จากกรณีตำรวจรับแจ้งว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าที่พักคนงานโรงเหล็กแปรรูป อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย สภาพนอนหงาย ตกลงมาจากเก้าอี้ บริเวณหน้าที่พัก เลือดกระจัดกระจายบริเวณจุดที่พบศพ และ มีเลือดไหลนองบริเวณศีรษะ สวมกางเกงชั้นในสีดำตัวเดียว ทราบต่อมาชื่อนายสัณต์ หรือโก๋ อายุ 42ปี

กล้องวงจรปิดหน้าโรงงานเผยเหตุการณ์ก่อนยิง

ขณะที่กล้องวงจรปิดที่โรงงานแปรรูปเหล็ก เวลา 19.32น. ของวันที่ 16 ก.ค.66 จะเห็นแสงไฟรถจักรยานยนต์นายสันต์ ขันชัยภูมิ ขี่เข้าไปยังที่พัก หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีรถคันอื่นขับเข้ามาอีก

ส่วนกล้องจากร้านค้า ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ในเวลา 19.31 น.เห็นนายสันต์ ผู้ตาย ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าร้านค้าไปที่โรงงาน

เวลา 21.02 น. จะเห็นเจ้าของร้านอาหารชะโงกหน้ามองออกไปทางถนน ฝั่งทางด้านโรงงาน หลังจากได้ยินเสียงรถยนต์ชนสุนัขของผู้ตาย ซึ่งจากการสันนิษฐาน คาดว่า สุนัขของผู้ตายน่าจะตกใจอะไรสักอย่าง แล้ววิ่งออกไปทางถนนจึงทำให้ถูกรถชน และกล้องอีกมุมของร้านอาหาร เวลาเดียวกัน หลังจากมีเสียงดังเจ้าของร้านชะโงกหน้ามองไปทางฝั่งโรงงาน ก่อนที่คนในร้านจะเดินออกไปดูพร้อมๆกัน

ต่อมากล้องภายในร้านอาหารเวลา 21.52 น. ลูกชายผู้ตายมาหาพ่อ และได้เดินมาที่ร้านอาหาร เพื่อมาเรียกให้เจ้าของร้านพาไปที่พักของผู้ตายก่อนที่ในเวลา 21.59 น. หลังเจอศพวิ่งกลับมาแจ้งกู้ภัย

เพื่อนบ้านเผยได้ยินเสียงคล้ายปืน

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับน.ส.บุญญรัตน์ อายุ 28 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เล่าให้ฟังว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนเองกำลังจะปิดร้าน ก็ได้ยินเสียงดังลักษณะคล้ายกับเสียงปืนดังขึ้น 2 ครั้ง ก่อนจะได้เสียงลักษณะคล้ายกับรถยนต์ชนสุนัข ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรและไม่ได้คิดจะออกไปดู สักพักได้ยินเสียงคล้ายกับรถยนต์ชนสุนัขอีกครั้งพร้อมกับเสียงสุนัขร้องเสียงดัง จึงได้วิ่งออกไปดู เห็นสุนัขนอนตายอยู่กลางถนน แต่ไม่ได้พบรถต้องสงสัยขับออกมาจากจุดเกิดเหตุหรืออยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ

จากนั้นไม่นานลูกชายของนายสัณต์ กับพี่สาวผู้ตาย เดินมาหาตนเองที่ร้านบอกให้ช่วยพาไปหาพ่อที่ทำงานอยู่ในบริษัทแห่งนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างมืด และเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล จึงทำให้ลูกชายผู้ตายไม่กล้าเข้าไปตนเองจึงให้แม่ของตนเองพาเข้าไป ซึ่งพอเข้าไปยังที่พักเห็นผู้ตายนอนจมกองเลือด จึงได้รีบวิ่งออกมาเพื่อโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สำหรับผู้ตายทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งนี้มาหลายปีแล้ว โดยกลางวันจะทำงานเป็นพนักงานบริษัท ส่วนช่วงกลางคืนจะนอนเฝ้าบริษัทเพียงคนเดียว ซึ่งในทุกเช้าผู้ตายมักจะมาชื้ออาหารและกาแฟหรือเครื่องดื่มที่ร้านประจำ โดยที่ผ่านมาตนเองเห็นผู้ตายไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร จึงไม่รู้ว่าสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้มาจากปมเรื่องอะไร ซึ่งต้องไปสอบถามกับครอบครัวผู้ตายจะรู้ดีที่สุด

จับคนร้ายได้แล้ว สารภาพได้รับการว่าจ้างจากอดีตนักการเมืองท้องถิ่น

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายชื่อนายปัญญา อาสานอก อายุ 34 ปีที่ก่อเหตุยิงนายสันต์ ก่อนจะนำมาชี้จุดเกิดเหตุ โดยเริ่มจากที่คนร้ายนำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ข้างบ้านของชาวบ้าน จากนั้นคนร้ายเดินย่องลัดเลาะมาตามป่าหญ้า ก่อนจะเดินอ้อมมาหยุดนั่งพักที่ด้านหลังที่พักผู้ตาย นั่งดูพฤติกรรมผู้ตายสักพัก เมื่อเห็นผู้ตายเดินออกจากที่พัก มานั่งเล่นโทรศัพท์มือถือที่เก้าอี้ ผู้ต้องหาได้เดินอ้อมมายังข้างที่พัก ซึ่งมีช่องว่างข้างฝาผนัง จากนั้นจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตาย จนกระทั่งเห็นผู้ตายล้มลง จึงได้รีบวิ่งหนีไปเอารถจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้

ทางทีมข่าวจึงได้สอบถามสาเหตุของการก่อเหตุในครั้ง ซึ่งผู้ต้องหายังไม่ให้การใดๆและทีมข่าวจึงได้สอบถามว่ามีปัญหาอะไรกับผู้ตาย ซึ่งผู้ต้องหาปฏิเสธ จากนั้นทีมข่าวจึงได้สอบถามว่ามีการจ้างวานให้มาก่อเหตุยิงนายสันต์หรือไม่ ซึ่งผู้ต้องหาก็ปฏิเสธเกี่ยวกับจ้างวานฆ่า

ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวนายปัญญา มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เบื้องต้น หลังจากสอบปากคำทราบว่า หลังก่อเหตุนายปัญญา อาสานอก หลบหนีมาอยู่กับแฟนสาวที่ตลาดในตัวเมืองชัยภูมิ และผู้ต้องหายังให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากอดีตนักการเมืองท้องถิ่น เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ให้มาฆ่านายสันต์ ส่วนปมการจ้างวานฆ่า มาจากเรื่องความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น

บุกยิงหัวชาวสวนคาบ้าน มือปืนอ้างนายสั่งเก็บจ่าย 1 หมื่นสกัดศัตรูการเมือง