วิกฤต ! เร่งช่วยราษฎรไฟป่าลามไหม้ไปทั้งหลัง แม่ฮ่องสอนอ่วมหมอกควันฟุ้ง หายใจฟึดฟัด

31 มี.ค. 66 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจากกรุงเทพ ได้ร่วมกับมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอนนำเงินและสิ่งของไปมอบช่วยเหลือแก่ราษฎรที่บ้านไม้เดื่อโง้ม ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ที่ประสบเหตุบ้านเรือนถูกไฟป่าลุกลามเข้าไหม้เสียหายวอดทั้งหลัง ซึ่งขณะเกิดเหตุคนในบ้านออกไปรับจ้างทำงานไม่มีใครอยู่บ้านข้าวของทุกอย่างจึงถูกเผาผลาญทั้งหมด ต้องไปอาศัยหลับนอนกับเพื่อนบ้านเป็นการชั่วคราว

 

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าของจังหวัดแม่ฮ่องสอนในวันนี้ ทั่วทุกพื้นของ 7 อำเภอในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกปกคุมด้วยหมอกควันไฟป่าอย่างหนาแน่น ถึงขั้นระเคืองตา ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก p.m 2.5 สถานีวัดที่ ต.เวียงใต้ อ.ปาย สูงถึง 422 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงเป็นอันดับหนึ่งของภาคเหนือ และสถานีวัดที่ ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอนอยู่ที่ 303 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้บรรยากาศในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเป็นไปอย่างเงียบเหงา ผู้คนเก็บตัวอยู่ในบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดม และสัมผัสหมอกควันที่ปกคลุมเมืองแม่ฮ่องสอนติดต่อกันมานานเข้าสัปดาห์ที่สี่ โดยเฉพาะที่บริเวณสนามกีฬากลางเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนก่อนหน้านี้มีผู้คนมาออกกำลังกายกันทุกวัน แต่เช้านี้หลังหมอกควันมีมากไม่มีผู้ใดมาออกกำลังกายแม้แต่คนเดียว

 

ขณะนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟป่าปกคุมเมืองอย่างหนาแน่นแล้วนับหมื่นคน ส่วนใหญ่จะเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ และเหยื่อบุตาอักเสบ ซึ่งทางสถานพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีการเตรียมพร้อมห้องปลอดฝุ่น เพื่อรองรับผู้ป่วยโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง นอกจากนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจ.แม่ฮ่องสอนและเหล่ากาชาดจังหวัดยังได้ออกแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนให้ได้สวมใส่เพื่อเป็นการป้องกันอีกทางหนึ่งด้วย

 

ทั้งนี้ศูนย์เฉพาะกิจแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการวิเคราะห์ปัญหาของการเกิดไฟป่าในแต่ละปี ส่วนหนึ่งมาจากเกษตรกรแถ้วถางเพื่อเตรียมพร้อมพื้นที่ทำการเกษตร มีการเผาเศษวัชพืชโดยขาดการควบคุมจนทำให้ไฟลุกลามขยายวงกว้างออกไป การาจุดไฟเผาป่าเพื่อลดการสะสมของเชื้อเพลิงซึ่งชาวบ้านให้เหตุผลว่าในแต่ละปีจำเป็นจะต้องจุดไฟเผาจำพวกใบไม้แห้ง ถ้าหากปล่อยไหว้ไม่กำจัดจะเกิดการสะสมใบไม้เพิ่มมากอาจเกิดไฟป่ารุนแรงสร้างความเสียหายให้ชาวบ้านได้ และการจุดไฟเพื่อหาของป่าหรือล่าสัตว์ เป็นต้น

 

ด้านนายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สภาพอากาศหมอกควันและฝุ่นละอองกระจายเต็มเมืองเยอะมาก ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ควันไฟกระจายปกคุมไปทั่วภาคเหนือ ซึ่งต้นเหตุมาจากการลักลอบเผาป่าและการเผาเศษวัชพืชทางการเกษตร โดยทางจังหวัดได้ออกประกาศห้ามเผาอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้ฝ่าฝืนจะได้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ควบคู่กับการรณรงค์ให้ชาวบ้านเก็บใบไม้มาจำหน่ายให้กับบริษัทรับซื้อเพื่อนำไปแปรรูปเป็นภาชนะหรือถ่ายอัดแท่ง การรณรงค์ทำความเข้าใจกับชาวบ้านไม่ให้มีการจุดไฟเผาป่าและช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าเผชิญเหตุดับไฟตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการให้รถบรรทุกน้ำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกทำการพ่นละอองน้ำเพื่อสลายหมอกควันวันละ 4 – 5 รอบทุกวัน