จากกรณีเพจอีซ้อขยี้ข่าว 2 โพสต์รูปพระรูปหนึ่งและระบุข้อความว่า “▪️เกือบทุกคืนจะต้องออกมาบิณฑบาตรกับญาติโยมด้วยการงัดบวบโชว์ในแชต..(อุดรธานี)”

โดยผู้ร้องเรียนได้ส่งภาพนิ่งของพระรูปดังกล่าว ซึ่งทั้งคู่ได้คุยกันผ่านแชต จากนั้นพระรูปดังกล่าวได้ถ่ายภาพนิ่งโดยเปลือยท่อนบนแล้วเอาสบงปิดท่อนล่างไว้ ซึ่งบริเวณที่ถ่ายรูปก็อยู่ภายในกุฏิในวัด จึงร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรม

ซึ่งในเฟซบุ๊คส่วนตัว พระรูปดังกล่าวยังได้โพสต์ภาพของตน ซึ่งนุ่งสบงในลักษณะไม่สำรวมเปลือยท่อนบน อยู่ในกุฎิของตนเอง พร้อมระบุข้อความในภาพว่า “เว้าล่วงเว้าเลย เว้าไปบ่ถามเหตุ ถามผลความเป็นไปเป็นมา กรรมมันอยู่ที่ปาก อยู่ที่คำพูด เบื่อการตอบคำถาม เบื่อการอธิบาย

และยังมีการโพสต์คลิปของตนเองลงในติ๊กต๊อก นุ่งสบงไม่สำรวมโดยโชว์ท่อนบนที่มีรอยสักบริเวณแขนและหน้าอก พร้อมใส่เพลงประกอบ ซึ่งใน TikTok ได้ลงคลิปของตนเองหลายคลิปมีคนเข้าไปดูกดไลค์หลายคน

วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 จึงติดตามข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว จึงเดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่ง ต.โพธิ์ศรีสำราญ อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี หลังทราบว่าพระที่มีผู้ร้องเรียนมาคือ หลวงพี่แนน จำพรรษาที่วัดแห่งนี้

โดยทีมข่าวพบกุฏิของหลวงพี่แนน ซึ่งเป็นกุฏิเดียวกันที่ปรากฏในภาพของผู้ร้องเรียนที่ส่งเข้ามา ขณะที่ลงพื้นที่ไม่พบหลวงพี่แนน ประตูกุฏิล็อกเนื่องจากหลวงพี่ออกไปทำธุระข้างนอก พาโยมแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี ซึ่งเดินทางออกจากวัดตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

และทีมข่าวยังพบกล่องพัสดุที่อยู่ใต้แคร่ไม้ในกุฎิ โดยหลวงพี่แนนได้สั่งซื้ออาหารเสริมโปรตีนเพื่อมาทางที่วัดจากติ๊กต็อกช็อป

ทีมข่าวได้พูดคุยกับพระสมุ เสกศักดิ์ อายุ 40 ปี เจ้าอาวาส และได้นำรูปพระที่ปรากฏในภาพนิ่งที่มีผู้ร้องเรียนมาร้องให้ตรวจสอบ ทางเจ้าอาวาสวัดก็ยืนยันว่าเป็นพระลูกวัดของตน โดยคนในวัดจะเรียกว่าหลวงพี่แนนเผยตนตกใจมากที่มีคนร้องเรียนมา ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนเคยปรามพฤติกรรมหลวงพี่แนนมาแล้วหลายรอบ เพราะเจ้าตัวชอบถ่ายรูปตัวเองแล้วนุ่งสบงไม่สำรวมลงในเฟซบุ๊ก ก็พอทราบพฤติกรรมของเจ้าตัวที่ผ่านมา แต่ไม่เคยทราบว่าหลวงพี่แนนจะมีพฤติกรรมลักษณะถ่ายรูปของตนเองส่งให้โยมคนอื่นถึงแม้จะเป็นกลุ่มเพื่อน หรือเป็นกลุ่มคนสนิทก็ดูไม่เหมาะสม เพราะอยู่ในสมณเพศ

โดยหลวงพี่แนนเป็นหลานแท้ๆของตนและตนมีศักดิ์เป็นอา บวชมา 3 พรรษาแล้ว ก่อนบวชหลานของตนมีโรคประจำตัว แต่ตนไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นโรคใด หลานตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าหากหายป่วยจะมาบวช จนหายป่วยช่วงหนึ่ง จึงชวนหลานมาบวชเพราะจะได้สงบจิตสงบใจด้วย

ที่ผ่านมาเจ้าตัวเป็นคนขยันทำงานที่กรุงเทพและส่งเงินมาให้แม่และน้องชายที่บ้าน กระทั่งมาบวชก็พยายามรักษาศีล ควบคุมการแสดงออกของตนเอง เพราะหลานของตนไม่ใช่ผู้ชายแท้ๆมีลักษณะออกตุ้งติ้ง แต่ก็ไม่เคยแสดงพฤติกรรมลักษณะอวดเรือนร่างเหมือนรูปที่มีคนร้องเรียนส่งมาให้ดู แต่ส่วนจะคุยแชตกับผู้ชายหรือคนสนิทหรือไม่ ตนไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวจึงไม่ค่อยถาม

ขณะที่นางสาวกันยา กำนันต.โพธิ์ศรีสำราญ บอกว่า ตนก็เพิ่งทราบเรื่องที่มีคนร้องเรียนพฤติกรรมหลวงพี่แนน จากที่ทีมข่าวเปิดเผยข้อมูล ยอมรับว่าตกใจที่ทราบเรื่อง ส่วนตัวมองว่าตอนนี้หลวงพี่แนนบวชอยู่ ก็ไม่ควรมีพฤติกรรมอวดเรือนร่างหรือโพสต์ภาพในเฟซบุ๊กลักษณะไม่เหมาะสม เพราะเป็นพระสงฆ์ แต่ถ้าเป็นฆราวาสพฤติกรรมดังกล่าวไม่ผิด ก็ควรสึกหากจะทำพฤติกรรมดังกล่าว ส่วนเรื่องการลงโทษทางพระวินัยก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าอาวาส

โดยหลวงพี่แนนเป็นคนในหมู่บ้านแห่งนี้ ชีวิตหลวงพี่น่าสงสารพ่อแม่แยกทางกัน แล้วแม่หลวงพี่มาป่วย ทำให้ก่อนบวชต้องไปทำงานที่กรุงเทพ ส่งเงินหาเลี้ยงทั้งแม่ทั้งน้องชาย ต่อมาเจ้าตัวป่วยเอง หายป่วยก็มาบวชเป็นพระ พอบวชเป็นพระ วางตัวดีไม่มีพฤติกรรมเรื่องชู้สาว หรือแสดงออกลักษณะตุ้งติ้ง และเป็นคนขยัน จนเจ้าอาวาสไว้ใจให้ออกงานแทนบางงานหากติดธุระ

ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้สอบถามข้อเท็จจริงกับหลวงพี่แนนทางโทรศัพท์ โดยหลวงพี่แนนชี้แจงว่า ตนถูกกลั่นแกล้งจากพระรูปหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ แต่ตนเองไม่ขอเปิดเผยชื่อพระรูปนั้น ซึ่งตนก็จำไม่ได้ว่าพระรูปนั้นจำพรรษาที่วัดใด รู้จักกับพระรูปนี้เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ได้มีการพูดคุยกันแต่ไม่ใช่ในเชิงกามหรือชู้สาว จนกระทั่งเมื่อ 1 เดือนก่อน จู่ๆพระรูปดังกล่าวขอดูรอยสักของตน เพราะเห็นจากที่ตนโพสต์รูปหน้าเฟซแล้วบอกว่าชื่นชอบ ตนก็เลยถ่ายให้ดูตามปกติ แต่บังเอิญว่าในรูปมันเห็นขนที่หน้าท้องและขนขาของตน พระรูปนั้นก็เลยออกอุบายขอดูขนขา ขนจั๊กแร้ของตน อ้างว่าชอบคนมีขน ขนของตนสวยดี ตนก็เลยส่งให้ดูโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นเขาอ้อนขอหนักมาก โทรพระรูปนั้นได้ดูครั้งแรกก็ขอดูเรื่อยๆ รูปไหนที่ส่งไปแล้วไม่เห็นขน เขาก็จะอ้อนขอให้ตนถ่ายใหม่ เอาแบบที่เห็นขน ตนก็เลยหลงเชื่อ ถ่ายให้ดูเรื่อยๆเพื่อให้มันจบๆไป “ไม่งั้นก็ไม่เสร็จสักที” แต่ไม่มีการส่งรูปอวัยวะเพศให้ และทุกครั้งที่ตนส่ง จะมีการยกเลิกรูปตลอด แต่ตนไม่ทราบว่าพระรูปนั้นเซพรูปของตนหรือไม่

จนถึงช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2566 แม่มีปัญหาทางการเงิน ตนก็เลยตัดสินใจขอยืมเงินจำนวน 2,000 บาทจากพระรูปนั้น เพื่อให้แม่จ่ายค่าเช่าบ้าน เขาก็ให้ยืมตามปกติ แต่ผ่านไปไม่ถึง 3 วัน เขาก็ทวงเงินคืน ซึ่งตนยังไม่มีให้ ขอเวลาจนถึงสิ้นเดือน เขาก็ไม่ยอม โทรขู่มาว่า “เดี๋ยวจะได้เห็นดีกัน จะได้รู้ว่าผมเป็นยังไง” แล้วก็วางสายไป ก่อนจะทำการบล็อกช่องทางติดต่อของตนไปทั้งหมด

ทำให้ตนมานั่งคิดย้อนหลังว่าไม่น่าเผลอส่งให้ตั้งแต่แรก เพราะเขาไม่เคยส่งรูปแบบนั้นของเขามาให้ตนเลย แล้วพอมีรูปหลุดออกมา ตนก็มั่นใจว่าต้องเป็นพระรูปนั้น แต่ยืนยันว่านอกจากเงิน 2,000 บาท ตนกับเขาไม่มีความขัดแย้งอื่น และไม่คิดเหมือนกันว่าเขาถึงทำแบบนี้ได้ เพราะตนตั้งใจคืนเงินให้ตอนสิ้นเดือนมิถุนายน 2566 อยู่แล้ว

หลวงพี่โชว์ซิกแพ็กอวดขนอุย แฉความลับที่ทำไปถูกบีบคั้น