ชาวกัมพูชาข้ามกลับฝั่งไทย หลังไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป ทำด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ คึกคัก พร้อมชูนิ้วเปื้อนหมึก ส่วนมากเป็นคนที่มาทำงานและค้าขายฝั่งไทย อีกทั้งคนกลุ่มนี้ยังสนใจการเมืองไทยมาก โดยต่างคาดหวังรัฐบาลใหม่จัดตั้งโดยเร็ว ฝากความหวังแก้เศรษฐกิจปากท้อง

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานถึงบรรยากาศการเดินทางเข้าออกของชาวกัมพูชา ที่ประตูด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในช่วงวันเลือกตั้งทั่วไป ของประเทศกัมพูชา ที่มีขึ้นในวันนี้ (23 ก.ค. 66) ซึ่งพบว่าบรรยากาศการเดินทางข้ามแดนขาออก เป็นไปอย่างเงียบเหงากว่าปกติ เนื่องจากชาวกัมพูชาที่มาทำงานยังฝั่งไทย ได้เดินทางกลับไปรอใช้สิทธิ์เลือกตั้งก่อนหน้านี้แล้ว เหลือเพียงส่วนน้อยที่จะข้ามแดนไปเลือกตั้งในวันนี้

ซึ่งพบว่าในช่วงเช้าหลังจากเวลา 08.30 น. เป็นต้นไป พบชาวกัมพูชาข้ามแดนมายังฝั่งไทยคึกคักมากขึ้น หลังต่างไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในช่วงเช้าเวลา 08.30 น.เสร็จแล้ว เพื่อข้ามแดนมายังฝั่งไทย เพื่อไปรับจ้างทำงานและค้าขายต่อ ที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิงฯโดยมี จนท.ตรวจคนเข้าเมืองสุรินทร์ คอยตรวจพาสปอร์ตและบอเดอร์พาสรวมทั้งเอกสารการเดินทางเข้าออกทั้งคนและรถยนต์ของชาวกัมพูชาที่กลับจากไปเลือกตั้งเสร็จแล้วอย่างเข้มงวด

โดยชาวกัมพูชาต่างโชว์นิ้วชี้ที่เปื้อนหมึกพิมพ์เอกสารใบลงคะแนนเลือกตั้งให้สื่อมวลชนดูอีกด้วย ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งอยู่ 3 หน่วย ในวัด 1 แห่ง และในโรงเรียน 2 แห่ง ในฝั่งชุมชนโอร์เสม็ด ต.โอร์เสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา โดยมีการเปิดหีบให้มีการเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 17.00 น. ท่ามกลางบรรยากาศเมฆฝนที่มืดครึ้ม ฝนตกสลับหยุดตลอดทั้งวัน

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวชาวกัมพูชารายงานว่า หากไม่จำเป็นจริงๆชาวกัมพูชาจะต้องไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะเกรงว่าเวลามีทุระทำเอกสารกิจการงานใดๆฝั่งกัมพูชาจะไม่ได้รับความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากทางการกัมพูชาจะมีการตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งอยู่แล้วอย่างเข้มงวดว่าใครให้ความร่วมมือในการใช้สิทธิ์เลือกตั้งบ้าง

ทั้งนี้บรรยากาศบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงเป็นไปตามปกติ มีรถบรรทุกสินค้าเดินทางเข้าออก รวมทั้งนักเสี่ยงโชคชาวไทยที่ยังคงเดินทางข้ามแดนไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้ง 2 แห่งอย่างคึกคักเช่นเดิม

สำหรับจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด แห่งนี้ การเดินทางเข้าออกจะไม่คึกคักเท่าด่านผ่านแดนด้าน จ.สระแก้ว จันทบุรีและตราด เนื่องจากฝั่งนั้นอยู่ใกล้พื้นที่ภาคกลางและจังหวัดที่ชาวกัมพูชานิยมเข้าไปทำงานมากกว่า

นอกจากชาวกัมพูชาที่ให้ความสนใจไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งของตัวเองแล้ว ยังให้ความสนใจการเมืองไทยอีกด้วย เนื่องจากชาวกัมพูชาที่มาทำงานและค้าขายยังฝั่งไทย ต่างก็คาดหวังให้ไทยมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้สำเร็จโดยเร็ว เพราะต่างยังฝากความหวังกับรัฐบาลใหม่ ของไทย ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ต่างจากประชาชนชาวไทยเช่นกัน