หลานสุดทนรัว 6 นัดเจาะหัวอาดับเซ่นมรดกเลือด ญาติเผยคำขู่ "ต้องอยู่คนละโลก"

จากกรณี เมื่อช่วงเช้า เวลา 06.30 น. (27 พ.ค.) สภ.วังวิเศษ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายบนถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้าน สายพรุเดียว-ช่องหาร อ.วังวิเศษ จ.ตรัง

ที่เกิดเหตุพบศพนายประดับ 55 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนถนน สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 เข้าที่ศีรษะ สะโพก และแขน รวม 6 นัด

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายครรชิต อายุ 38 ปี เป็นหลานของนายประดับเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้มีเรื่องขัดแย้งเกี่ยวกับที่ดินกันมานานและมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 พูดคุยกับ นางจินดา อายุ 53 ปี ภรรยาของนายประดับผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายครรชิตเป็นหลานชายของสามีตนเอง ซึ่งสามีมีศักดิ์เป็นอา โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวตนเองกับครอบครัวนายครรชิตก็ดีกันปกติ แต่เริ่มจะมีปัญหากันหลังจากย่าเริ่มแบ่งที่ดินสวนปาล์มให้กับญาติพี่น้อง เมื่อ 14 ปีก่อน

โดยนายครรชิต ได้ส่วนแบ่งที่ดินไปเกือบ 10 ไร่ ซึ่งย่าได้แบ่งให้ลูกหลานทุกคนเท่าๆกัน แต่หลังจากนั้น นายครรชิตจะเอาเพิ่มและมาขอสร้างบ้านในที่ดินของสามีตนเองที่ย่าได้แบ่งไว้ให้แล้ว ตอนแรกสามีก็ยอมเห็นว่า เป็นญาติพี่น้องกัน แต่พอเวลาผ่านไป นายครรชิตได้มีครอบครัวและลูก ก็เริ่มสร้างโรงจอดรถเพิ่ม สร้างคอกวัวเพิ่ม ทำให้อาณาเขตบ้านของนายครรชิต รุกล้ำที่ดินของสามีตนเองไปเรื่อยๆ ล้ำไปประมาณ 1 ไร่แล้ว

และล่าสุดเมื่อ 4 พ.ค. หลังจากย่าได้เสียชีวิต ก็เริ่มมีปัญหากันรุนแรงขึ้น นายครรชิตได้โวยวาย และจะเอาที่ดินเพิ่ม และด่าสามีตนเองเสียๆหายๆ เคยเอาปืนจ่อหัวญาติคนในครอบครัว เคยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า จนตำรวจจับและปล่อยตัวก็มีมาแล้ว

จนล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา นายครรชิต ได้มีปากเสียงกับสามีตนเองอีกครั้ง โดยถามสามีว่า “มึงจะสู้กับกูใช่ไหม” สามีตอบไปว่า “ใครกันแน่ที่หาเรื่องก่อน” ก่อนที่นายครรชิต จะขู่ “มึงกับกูใครต้องตายกันไปข้าง

กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ สามีตนเองได้นำวัวขึ้นรถกระบะเพื่อไปกินหญ้าตามปกติของทุกวัน ซึ่งระหว่างนั้น ตนเองเห็นนายครรชิต นั่งอยู่หน้าบ้านจ้องมองสามีตนเองตาไม่กะพริบ

กระทั่งสามีตนเองขับกระบะเอาวัวออกจากบ้าน ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ก็เห็นนายครรชิต ขี่มอเตอร์ไซค์ตามออกไป ซึ่งตนเองตอนนั้นก็ไม่คิดว่า มันจะตามไปยิงสามี มาทราบข่าวอีกทีคือ หลานขี่รถไปตามหาเพราะเป็นห่วง และมาพบว่า สามีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนเองตกใจมาก และไม่คิดว่า นายครรชิต ซึ่งใช้นามสกุลเดียวกัน จะกระหน่ำยิงสามีอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้

ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่และเชิญตัวนางมด ภรรยาของนายครรชิต ผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ โดยเธอยืนยันว่า สามีของตนเองไม่ได้สร้างบ้านรุกล้ำที่ดินของนายประดับอย่างที่ครอบครัวของนายประดับอ้าง

และได้สร้างตามอาณาเขตที่ย่าได้สั่งเสียไว้ก่อนตายทุกอย่าง และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บ้านคนจะสร้างปลูกเพิ่มเติม เพราะชีวิตครอบครัวก็ต้องเติบโตไปเรื่อยๆ ซึ่งสามีได้สร้างในพื้นที่ของตัวเอง ถึงแม้จะไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณะอักษร เพราะที่ดินเป็นที่ดิน ส.ป.ก. แต่ย่าได้ปลูกต้นมะพร้าวแบ่งอาณาเขตไว้ให้ชัดเจน เชื่อว่า อีกฝ่ายน่าจะมีอคติส่วนตัวมากกว่าและไม่พอใจที่สามีมาสร้างบ้านและขยายพื้นที่ไปเรื่อยๆ

ส่วนก่อนจะเกิดเหตุยอมรับว่า สามีพูดหาเรื่องนายประดับก่อน ซึ่งสามีจะเป็นคนอารมณ์ร้อน ตนเองพยายามห้ามสามีให้ใจเย็นๆเเล้ว แต่สามีไม่ฟัง ตนเองจึงขี้เกียจพูดและปล่อยเลยตามเลย เพราะก่อนหน้านี้เคยห้ามก็เคยถูกสามีทำร้ายจนดั้งจมูกหักมาแล้ว

เมื่อคืนนี้สามีได้พูดขู่นานประดับว่า “มันต้องตายกันไปข้าง” ตนเองก็ไม่คิดว่าสามีจะกล้าไปยิงนายประดับขนาดนั้น และเมื่อสามีก่อเหตุไปแล้ว ก็ต้องยอมรับผลกรรมที่ตัวเองก่อ ตนเองจะไม่ช่วย

ทั้งนี้ ตนเองเป็นเพียงเมียเก่า สามีไปมีเมียใหม่ได้ 3 ปีแต่ก็อยู่บ้านหลังเดียวกัน ซึ่งเมียใหม่ของสามีก็เพิ่งคลอดลูกน้อยได้ประมาณ 3 เดือน ไม่คิดเลยว่าสามีจะคิดสั้นไม่คิดถึงลูกเมียขนาดนี้

อย่างไรก็ตามขณะนี้ ตำรวจติดตามจับกุมตัวนายครรชิตได้แล้ว โดยจับกุมได้จับกุมได้ที่บ้านเพื่อน ในต.คลองลุ อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

มึงกับกูต้องตายกันไปข้าง