ศาลออกหมายจับตำรวจเพิ่ม 2 นาย พลเรือน 1 คน หลังสืบสวนเพิ่มเติมพบต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงิน 140 ล้านบาท จากผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์

วันนี้ (26 มิ.ย.66) เวลา 13.00 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ความคืบหน้าในคดีกลุ่มตำรวจถูกกล่าวหา ร่วมกับพลเรือน เรียกรับเงินจากผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาทว่า เมื่อวานที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ยื่นขอหมายจับตำรวจ 12 นาย พลเรือน 1 คน กับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ศาลพิจารณาแล้วออกหมายจับตำรวจให้ 2 นาย พลเรือน 1 คน พร้อมให้เหตุผลว่า ตำรวจในกลุ่มที่ไม่ออกหมายจับเพราะเห็นว่า มีที่อยู่ มีข้อมูล ให้เรียกมารับทราบข้อกล่าวหาได้และบางนายก็มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มแรกที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนไปแล้วด้วย

ส่วนพลเรือนที่ถูกออกหมายจับเพิ่ม ก็เป็นคนในกลุ่มของนายบอย อยู่ระหว่างติดตามตัว ขณะที่การติดตามตัวนายบอย และภรรยา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้ติดต่อมาหา บอก อยากจะมอบตัว ซึ่งได้แจ้งไปแล้วว่า สามารถมอบตัวได้ทุกเมื่อ ปัจจุบันทราบว่าอยู่ในสิงคโปร์ ถ้าเขาอยากอยู่สิงค์โปร์ก็ให้อยู่ อยู่ไปเลยเต็มที่ ขังไว้ที่เกาะสิงคโปร์ทั้งคู่นั่นแหละ และตนก็ได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพิกถอนหนังสือเดินทางของทั้งคู่แล้ว ทันทีที่ทั้งคู่เดินทางออกนอกสิงคโปร์ ก็จะถูกควบคุมตัวทันที

ส่วนกรณีของอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้ส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ให้พนักงานสอบสวนแล้ว แต่ตัวเองยังไม่ได้อ่าน ซึ่งหากอ่านตรวจสอบแล้ว มีข้อสงสัยก็จะเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมภายหลัง

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุด้วยว่า
คดีการเรียกรับเงินรวมวงเงิน 140,000,000 บาท เกิดจากการไม่สมประโยชน์กัน โดย ก่อนหน้าที่จะมีการแจ้งความที่สภ.คูคต นายเป้ ได้เข้ามาพบ เพื่อร้องเรียนเรื่องดังกล่าว จึงได้แนะนำว่า ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้ไปแจ้งความ

สำหรับคดีนี้ การสืบสวนสอบสวนมาจนถึงขณะนี้พบว่ามีตำรวจตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการร่วมกันเรียกรับเงินอย่างน้อย 15 นาย ด้วยกัน พลเรือน รวมเป็น 4 คน

ส่วนในตั้งต้นเว็บพนันออนไลน์ที่นายเป้เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ ก็อยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน ซึ่ง สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี เป็นเจ้าของคดี

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้ระบุ ถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร้องเรียนต่อ สอท. กรณี อ้างว่า ตำรวจ 3 นาย ในชุดทำงานคดีเรียกรับเงิน 140 ลัาน มีประวัติก่อเหตุเรียกรับเงินจาก คดี มาเก๊า 888 ด้วยว่า ก็เป็นเรื่องที่ดี หากตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นความจริงก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือเป็นลูกน้อง แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริงก็ไม่มีแนวคิดที่จะฟ้องกลับผู้ที่กล่าวหา

พร้อมระบุ ว่า การตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเรื่องที่ดีหรือแม้แต่การที่ตำรวจตรวจสอบตำรวจด้วยกันเองก็เป็นเรื่องที่ดีเป็นประโยชน์ต่อประชาชน