ชาวต่างชาติขับกระบะเสยท้ายรถพ่วง อัดคนขับคาซาก กู้ภัยสุดยื้อเผยคำพูดสุดท้ายก่อนดับ

เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 18 ก.ค.66 ร.ต.อ.จตุรงค์ สงวนประสิทธิ์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี ว่ามีชาวต่างชาติขับรถยนต์กระบะชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อเสียชีวิต อยู่บนถนนสาย 304 ม.1ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี  จ.ปราจีนบุรี มุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา คนขับรถกระบะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

หลังรับแจ้งได้ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์พ่วง 18 ล้อ สีขาว ทะเบียน 85-2619 ชลบุรี พบนายบุญส่ง เป็นคนขับ ท้ายรถพ่วงพบรถยนต์กระบะฟอร์ด 4 ประตู สีส้ม ทะเบียน 3 กท 5974 กทม.ชนท้ายรถพ่วงอยู่ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน กระโปรงหน้ารถกระบะยุบ กระจกแตก คนขับติดอยู่ภายในรถ หน่วยกู้ภัยนำร่างออกมาจากตัวรถและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ไม่ทราบชื่อและสัญชาติ  ซึ่งก่อนเสียชีวิตผู้เสียชีวิตบอกว่าเป็นชาวต่างชาติและพูดไทยได้แต่พูดไม่ค่อยชัด เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว มอบให้หน่วยกู้ภัยนำศพส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง และจะได้เชิญคนขับรถบรรทุกไปทำการสอบสวนที่ สภ.กบินทร์บุรี ต่อไป

นายถวิล อยู่สุข อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี ร่วมกับเพื่อนมาช่วยเหลือหลังจากได้รับแจ้งเหตุ เมื่อมาถึงพบว่ารถกระบะพุ่งชนท้ายรถพ่วงที่จอดอยู่บนถนนทางเบี่ยงคู่ขนานขาขึ้นนครราชสีมา พบชายติดอยู่ในรถยังไม่เสียชีวิต แต่หายใจแผ่วเบา จึงช่วยนำร่างออกมาและทำ CPR และรถกู้ชีพของโรงพยาบาลนาดีมาถึง สนับสนุนที่เกิดเหตุและประเมินแล้วว่าเสียชีวิต ผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติและมาคนเดียว  

ทางด้านนายบุญส่ง จันทร์พิมพา คนขับรถพ่วงคู่กรณี กล่าวว่าตนเองขับรถพ่วงจากชลบุรีจะไปจังหวัดนครราชสีมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุช่วงประมาณตี 2 รู้สึกง่วงจึงขับรถเบี่ยงเส้นทางเลี่ยงเมืองเพื่อที่จะพักผ่อน ในเวลาต่อมาตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงดังโครม ที่ท้ายรถจึงลงมาดูเห็นรถกระบะพุ่งเข้ามาชนท้ายรถบรรทุกของตนที่จอดนอนอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ จึงตะโกนถามและให้การช่วยเหลือคนขับรถกระบะแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือออกมาได้ และมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือออกจากตัวรถดังกล่าว