จากกรณีที่มีผู้โสต์คลิปเหตุการณ์ที่มีเหตุทะเลาะวิวาท และมีการใช้ท่อนเหล็กทุบกระจกรถกระบะตู้ทึบจนได้รับความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ นายสุริยา แก้วโสภา อายุ 30 ปี ผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรถที่ถูกทุบ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าสาเหตุเกิดจากผู้ก่อเหตุหาว่า ตนเองไปขับรถปาดหน้าพ่อของผู้ก่อเหตุ โดยผู้ก่อเหตุมาเคาะกระจกถามตนเองตรงแยกไฟแดง ซึ่งตนเองก็ถามไปว่าตนไปปาดตรงไหน ผู้ก่อเหตุก็ตะโกนด่า ตนจึงปิดกระจกและขับออกไป ผู้ก่อเหตุก็ขี่ จยย.พ่วงข้างตามไป โดยตนเองขับเบียดนิดเดียว แต่ไม่ถึงกับทำให้รถพ่วงข้างล้ม เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นไฟแดง ผู้ก่อเหตุก็หยิบเหล็กออกมาทุบกระจกด้านหน้ารถ 2-3 ครั้ง กระจกไม่แตก จึงหันมาทุบกระจกฝั่งคนขับจนแตกแล้วลากตนเองมาตีหมายที่ศรีษะ แต่ตนเอาแขนนับไว้จนได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่มีพลเมืองดีมาช่วยแยก

ซึ่งตอนที่ผู้ก่อเหตุทุบกระจกนั้นมีลูกและภรรยาของตนอยู่ในรถด้วย ส่วนตนเองได้ได้รับบาดเจ็บตามใบรับรองแพทย์ก็คือแขนผิดรูป มีแผลฉีกขาดเย็บ 2 เข็ม

ด้าน น.ส.วันวิสาข์ พลรบ อายุ 36 ปี ภรรยาของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุทั้งตนเองและลูกวัยแค่ 2 ขวบ 5 เดือน อยู่ในรถ โดยตนเองอุ้มลูกอยู่เพราะลูกตัวร้อนไม่สบายกำลังพาไปหาหมอ โดยตนเองนั้นได้พยายามกอดและเอาตัวบังลูกไว้ ไม่คิดว่าผู้ก่อเหตุจะกล้าทำขนาดนั้นเพราะในรถมีทั้งเด็กและผู้หญิง และลูกก็ร้องไห้เสียงดังโชคยังดีที่มีชาวบ้านแถวนั้นเข้ามาห้ามแยกไม่ให้ผู้ก่อเหตุตีสามีของตัวเองและมีคนมาช่วยพาลูกตนเองออกจากรถ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองตกใจมากเพราะถ้าเกิดว่าลูกตนเองถูกตีคงจะหนักมาก ทั้งที่ไม่เคยรู้จักและมีเรื่องกันมาก่อนแต่กลับทำถึงขนาดนี้ ตอนนี้ตนเองได้ไปแจ้งความไว้แล้วอยากให้ตำรวจดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะพฤติกรรมน่ากลัวมาก