสไม่ยอมรับ และจะจัดหาพระมาเป็นเจ้าอาวาสเอง เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงเกิดมีความขัดแย้งกัน อีกทั้งทรัพย์สินของอดีตเจ้าอาวาส รวมถึงบัญชีธนาคารต่างๆ ของกลุ่มลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาส ก็ไม่ยินยอมส่งมอบให้เจ้าอาวาสรูปใหม่ และไม่ยินยอมให้คณะการได้ตรวจสอบ โดยกุญแจทั้งหมดอยู่ที่บุคคลหนึ่งซึ่งเป็นแกนนำในการต่อต้านขัดขวางทางราชการ และถูกศาลสั่งห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวภายในวัดบางคลานด้วย

นอกจากนี้ กองบังคับคดี พบว่า ที่ผ่านมามีลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคน ถือกุญแจวัดและมีการเบิกถอนเงินออกไปจำนวนหลายร้อยล้านบาท ซึ่งตรงนี้เจ้าอาวาสวัดรูปใหม่มีหลักฐานการเบิกถอนชัดเจน

สำหรับตอนนี้สิ่งที่น่า เป็นเป็นช่วงนี้คือช่วงนี้ใกล้วันเข้าพรรษา ที่พระสงฆ์ตามหลักศาสนาพุทธแล้วจะต้องมีวัดจำพรรษาเพื่อประกอบศาสนกิจ สำหรับพระครูสิทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลานนั้น ท่านเองก็ยังมีวัดหนองดง ที่อยู่พื้นที่ใกล้กันได้จำพรรษาไปก่อน ส่วนพระสงฆ์ในวัดบางคลานที่เคยมีพระจำวัดอยู่ราว 7-8 รูป ขณะนี้ได้ย้ายออกนอกวัดไปจำพรรษายังวัดอื่น เนื่องจากพระสงฆ์เองหวั่นเกรงไม่เกิดความปลอดภัย และหวั่นเกรงจะได้รับอันราย และทางกลุ่มยึดครอบครองวัดบางคลานได้นิมนต์พระสงฆ์จากจากวัดอื่นที่อยู่นอกพื้นที่มาอยู่ในวัดจำนวน 3 รูป ซึ่งพระทั้ง 3 รูปนี้ก็ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายเหมือนกัน ในข้อหาร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติการทวงคืนวัดบางคลาน เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

นายสุเมธ กล่าวอีกว่า การก่อเหตุยึดวัดบางคลาน และมีการใช้ความรุนแรงทำร้ายนายอำเภอ ทำร้าย อส. นั้น เป็นเหตุซึ่งหน้า ตำรวจเองควรเป็นโจทก์ร่วมกับเจ้าอาวาสวัดบางคลาน แจ้งความเอาผิดด้วย แต่ยังไม่มีการดำเนินการอะไร ทั้งๆ ที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกให้ตำรวจ สภ.โพทะเล ร่วมกันแจ้งความเอาผิดกลุ่มคนที่ร่วมกันขัดขวางด้วยเพราะเป็นเหตุซึ่งหน้า

ทั้งนี้ จึงอยาก ให้ พล.ต.อ. สุรเชรษฐ หักพาล เดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สินบัญชีต่างๆ ของวัดบางคลาน เพื่อที่จะได้ทราบกันไปว่าใครผิดใครถูก สำหรับคดีวัดบางคลาน มีคดีทั้งสิ้นอยู่เกือบ 70 คดี