"ชัยธวัช" รับต่อสาย "เฉลิมชัย" แต่ไม่รับสาย ยันแค่เช็กเสียงขั้วตรงข้าม มองไม่มีโอกาส "ประวิตร" เป็นนายกฯ เสนอแข่งได้ แต่ประเมินแล้วคงไม่ผ่าน

วันที่ 18 นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวยอมรับว่า ได้โทรศัพท์ไปหานายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์จริง แต่ไม่ได้รับสาย โดยมีเจตนาจะไปเช็กท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร หากมีการเสนอนายกรัฐมนตรีจากเสียงข้างน้อย ไม่มีอะไร

เมื่อถามว่า ยืนยันว่าไม่มีการรวมเสียงมาโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่มี เพราะหากมีต้องเอาเข้าที่ประชุมพรรคก่อน รวมถึงหารือในที่ประชุม 8 พรรค

ส่วนเรื่องญัตติข้อบังคับที่ 41 ของรัฐสภา ที่ฝั่งตรงข้ามอาจจะมีการเสนอไม่ให้มีการโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นนายพิธาซ้ำได้ มีการเตรียมคุยกับวิป 3 ฝ่ายอย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า มีทางฝั่ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เห็นตรงกันว่าไม่น่าจะตีความว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นญัตติทั่วไปตามข้อบังคับที่ 41 ได้ หากไปตีความแบบนั้น จะขัดต่อรัฐธรรมนูญเสียด้วยซ้ำ เพราะการโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นการแยกออกมาตามรัฐธรรมนูญชัดเจน มีกระบวนการ มีหลักเกณฑ์ในการเลือกชัดเจน ซึ่งคล้ายกับการเลือกองค์กรอิสระของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งเมื่อก่อนก็เคยมีบ้าง บางครั้งที่มีการเสนอชื่อซ้ำ ก็ไม่เห็นมีการตีความว่าเข้าข่ายระเบียบข้อบังคับแบบนั้น มีการกำหนดวิธีการออกมาเฉพาะจากกติกาทั่วไปอยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญก็คงจะมีการหารือกัน

เมื่อถามว่าต้องให้จบภายในวันนี้หรือไม่ เนื่องจาก ส.ว.บางคนยังไม่เข้าใจว่าจะเสนอซ้ำได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ทาง 8 พรรคร่วมฯ ก็คงใช้เหตุใช้ผลให้ถึงที่สุด ส่วนจะต้องพูดคุยไปถึงเรื่องหากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องนายพิธาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่มี ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เรื่องนี้จะเหมือนกับกรณีปี 2562 ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ถูกยังเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้

เมื่อถามว่า กรณีที่รัฐสภาไม่สามารถเสนอนายพิธารอบ 2 ได้ พรรคก้าวไกลจะให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยในการดำเนินการต่อหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันใน 8 พรรคร่วมฯ

เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้นายพิธาขอให้ยึดตามคลิปวิดีโอแถลงการณ์ของตนเอง หมายถึงเสนอเพียง 2 รอบ จบที่วันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่าพรรคก้าวไกลเราชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล เรามีความมุ่งมั่นการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จให้ได้ หากมีการโหวตแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และถ้าเกิดวาระที่พรรคก้าวไกลเสนอเพิ่มเติมเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ไม่สามารถบรรจุได้ทันก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 เราคงต้องเปิดโอกาสให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดยเปิดทางให้พรรคเพื่อไทย

เมื่อถามย้ำว่าตัวเลขที่บอกว่ามีนัยยะสำคัญ ต้องเป็นจำนวนเท่าไหร่ นายชัยธวัช ตอบว่า คงไม่ต้องกะเกณฑ์ชัดเจน เราเห็นตัวเลขก็น่าจะประเมินได้

"ถ้ามันมีตัวเลขขยับขนาดนี้ ผมว่าประชาชนก็มีความหวังถูกไหมครับ" นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามว่าแสดงว่ารอบ 3 ก็อาจจะเป็นนายพิธาใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ถูกต้อง บอกแล้วว่าถ้าไม่มีโอกาสเป็นไปได้จริงๆ ก็คงต้องเปิดโอกาสให้กับประเทศ อยากให้การเมืองเดินต่อไปได้ ซึ่งที่จริงแม้ว่าเราจะมีสิทธิอันชอบธรรมในระบบรัฐสภาปกติ แต่แน่นอนเราเข้าใจดีว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติเท่าไหร่ คงต้องพยายามอย่างเต็มที่ คิดว่าเป้าหมายสุดท้ายที่ต้องจับไว้ให้มั่นคือจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคให้ได้

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยได้ขอตัวเลขชัดเจนหรือไม่ว่าได้เท่าไหร่ถึงจะจัดตั้งรัฐบาลแทน นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้คุยถึงขนาดนั้น แต่สรุปคือมีนัยยะสำคัญ ส่วนตัวเลข 344 เมื่อวานนี้อาจจะเป็นเพราะนายพิธายกตัวอย่างได้เสียงเพิ่ม 10% แต่ตนคิดว่าไม่มีสูตรตายตัว

เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลมีความกังวลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่าไม่ได้กังวลอะไร เราพยายามเช็กสถานการณ์ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเสนอชื่อพลเอกประวิตร

"เสนอก็ได้ แต่ไม่เชื่อว่าจะผ่านจากการประเมินอย่างรอบด้าน ส.ว.เอง ก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ ทางพรรค 10 พรรค 188 เสียง ก็ไม่น่าจะเป็นเอกภาพเรื่องนี้เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ค่อยมีความกังวลเท่าไหร่" นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามว่า หากพรุ่งนี้รัฐสภามีมติตีตกไปเนื่องจากเห็นว่าเป็นญัตติ จะให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยเลยหรือไม่ หรือรอ ม.272 นายชัยธวัช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประธานสภาว่าจะบรรจุวาระ ม.272 อย่างไร