"บิ๊กโจ๊ก" นำทีมเปิดปฏิบัติการเข้าค้น 4 จุด ขยายผลกรณี น.ส.นวพร เกี่ยวเนื่องกับการสวมบัตรชมพูและอุ้มบุญ เตรียมหารือมหาดไทยแก้ไขช่องโหว่การสวมบัตร

วันที่ 13 เม.ย. 2566 จากกรณีเมื่อวันที่ 8 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่สืบสวนได้จับกุม น.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล ผู้ต้องหา ในกรณีการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และใช้เอกสารเท็จในการทำบัตรชมพูให้กับบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับจ้างอุ้มบุญของคนจีน ตามที่สื่อมวลชนและโลกโซเชียลนำเสนอไปแล้วนั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม กรณีน.ส.นวพร ประสานเจ้าหน้าที่เขต เพื่อนำชื่อของบุคคลต่างด้าวเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อทำบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับจ้างอุ้มบุญให้คนจีน โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.6 สน.บางรัก และ สน.ยานนาวา ได้สนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจค้น 4 จุดที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.นวพร ประกอบด้วย
1. บ้านของ น.ส.นวพร ภายในซอยสาทร 11 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ
2. ที่ตั้งบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง และสมาคมส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจไทย-จีน ซอยสาทร 11 ซึ่ง น.ส.นวพร ใช้ในการแอบอ้างกับคนจีนเพื่อหลอกลวงสร้างความน่าเชื่อถือ
3. ที่ตั้งบริษัทแห่งหนึ่งในซอยสาทร 11 ซึ่งเป็นบริษัทที่รับรองว่า นายหม่าหมิงชุน (ผู้เสียหายคดี สภ.หนองปรือ) เป็นพนักงาน
4. สมาคมแห่งหนึ่ง ย่านถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่งสืบทราบว่า น.ส.นวพรได้ให้คนนำพยานหลักฐานไปซุกซ่อนในที่ดังกล่าว

ผลการตรวจค้นพบว่า มีการทำลายเอกสารสำคัญหลายอย่าง ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงของ สน.ประเวศ รวมทั้งเอกสารที่แสดงถึงความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเพื่อนำไปขยายผลดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการเข้าค้นทั้ง 4 จุดในวันนี้ เป็นการขยายผลเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับ น.ส.นวพร เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสวมบัตรชมพูและการอุ้มบุญ ซึ่งจากนี้จะมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งกรณีการอำนวยความสะดวกในเรื่องการทำบัตรชมพูและการรับจ้างอุ้มบุญให้กับคนจีน นอกจากนี้จะมีการประชุมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อวางแผนในการแก้ไขช่องโหว่ที่อาจส่งผลให้กลุ่มทุนจีนสีเทาเหล่านี้ ดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์ในการกระทำความผิดในประเทศไทย เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดของกลุ่มทุนจีนสีเทาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต