"มาดามเดียร์" เดินตลาดบองมาร์เช่ ขอเสียงสนับสนุนให้ "ผู้การแต้ม" มั่นใจชาว กทม. จะให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์กลับมา ด้าน "ผู้การแต้ม" ปูดมีบางพรรคเริ่มจะเล่นนอกกติกา ฝากประชาชนช่วยจับตา

น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ผศ.ดร.เจนจิรา รัตนเพียร (ดร.เจน) ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ตลาดบองมาร์เช่ เขตจตุจักร ช่วยแนะนำตัวและขอเสียงสนับสนุนให้กับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตหลักสี่-จตุจักร หมายเลข 14 พรรคประชาธิปัตย์

 

โดย พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ทุกวันได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นจำนวนมาก เข้าใจถึงตัวบุคคลที่ลงสมัคร และนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงผลงานที่ผ่านมาที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นนโยบายที่ทำได้จริง มีประโยชน์ และไม่สร้างภาระให้กับลูกหลาน พี่น้องประชาชนในหลายบ้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าจะกลับมา สมาชิก แฟนคลับที่อาจจะเคยทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ไปวันนี้ก็จะกลับมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนคู่แข่งในพื้นที่นั้นทุกคนก็มีความรู้ความสามารถ แต่สิ่งที่สำคัญวันนี้ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลได้จากการทำงานจากนโยบาย แต่อาจมีหลายพรรคที่จะเล่นนอกกติกา มีการเตรียมใช้เงิน แต่ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มี เพราะเราจะใช้ความรู้ความสามารถของผู้สมัคร และนโยบายของพรรคในการต่อสู้ เพราะการใช้เงินไม่มีประโยชน์ แต่ประโยชน์อยู่ที่สิ่งที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากกว่า และคิดว่าเรื่องนี้ประชาชนมีการเฝ้าระวัง จับตามอง การจะใช้เงินจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งสมัยนี้มีเทคโนโลยีก้าวหน้า มีโทรศัพท์มือถือที่สามารถตรวจสอบได้ง่าย จึงอยากฝากพี่น้องประขาชนให้จับตาเฝ้าระวังผู้ที่คิดไม่ดีกับระบอบประชาธิปไตย ประเทศชาติ และประชาชน

 

ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวว่า ระยะเวลาอีก 30 กว่าวันนั้น เป็นเพียงการย้ำการหาเสียงของผู้สมัครและพรรค แต่ความจริงตนเชื่อว่าประชาชนมีการตัดสินใจและเฝ้ามองผู้สมัครมานานกว่านั้น ว่าใครที่ตั้งใจทำงานจริงและมีความสม่ำเสมอ และที่สำคัญคือไม่ทิ้งพื้นที่ จึงเชื่อว่าสิ่งที่ประชาชนจะตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่ 30 วันในโค้งสุดท้าย แต่เป็นเรื่องของการทำงานสม่ำเสมอ และแม้ว่าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มี ส.ส.ในพื้นที่ของกรุงเทพฯ แต่ 4 ปีที่ผ่านมา เราได้พิสูจน์แล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทิ้งพื้นที่และพี่น้องชาวกรุงเทพฯไปไหน และตนมั่นใจว่าประชาชนจะเห็นถึงความตั้งใจในการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ และที่สำคัญคือประชาชนจะให้โอกาสกับผู้สมัครและพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน ทั้งนี้ตนไม่อยากใช้ว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นจุดแข็งหรือจุดอ่อน เพราะการทำงานต้องทำมาอย่างต่อเนื่องและทำมาโดยตลอด มันคงไม่ใช่แค่เพียง 30 วันแล้วจะไปขอคะแนนเสียง จะไปเจอพี่น้องเพียงแค่ 1 ครั้ง แล้วแปลว่าเขาจะยอมยกใจเลือกลงคะแนนเสียงให้กับพรรคใดพรรคหนึ่งโดยทันที

 

“ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเราอาจมีการเปลี่ยนใจไปบ้าง อยากจะได้ของใหม่บ้าง แต่วันนี้เดียร์ว่าหลายๆคนที่เปลี่ยนใจไปเลือกของใหม่ ไปเลือกของชั่วครั้งชั่วคราวก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเวลาที่ท่านเปลี่ยนใจไป ก็ไม่มีคนดูแล ไม่มีความต่อเนื่องในการการลงพื้นที่ แต่ว่าพรรคประชาธิปัตย์เองเป็นพรรคที่อยู่คู่กับคนกรุงเทพมาโดยตลอด เราเข้าใจปัญหาของคนกรุงเทพมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นจึงเป็นพรรคที่มีความเข้าใจ และสามารถลงมือแก้ไขปัญหาได้ทันที” น.ส.วทันยา กล่าว

 

น.ส.วทันยา ได้เชิญชวนว่าในการเลือกกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ เราจะตัดสินใจเลือกผู้แทนอย่างไรที่จะไปเป็นปากเป็นเสียง และแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง และตนยังเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังคงมีฐานแฟนคลับที่ยังคงเหนียวแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์ มีหลายคนเดินเข้ามาขอโทษที่ครั้งก่อนได้เปลี่ยนใจไปเลือกพรรคอื่น แต่ครั้งนี้จะกลับมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน และเราก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าในการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่นยึดประชาชนเป็นที่ตั้งและยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งประชาชนจะเข้าใจและให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์กลับมา